ในที่สุดก็เป็นไปตามคาดเมื่อ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้ประกาศแต่งตั้ง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ให้เข้ามารับงานเป็นกุนซือคนใหม่แทนที่ โธมัส ทูเคิ่ล ที่โดนสั่งปลดไปก่อนหน้านี้
หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าในอดีตสมัยเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็เคยเป็นเด็กเก่าของ เปแอสเช มาก่อน และวันนี้มันก็ครบรอบ 20 ปีพอดีที่เจ้าตัวได้กลับมาใช้ชีวิตที่นี่อีกครั้ง วันนี้สิ่งที่ "ขอบสนาม" อยากนำเสนอก็คือการพาทุกท่านไปย้อนอดีตดูกันว่าในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายคนนี้บ้าง ?
บ้านหลังเก่า
"ผมเคยพูดอยู่เสมอว่าผมอยากย้ายไปอยู่กับสโมสรที่ยอดเยี่ยมอย่าง เปแอสเช การย้ายมา ปารีส น่ะเหรอ ? ใช่ ผมหวังว่าอย่างนั้น มันเป็นเรื่องจริงที่มันจะทำให้ผมภูมิใจ มันเป็นส่วนหนึ่งในความฝันของผม ผมพยายามตามดูการแข่งขันทุกแมตช์ของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก"
นี่คือสิ่งที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ตอนปี 2016 กับความฝันในการกลับมาใช้ชีวิตที่ ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ อีกครั้ง ทั้งในฐานะอดีตคนในครอบครัวและในฐานะแฟนตัวยงที่ตามเชียร์เสมอมา
อดีตฮีโร่ของสโมสร
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เริ่มต้นเส้นทางค้าแข้งกับสโมสร นีเวลส์ โอลด์ บอยส์ ในบ้านเกิดที่ อาร์เจนติน่า โดยมี มาร์เซโล่ บิเอลซ่า เป็นคนบัญชาทัพอยู่ ณ ตอนนั้น และก็คว้าแชมป์ลีกร่วมกันด้วยในช่วงต้นยุค 90 จากนั้นเจ้าตัวก็ตัดสินใจตบเท้าออกไปผจญภัยยังโลกที่กว้างมากขึ้นในยุโรปกับ เอสปันญ่อล จนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในตำนานที่ยอดเยี่ยมของสโมสร ถึงแม้ชื่อชั้นและศักยภาพทีมจะอยู่ใต้ร่มเงาของเบอร์ 1 ในแคว้นกาตาลันอย่าง บาร์เซโลน่า แต่อย่างน้อย เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็ช่วยพาทีมเถลิงบัลลังก์แชมป์ โกปา เดล เรย์ ได้ 2 สมัย (ปี 2000 กับ 2006)
ก่อนจะกลับไปแขวนสตั๊ดกับ เอสปันญ่อล ตอนปี 2006 ตอนอยู่ในช่วงวัย 29 ปี เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็มีช่วงแว๊บไปหาความท้าทายครั้งใหม่กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ตอนปี 2001 อีกทั้งยังได้รับบทบาทเป็นกัปตันนำทัพทีมด้วย โดยได้ลงเล่นไป 95 เกมนัด ยิงได้ 6 ประตูตลอดช่วง 3 ซีซั่น มีความสำเร็จติดไม้ติดมือมา 1 โทรฟี่นั่นก็คือแชมป์ ยูฟ่า อินเตอร์โตโต้ คัพ ปี 2001 ส่วนในรายการ เฟร้นช์ คัพ ปี 2003 เจ้าตัวก็พาทีมตีตั๋วไปไกลถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายต้องปราชัยให้กับ โอแซร์ 1-2 ถึงแม้จะอยู่กับทีมไม่นานแต่ โปเช็ตติโน่ ก็ได้รับคำชมมากมายจากแฟนบอล รวมถึงตำนานของสโมสรทั้งในเรื่องฝีเท้า, คาแร็คเตอร์ และนิสัยส่วนตัว
ดรีม ทีม
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สร้างความฮือฮาไม่ใช่น้อยเลยเพราะในช่วงต้นยุค 2000 พวกเขาถูก กาตาร์ สปอร์ต อินเวสต์เมนต์ กลุ่มเศรษฐีนักลงทุนจากกาตาร์เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกับยุคปัจจุบัน แต่ในตอนนั้นยังไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่ากับตอนนี้ที่มีพวกแข้งดังๆ อย่าง เนย์มาร์, คิเลียน เอ็มบัปเป้, อังเคล ดิ มาเรีย และอีกหลายๆ คน
โดยในช่วงปี 2001-03 ของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กับชีวิตที่ ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ เขาได้ร่วมงานกับกุนซืออย่าง ลุยซ์ เฟร์นานเดซ ที่ได้ชื่อว่าเป็นตำนานมิดฟิลด์คนหนึ่งของสโมสรเหมือนกัน ไหนจะมีโอกาสได้ค้าแข้งเคียงบ่าเคียงไหล่กับ โรนัลดินโญ่ ตำนานโคตรแข้งทีมชาติบราซิลด้วยอีก 2 ฤดูกาลก่อนจะย้ายไป บาร์เซโลน่า ส่วนคนอื่นๆ ก็จะมีพวก กาเบรียล ไฮน์เซ่, นิโกล่าส์ อเนลก้า, เจย์-เจย์ โอโคช่า, โลร็องต์ โรแบร์ รวมถึง มิเกล อาร์เตต้า ด้วยเป็นต้น
เส้นทางกุนซือ
