เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ : ดาวอีกดวง กับการแย่งชิงเบอร์ 1 แห่งวงการลูกหนัง
สิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับเมื่อพูดถึงดาวรุ่งดวงใหม่อย่าง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ คือแฟนบอลอย่างเราๆ เพิ่งรู้จักเด็กคนนี้เต็มที่ไม่เกิน 2 ปี เพราะในช่วงระยะเวลาดังกล่าวเขาก้าวกระโดด พร้อมแจ้งเกิดได้อย่างรวดเร็ว
ชื่อของ ฮาแลนด์ เริ่มขึ้นหน้าหนึ่งอวดอ้างสรรพคุณของตัวเองเมื่อช่วงฤดูกาล 2019-20 ที่ผ่านมา จากการสร้างผลงานได้อย่างสุดสะเด่าในสีเสื้อของ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ทีมชื่อดังจากประเทศออสเตรีย แท้จริงถ้าทีมไม่ได้เข้าร่วมวงสังคายนาในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เจ้าเด็กคนนี้อาจจะยังไม่ได้รับความสนใจมากขนาดนี้ก็เป็นได้
ย้อนกลับไปชื่อของ ฮาแลนด์ เป็นที่รู้จักของแฟนบอลอยู่แล้วจากผลงานของคุณพ่อ อัลฟ์-อิงเก้ ฮาแลนด์ อดีตกองกลางชื่อดังของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งการเดินตามรอยคุณพ่อมันไม่ใช่เรื่องแปลก และการเริ่มต้นของเขาก็มาจากการฝึกฝีเท้ากับสโมสร บริน ในลีกนอร์เวย์ บ้านเกิด
ช่วงแรกชีวิตลูกหนังของเจ้าตัวไม่ได้เริ่มต้นด้วยบทบาทกองหน้าด้วยซ้ำ แต่คือตัวริมเส้นที่ใช้ความคล่องตัว สปีดความเร็วของฝีเท้าในการเล่นงานคู่แข่ง ก่อนที่แววของความเป็นเพชรฆาตรจะเริ่มเผยโฉมมากกขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งย้ายไปร่วมงานกับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ โมลด์ ในช่วงปี 2017
ก่อนที่ในปี 2019 เขาจะถูกดึงตัวไปเสริมทัพ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ซึ่งเขาย้ายมาในช่วงกลางซีซั่นทำให้อะไรหลายๆ อย่างดูจะไม่เป็นใจเสียเท่าไหร่ ได้โอกาสลงเล่นในเกมลีกไปเพียง 2 นัดเท่านั้น แต่ก็ยังไม่วายกระทุ้งได้ 1 ประตู ซึ่งตอนนั้นถ้าจะให้พูดจริงๆ แววของการเป็นยอดดาวยิงของเขายังไม่ถูกจับจ้องมากเท่าไหร่ จนกระทั่งฤดูกาล 2019-20 รูดม่านเปิดขึ้น
โดยในซีซั่นนั้นนับเฉพาะในสีเสื้อของ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก เกมไหนที่ ฮาแลนด์ ลงสนาม มันแทบจะการันตีมีชื่อบนสกอร์บอร์ดแทบทุกนัด 22 เกม เขากระหน่ำประตูไปได้มากถึง 28 ลูก แถม เป็นการทำแฮตทริกได้มากถึง 4 ครั้งด้วยกัน
ซึ่งสิ่งที่ทำให้เขาได้รับการจับตามองมากที่สุดคือผลงานในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนสลีก ที่ในรอบแบ่งกลุ่ม เพราะเจ้าตัวยิงประตูติดต่อกันได้มากถึง 5 นัด แถมผลงานในสนามก็ร้อนแรงโดดเด่นอยู่เพียงผู้เดียว ไม่แปลกที่หลังจากนั้นชื่อของเขาจะถูกนำไปพัวพันกับยักษ์สโมสรต่างๆ ทั่วโลกลูกหนังไล่ตั้งแต่ แมนฯ ยูไนเต็ด, แมนฯ ซิตี้, บาร์เซโลน่า หรือ เรอัล มาดริด
แน่นอนเมื่อฝีเท้าของเขามันเก่งเกินกว่าการอยู่กับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ทำให้เกิดการโยกย้ายในช่วงเดือนมกราคม 2020 และเป็น โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ได้ของดีในราคาไม่แพงไปครอบครอง
ในห้วงเวลานั้นมีหลายคำถามที่ถูกตั้งข้อสงสัยขึ้นมาว่าเด็กคนนี้จะทำผลงานได้ดีต่อเนื่องไหม เพราะด้วยอายุที่เพิ่งแตะหลัก 20 ปี ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองอะไรมากมาย จะแบกความความกดดันได้มากขนาดไหน ?
