logo-heading

อนาคตของ ดาบิด อลาบา กำลังจะได้ข้อสรุปในเร็ว ว่าสุดท้ายแล้วจะเลือกตีจากย้ายไปอยู่กับสโมสรใด หลังมีกระแสข่าวอย่างหนักกับ เรอัล มาดริด และ ลิเวอร์พูล แต่กระนั้นย้อนกลับไปสัก 1 สัปดาห์ก่อน ดูท่าว่ายังไง อลาบา น่าจะเสร็จ "ราชันชุดขาว" แบบ "แบเบอร์"

แต่ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน เพราะจู่ๆมีรายงานว่า มาดริด อาจจะพลาดโอกาสได้ตัว อลาบา กลายเป็น ลิเวอร์พูล ที่มีภาษีขึ้นมากกว่าเดิม ฉะนั้นลองไปวิเคราะห์กันดูว่า จะมีเหตุผลอะไรบ้างที่ หงส์แดง มีโอกาสปาดหน้าคว้าตัวแนวรับ เสือใต้ รายนี้ มากกว่า ราชันชุดขาว

- เพราะ เจอร์เก้น คล็อปป์

ประทานโทษ ไม่ได้เป็นการลบหลู่ หรือ ดูหมิ่นฝีมือ ซีเนอดีน ซีดาน แต่อย่างใด นี่คือยอดกุนซือ ที่พา เรอัล มาดริด สร้างประวัติศาสตร์ ป้องกันแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ ถึงกระนั้นโปรไฟล์ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีความดึงดูด อลาบา มากกว่า หากมองจากมุมภายนอก คล็อปป์ เป็นโค้ชที่รักลูกน้อง พ้องเพื่อน มีสไตล์การเล่นชัดเจน ในแบบฉบับ "เกเก้น เพรสซิ่ง" วิ่งไม่มีหมด 90 นาที ต่อบอลตามช่อง และ ไล่เพรสซิ่งกดดัน เมื่อเป็นฝ่ายเสียบอล ซึ่งรูปการเล่นเหล่านี้ ย่อมผ่านสายตาของ อลาบา มา ไม่มากก็น้อย เพราะในช่วงที่ อลาบา อยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค ใหม่ๆ เจอร์เก้น คล็อปป์ พา โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ผงาดซิวแชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมัน 2 สมัย ฉะนั้น อลาบา รู้ดีว่า ถ้าไปอยู่กับ คล็อปป์ จะเป็นสไตล์แบบไหน ว่ากันตามตรง ก็ไม่ได้ผิดเพี้ยนอะไรไปจาก บาเยิร์น มิวนิค มากนัก อีกทั้งเรื่องสปีคภาษาด๊อยชลันด์ ประหนึ่งเป็นคนบ้านเดียวกัน ไม่ต้องไปปรับตัวอะไรให้มันมากความอีกแล้ว นักเตะระดับท็อปหนึ่งคนที่ต้องการมาร่วมงานกับ คล็อปป์ และ ลิเวอร์พูล ยอมแหกกฎซื้อนักเตะเฉียด 30 ปี มาร่วมทีม ก็คือ ติอาโก้ ฉะนั้นก็ไม่แปลกที่ อลาบา อยากจะมาร่วมงานกับ คล็อปป์ อีกหนึ่งคน เพราะไม่ใช่แค่สูตรสำเร็จเรื่องสไตล์การเล่น แต่เป็นเรื่องโทรฟี่ ที่ คล็อปป์ พิสูจน์ให้เห็นว่าเขากำลังเดินหน้าสร้างความสำเร็จ ต่อยอดจากแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

- การันตีตัวจริง

จริงๆแล้วการย้ายออกจากของ อลาบา ไม่น่าเกี่ยวกับเรื่องการลงสนามอย่างต่อเนื่อง เพราะแนวรับชาวออสเตรีย ถือว่าเป็นตัวหลักที่จะขาดไปไม่ได้ของขุนพล "เสือใต้" แต่กระนั้นการเลือกไปค้าแข้งให้กับทีมใหม่ ก็ไม่ได้การันตีอะไรทั้งนั้นว่าจะมีโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล มีพื้นที่ให้กับ อลาบา ได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอแน่นอน เพราะขณะนี้ หงส์แดง กำลังระส่ำอย่างหนัก กับปัญหาเซ็นเตอร์แบ็ก ควงแขนพากันเดี้ยงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ และ โจเอล มาติป ฉะนั้นถ้าหากตัดสินใจย้ายมาอยู่กับ หงส์แดง จริงๆ บอกเลยว่าตำแหน่ง 11 ผู้เล่นตัวจริงไม่หนีไปไหน ต่อให้ทุกคนคัมแบ็กกันครบเต็มอัตราศึก อลาบา มีดีกรีที่พร้อมยืนจับคู่กับ ฟาน ไดค์ ยาวๆ ผิดกับ มาดริด ที่ว่ากันตามตรง เซร์คิโอ รามอส กับ ราฟาเอล วาราน ยึดตำแหน่งสัมปทานอยู่แล้ว การจะไปเบียดแย่งชิงพื้นที่เอาดื้อๆ ย่อมเป็นเรื่องยาก เชื่อว่าต้องการมีการสลับหมุนเวียนกันแน่นอน อยู่ที่ว่าใครจะโชคร้ายนั่งสำรองมากกว่า  เท่ากับว่าถ้าวัดกันเรื่อง โอกาสลงสนามกว่า ยังไง ลิเวอร์พูล ก็มีภาษีดีกว่า เรอัล มาดริด จริงๆ ที่ อลาบา จะเลือกย้ายมาค้าแข้ง แต่ต้องไม่ลืมว่า สัญญาของ รามอส ก็ใกล้จะหมดลง ฉะนั้น หงส์แดง ต้องยื่นข้อเสนอตจูงใจให้ดี ถ้าต้องการ ดาวิด อลาบา