หลังจากรีไทร์จากเส้นทางค้าแข้งกับ เอสปันญ่อล ตอนปี 2006 อีก 3 ปีให้หลัง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็เปลี่ยนเส้นทางมาเดินในสายกุนซือบ้าง โดยประเดิมประสบการณ์ใหม่ครั้งแรกกับทีมเก่า "ไอ้นกแก้ว" ก่อนเลย เขาเข้ามาตอนต้นปี 2009 นับเป็นโค้ชของทีมที่ถูกแต่งตั้งคนที่ 3 ถึงแม้จะได้ โปร ไลเซนส์ มาจากทาง ยูฟ่า เพียงไม่กี่เดือน และเวลาศีกษาหาความรู้ส่วนใหญ่ก็คลุกอยู่กับทีมหญิง แต่สุดท้าย โปเช็ตติโน่ ก็สามารถพาทีมรอดตกชั้นได้สำเร็จในฤดูกาล 2008-09
ปี 2013 เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ได้กลายเป็นกุนซือคนใหม่ของ เซาธ์แฮมป์ตัน แทนที่ ไนเจล แอดกินส์ พร้อมสร้างสถิติเป็นกุนซือชาวอาร์เจนไตน์คนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ถ้าจะพูดถึงผลงานชิ้นโบว์แดงเด่นๆ ก็จะมีเกมประเดิมคุมทีมนัดแรกหลังแต่งตั้งได้ 5 วันนั่นคือการเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 0-0, คว่ำแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1, ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1 และชนะ เชลซี อีก 2-1 เบ็ดเสร็จถ้านับเต็มๆ ฤดูกาลเขาพา เซาธ์แฮมป์ตัน จบที่อันดับ 8 ซึ่งถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 2002-03 และก็ยังเก็บแต้มได้มากที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1992-93 อีกด้วย
แจ้งเกิดกับ สเปอร์ส
ด้วยผลงานที่เข้าตากับทาง เซาธ์แฮมป์ตัน นั่นทำให้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตัดสินใจแต่งตั้ง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ให้มาคุมทีมเพื่อลุยสำหรับฤดูกาล 2014-15 การเข้ามาของเขามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย อย่างในตำแหน่งกองหน้าก็เลือกดัน แฮร์รี่ เคน ขึ้นมาจากอคาเดมี่อย่างเต็มตัว ทั้งที่ตอนนั้นก็มี 2 หัวหอกมากประสบการณ์อย่าง โรเบร์โต้ โซลดาโด้ และ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ อยู่และ และผลที่ได้ก็คือปีนั้น แฮร์รี่ เคน ฟอร์มโคตรปังกับการระเบิดตาข่ายไป 31 ประตูเล่นทำเอาโลกลูกหนังสั่นคลอนไปทั้งวงการก่อนจะกลายมาเป็นแข้งระดับ เวิลด์ คลาส ในปัจจุบัน จากนั้นพอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ก็เริ่มดึงนักเตะหน้าใหม่ๆ เข้ามา พวก เดเล่ อัลลี, ซอน ฮึง-มิน หรือ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ ไหนจะเน้นการผลักดันแข้งดาวรุ่งอีกมากมายด้วยซึ่งแต่ละคนต่างก็ฉายแววได้เข้าตาสุดๆ ไปเลย
เมื่อ สเปอร์ส ของ โปเช็ตติโน่ เริ่มปรับตัวและมีความลงตัวขึ้นเรื่อยๆ ผลงานของทีมก็ดูดีขึ้น เริ่มอยู่ในสายตาของทีมลุ้นแชมป์ด้วยกันมากขึ้น สุดท้าย ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้สถาปนาตัวเองกลายเป็นหนึ่งในทีมชั้นนำของยุโรปโดยฝีมือของผู้ชายคนนี้ โดยปีแรก (2014-15) โปเช็ตติโน่ พา สเปอร์ส จบที่อันดับ 5, ปีต่อมา (2015-16) โปเช็ตติโน่ พา สเปอร์ส จบที่อันดับ 3, ปีต่อมา (2016-17) โปเช็ตติโน่ พา สเปอร์ส จบอันดับ 2 โดยมีแต้มห่างจาก เชลซี 7 คะแนน ถึงแม้ปีต่อๆ มาจะทำอันดับได้ไม่สูงกว่านี้ แต่ก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มทีมลุ้นแชมป์ด้วยกัน ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสโมสร Top 6 ของ พรีเมียร์ลีก
ส่วนในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2018-19 เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เกือบพาลูกทีม "ไก่เดือยทอง" ไปถึงฝั่งฝันด้วยการเถลิงบัลลังก์แชมป์ แต่สุดท้ายก็ต้องปราชัยให้กับ ลิเวอร์พูล ด้วยสกอร์ 2-0 ก่อนจะต้องตกงานไปในช่วงต้นซีซั่นถัดมาจากผลงานที่ย่ำแย่ อย่างไรก็ตามจากโปรไฟล์ที่สร้างขึ้นมาทั้งหมดมันก็เจ๋งพอที่จะทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลต่างยกย่องเขาว่านี่คือตัวท็อปเบอร์ต้นๆ ในยุคนี้เลย ไม่ว่าทีมไหนก็ต้องการตัวทั้งนั้น คราวนี้เมื่อเขาได้กลับไปยังบ้านเก่าที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง อีกครั้ง เรามาดูกันดีกว่า เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ คนนี้จะพิสูจน์ตัวเองว่าเขานั้นคือจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่สโมสรตามหาหรือไม่ ?
HaMu Dos Santos
ส่วนหนึ่งของข้อมูล : The Sun
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทางไลน์ขอบสนาม