logo-heading

แชมป์ยุโรป 4 สมัย, แชมป์สโมสรโลก 3 สมัย, แชมป์ ลา ลีกา กับ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ อย่างละ 2 สมัย และ โกปา เดล เรย์ อีก 1 สมัย คือถ้วยแชมป์ที่ประดับบารมีการันตีว่า แกเร็ธ เบล ปีกทีมชาติเวลส์ คือหนึ่งในนักเตะเบอร์ต้นๆ ของโลกลูกหนังในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้

  เบล เคยเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในนักเตะที่ค่าจ้างแพงเบอร์ต้นๆ ของโลก เป็นนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ที่ทุกทีมอยากได้ตัว ทว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นก็ ทำไมอยู่ๆ ในวัยแค่ 31 ปี ผลงานของเขากก็ดรอปลงไปอย่างเห็นได้ชัด เป็นส่วนเกินของ เรอัล มาดริด โดนเฉดหัวปล่อยให้ สเปอร์ส ทีมเก่ายืมตัวไปใช้งาน หวังว่าจะเรียกความมั่นใจ แต่ไม่ใช่เลย ย้ายกลับมา "ไก่เดือยทอง" เบล ก็เป็นได้แค่ตัวสำรอง และฟอร์มก็ไม่ดีเหมือนเดิม คำถามคือจบฤดูกาลนี้ อนาคตของ แกเร็ธ เบล ที่ฟอร์มแย่ขนาดนี้ แถมดูภาษากายก็เห็นได้ชัดว่าหมดแพสชั่นกับฟุตบอล อนาคตมันจะเป็นอย่างไรต่อไป เราไปวิเคราะห์กันหน่อย  

1.กลับ เรอัล มาดริด

  แม้ "ปีกพญาวานร" จะเป็นแค่ส่วนเกินของ เรอัล มาดริด และไม่เป็นที่ต้องการของ ซีเนอดีน ซีดาน ผู้เป็นกุนซือ ทว่าสัญญาของ เบล นั้นก็ยังมีสัญญาผูกมัดกับ "ราชันชุดขาว" อยู่จนถึงจบฤดูกาลหน้า กล่าวคือ ต่อให้มึงไม่อยากได้ ไม่อยากใช้งาน ยังไงก็เฉดหัวทิ้งดื้อไม่ได้ ต้องจ่ายค่าเหนื่อย 650,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ต่อไปอีกอย่างน้อย 1 ปี เรื่องจะขายทิ้งออกไปหรือปล่อยยืมอีกปี ก็คงเป็นเรื่องยาก เพราะด้วยค่าเหนื่อยที่แพงหูฉี่แบบนี้คงยากที่จะมีทีมไหนพร้อมอ้าแขนรับ ซึ่งตัว เบล เองก็คงไม่ยอมลดค่าเหนื่อยลงมาง่ายๆ เพราะจริงๆ จิตใจของเขาก็ดูเหมือนว่าไม่ได้มีแพสชั่นกับกีฬาฟุตบอลแล้วด้วยซ้ำ ฉะนั้นนั่งกินนอนกินอยู่กับ มาดริด ต่อไปจนหมดสัญญาซะดีกว่า ตัดสลับกลับมาที่ เรอัล มาดริด ก็คงต้องคิดหนักถ้าปล่อยไปไหนไม่ได้ ขายไม่ออก เราเก็บไว้ไหนๆ ก็ต้องจ่ายค่าเหนื่อยแสนแพงแล้ว ก็คงอาจจะต้องทู่ซี้ใช้งาน ทว่าปัญหาอีกอย่างคือฤดูกาลหน้า สตาร์ทีมชาติเวลส์จะกลายเป็นนักเตะโควต้านอกอียู ซึ่ง ลา ลีกา ให้ทีมนึงใส่ชื่อได้แค่ 5 คน และลงเล่นได้แค่ 3 คนเท่านั้น ซึ่งตรงนี้จะทำให้ เรอัล มาดริด ปวดขมับมากขึ้นไปอีก เอาจริงๆ แล้ว "ราชันชุดขาว" คงไม่ได้อยากให้ เบล กลับมาแล้วหละ แต่แค่ตอนนี้ยังหาทางเฉดหัวสลัดทิ้งให้พ้นทีมไม่ได้เท่านั้นเอง  