สุดท้ายเวลาเท่านั้นแหละที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไอ้หนูคนนี้มันของจริง 13 ประตู จาก 15 นัด ในการประเดิมศึกบุนเดสลีกา ซีซั่นแรกมันเป็นเครื่องยืนยันชั้นยอดว่าพลังฝีเท้าของ ฮาแลนด์ ยอดเยี่ยมมากขนาดไหน และเป็นหนึ่งในหัวหอกยุคใหม่ที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณภาพทั้งเรื่องของความเร็ว, รูปร่าง, เทคนิคที่แพรวพราว และการคมสกอร์ที่เฉียบคมตามแบบฉบับกองหน้า
และเมื่อเอาเรื่องของตัวเลขสถิติมากางเปรียบเทียบกับเหล่ากองหน้ารุ่นพี่คนอื่นๆ ในวัย 20 ปีเท่ากัน ไม่ว่าจะเป็น ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ลิโอเนล เมสซี่ หรือ เวย์น รูนี่ย์ มันชี้ชัดเลยว่า ฮาแลนด์ มีการยิงประตูที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน ต่อจากนี้ที่เหลือคือการยืนระยะในวงการนี้ให้ได้ ทั้งเรื่องสภาพร่างกาย และพัฒนาฝีเท้า
รวมไปถึงการทำสถิติต่างๆ อย่างล่าสุดก็เพิ่งบัญญัติตัวเองให้กลายเป็นนักเตะคนแรกของโลกใบนี้ด้วยการกระหน่ำ 18 ประตู จากการลงสนาม 13 นัดแรกในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หรือใช้เวลาเพียง 23 นาทีบนศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน ในการกระหน่ำแฮตทริกแรกได้สำเร็จตั้งแต่เกมเปิดซิง รวมไปถึงการเป็นนักเตะคนแรกของ ดอร์ทมุนด์ ที่ยิงประตูได้ตั้งแต่เกมแรกที่ลงสนามเล่นทั้งในศึกบุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาล และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ฉะนั้นแล้วถ้าเราจะชูมือให้ ฮาแลนด์ เป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งที่น่าสนใจแห่งยุคมันก็คงจะไม่รวดเร็วจนเกินไปแล้ว ซึ่งจากผลงานที่เขาทำมามันควรจะเป็นแบบนั้น แม้ถ้าเทียบกับเรื่องของความสำเร็จกับรุ่นราวคราวเดียวกันอย่าง คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ จะคนละเบอร์ แต่เรื่องของฝีเท้าส่วนตัวต้องยอมรับว่านี่คือ 2 ปีศาจร้ายที่กำลังพัฒนาฝีเท้าให้กลายเป็นเต้ยของวงการลูกหนัง
อย่างที่กล่าวไปแม้ปัจจุบัน ฮาแลนด์ จะเพิ่งอายุเพียง 20 ปี แต่เขาได้ก้าวข้ามคำว่า 'ดาวรุ่ง' ไปไกลมากแล้ว ทั้งที่แข้งรุ่นพี่ หรือรุ่นเดียวกันบางคนที่ค้าแข้งกับสโมสรใหญ่ ยังต้องทำงานอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ได้ แต่เขายึดตัวจริง มีสถานะที่มั่นคงในทีมเป็นที่เรียบร้อย
สุดท้ายสิ่งที่เหลือต่อจากนี้คือการรักษามาตรฐานของตัวเองไว้ให้ได้มากที่สุด มีดาวรุ่งหลายคนที่ผลงานดี แต่ก็อยู่ได้ไม่ยาว เพราะเรื่องพฤติกรรมนอกสนาม และทัศนคติที่ผิดๆ
ฉะนั้นเชื่อว่าถ้า ฮาแลนด์ ลุยต่อกับเส้นทางลูกหนังด้วยความมุ่งมั่น ไม่มีอาการบาดเจ็บถึงขั้นทำลายเส้นทางการค้าแข้ง อนาคตข้างหน้า ทั้งเรื่องของผลงาน สถิติต่างๆ หรือโทรฟี่ความสำเร็จ คงหลั่งไหลมาหาเขา รวมไปถึงสถิติต่างๆ ที่อาจจะได้เวลาที่จะถูกคลื่นลูกใหม่อย่างเขาพุ่งทำลายมันลงอย่างสิ้นซากแล้ว
- เปา ขอบสนาม -