- เข้าทางเพื่อน

ข้อนี้สำคัญมากเลยครับ ไม่ต้องเป็นนักเตะระดับโลกก็ได้ ให้มองย้อนแค่ตัวเรา .. ลองนึกกลับไปสมัยก่อน ตอนเรียนจบใหม่ๆ ก็อยากจะมีเพื่อนสักคน ไปเริ่มทำงานในที่เดียวกัน เพราะดีกว่าหัวเดียวกระเทียมลีบ เมื่อต้องไปเริ่มต้นกับอะไรสักอย่าง อย่างน้อยก็ไม่ได้เดียวดาย เช่นกันครับ อลาบา อยู่กับ บาเยิร์น มานานกว่า 10 ปี การจะเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นไม่ได้ เพียงแต่ว่าถ้าคุณมีเพื่อนซี้คอยรอต้อนรับอยู่แล้ว มันย่อมมีภาษีมากยิ่งกว่า .. ใช่ครับ เรอัล มาดริด คือโคตรยักษ์ใหญ่ ที่ บารมีเทียบชั้นกับ บาเยิร์น มิวนิค ได้แบบที่ไม่มีใครสงสัย แต่กระนั้น ลิเวอร์พูล ดูได้เปรียบมากกว่า เพราะตรงนั้น มีเพื่อนที่ชื่อ ติอาโก้ อัลคันตาร่า รอต้อนรับอยู่แล้ว การปรับตัว คงง่ายมากขึ้น เนื่องด้วยมีคนคอยแนะนำ และ อลาบา สามารถสอบถามความเคลื่อนไหวจากปากของ ติอาโก้ ได้เลย เช่นกัน ถ้าหาก ลิเวอร์พูล อยากจะได้ตัว อลาบา จริงๆ ก็น่าจะส่ง ติอาโก้ ไปทำหน้าที่เอเย่นต์ เกลี้ยกล่อมนักเตะรายนี้มาร่วมทีม บอกเลยว่ามีโอกาสเหมือนกัน ด้วยสถานะของสโมสรอาจมีความเหลื่อมล้ำ แต่เรื่องความสัมพันธ์ย่อมมีผลกว่าใครเพื่อน

ค่าเหนื่อยพร้อมเปย์

ถึงแม้ว่า เรอัล มาดริด จะมีสถานะร่ำรวยระดับมหาเศรษฐี แต่กระนั้นเมื่อเจอแรงกระเพื่อมจากสภาวะ โควิด-19 ก็ทำให้พวกเขาสั่นคลอนเช่นเดียวกัน เพราะปกติแล้ว ราชันชุดขาว ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการต่อรองค่าเหนื่อยนักเตะอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ มาดริด จะชวด ดาวิด อลาบา มีเหตุผลสำคัญเหมือนกัน ซึ่งนั่นก็คือเรื่องค่าเหนื่อย เพราะมีรายงานว่าแนวรับทีมชาติออสเตรีย ต้องการเงินค่าจ้างราวๆ 190,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ เจอแบบนี้ มาดริด บอกถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า  แต่กระนั้นราคานี้ ลิเวอร์พูล กลับยินดีพร้อมจ่าย อาจจะดูแพงเว่อวัง ทว่านักเตะ หงส์แดง หลายๆคน ก็รับในราคาเรตนี้ หรือ มากกว่า อาทิ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ ติอาโก้ อัลกันตาร่า อาจจะดูว่าเป็นเด็กใหม่ แต่ดีกรีระดับ อลาบา ก็คู่ควร  ถ้าหาก ลิเวอร์พูล ต้องการได้แนวรับตัวท็อป พร้อมเข้ามาแก้ไขปัญหาเซ็นเตอร์แบ็กที่เป็นปัญหาช่องโหว่ การเปย์ค่าเหนื่อยราวๆ 190,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ ก็เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง และ มันจะทำให้โอกาสได้ตัว อลาบา สูงกว่า มาดริด มากเหลือเกิน

พรีเมียร์ลีก แหล่งรวมสตาร์ลูกหนัง

นักเตะหลายต่อหลายคน ใฝ่ฝันว่าอยากย้ายไปเล่นให้กับ เรอัล มาดริด หรือ บาร์เซโลน่า แต่ชั่วโมงนี้บอกเลยว่า ความเข้นข้น หรือ ความน่าติดตาม ลา ลีกา สเปน แทบจะเทียบชั้น พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กันไม่ได้ ยิ่งหากซีซั่นหน้า ลิโอเนล เมสซี่ ย้ายออกไปอีกคน อะไรที่มันเคยน่าสนใจ ก็จะลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ สวนทางกับ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่กราฟชีวิตมีแต่จะดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะบรรดาสตาร์ลูกหนัง ไม่ว่าจะเป็นนักเตะหรือเฮดโค้ช มาอัดแน่นกันเต็มเวทีไปหมด จากเคยมีท็อปโฟร์ วันนี้กลายเป็นท็อป 6 และ มีทีมที่สอดแทรกขึ้นมาเยอะจนนับไม่ถ้วน ทีมใหญ่ๆ ก็ไม่ได้การันตีว่าจะต้องชนะเสมอไป ฉะนั้นเรื่องความดึงดูดของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ย่อมโน้มน้าวได้มากกว่า และ ถ้า ลิเวอร์พูล ใช้ข้อได้เปรียบตามหัวข้อที่ได้พูดถึงไปก่อนหน้านี้ ก็มีโอกาสเหมือนกันที่จะไปเซ็นสัญญาคว้าตัว ดาวิด อลาบา มาครองได้

ฮาย ฮาวดี้-

logoline