2.โกยเงินหยวนที่จีน

  ย้อนกลับไปในช่วงซัมเมอร์ 2 ปีที่แล้ว แกเร็ธ เบล ที่ตอนนั้นเริ่มถูก เรอัล มาดริด หมางเมินกำลังจะได้เก็บข้าวของย้ายไปค้าแข้งที่แดนมังกรแบบฟรีๆ อยู่แล้ว เพราะตอนนั้นดีลทุกอย่างสำเร็จลุล่วงเกือบหมด เหลือแค่บินลัดฟ้าไปเซ็นสัญญาแค่นั้นเอง  แต่แล้วอยู่ๆ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ หัวเรือใหญ่ของทัพ "ราชันชุดขาว" ก็เกิดเปลี่ยนใจกระทันหันซะอย่างงั้น เพราะมองว่าถ้าปล่อยไปฟรีๆ มันจะไม่คุ้ม สู้ยอมจ่ายค่าเหนื่อยแสนแพงไปก่อน แล้วรอขายเพื่อให้ได้เงินมาสักก้อนน่าจะคุ้มกว่า ทว่าจากวันนั้นจนถึงวันนี้มันก็เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า เปเรซ คิดผิดมหันต์ เพราะนอกจากจะขาย แข้งวัย 31 ปี ไม่ออก มันก็ยังไม่มีทีมไหนกล้าสู้ค่าเหนื่อยระดับนี้ แถมฟอร์มการเล่นก็สาละวันเตี้ยลงจนถึงขั้นหลุดออกจากทีมไปเลยด้วยซ้ำ แบบนี้ใครเล่าจะกล้าเสี่ยง? ตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป แม้ฟอร์มของ แกเร็ธ เบล จะดำดิ่งลงเรื่อยๆ แต่ก็เชื่อเลยว่า ยังไงถ้าไปเล่นในเวที ไชนีส ซูเปอร์ลีก จีน ฝีเท้าและดีกรีระดับนี้ก็คงเล่นได้สบายๆ แถมกลายเป็นสตาร์เบอร์ 1 ประจำลีกแดนมังกรอีกด้วย คำถามคือตอนนี้จะมีทีมไหนที่กล้าทุ่มค่าเหนื่อยมหาศาลขนาดนี้ให้ เบล บ้าง เจียงซู ซู่หนิง ที่ 2 ปีก่อนเกือบได้ตัวยังอยากได้อยู่รึป่าว อันนี้ต้องรอตามดูกันอีกที แต่ที่แน่ๆ คราวนี้ มาดริด พร้อมปล่อยฟรีแน่นอน ไม่มียึกยักแล้วแหละ จริงๆ จะว่าไปนอกจากไปเล่นใน ซูเปอร์ลีก จีน แล้ว เมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ส สหรัฐฯ กับ เอสลีก กาตาร์ ก็เป็นอีก 2 ลีกที่น่าสนใจสำหรับ แกเร็ธ เบล ในการไปหาความท้าทายใหม่ และทั้ง 2 ลีกนี้มันก็มีทีมเงินถุงเงินถังที่พร้อมทุ่มค่าเหนื่อยล่อใจให้ เบล เซ็นสัญญาไปร่วมทีมด้วยเช่นกัน   

3.แขวนสตั๊ดไปตีกอล์ฟ

  ข้อสุดท้าย แม้จะเป็นไปได้ยาก แต่มันก็ไม่แน่เหมือนกัน ใครๆ ก็รู้ว่า แกเร็ธ เบล นั้นบ้าคลั่งกีฬากอล์ฟมากขนาดไหน จะว่าไปหากเขาหมดแพสชั่นกับเกมลูกหนัง เหมือนที่เคยเปรยๆ เอาไว้ ก็ไม่แน่เหมือนกันนะที่พี่แกจะติสต์แตกเหมือน เอริค คันโตน่า ประกาศแขวนสตั๊ดมันตอนอายุ 31 นี่แหละ แต่เอาจริงๆ ก็องโต้ ติสต์กว่าเยอะ เพราะลุงแกแขวนตอนอายุ 30 เท่านั้น ที่สำคัญยังเล่นได้แจ่มแมวแวววับ ไม่ได้หมดสภาพเหมือน แกเร็ธ เบล ในตอนนี้ แล้วคุณหละคิดว่าท้ายสุดแล้ว แกเร็ธ เบล จะยังกลับไปมีอนาคตกับ เรอัล มาดริด ได้มั้ย หรือเขาจะย้ายไปที่ไหน ยังอยู่ใน 5 ลีกดังหรือไม่ หรือจะติสต์แตกแขวนสตั๊ดจริงๆ? เวลาเท่านั้นแหละที่จะให้คำตอบเราได้  

ชิน ชินพัฒน์

logoline