logo-heading

หนึ่งในสิ่งที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการลูกหนังในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาก็คือเรื่องของการเพิ่มนักวิเคราะห์เกม, กูรู และ ผู้เชี่ยวชาญด้านลูกหนังเข้ามา ทำให้ผู้ชมได้รู้มุมมองจากอดีตนักฟุตบอลที่เคยผ่านเกมในระดับสูงมาแล้ว

แน่นอนว่ารายการที่ได้รับความนิยม และถูกใจคอแฟนบอลในอังกฤษเป็นอย่างมากคือรายการที่มีชื่อว่า Monday Night Football  จากช่อง Sky Sports ซึ่งคอนเซ็ปต์ของการนำเสนอคือนำเหล่านักวิจารณ์ที่เคยเป็นนักฟุตบอลมาถกเถียงถึงประเด็นต่างๆ ของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในสัปดาห์นั้นๆ  และในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจบเกมที่ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ เปิดบ้านถล่ม เบิร์นลี่ย์ 4-0 ก็ได้มีข้อวิจารณ์กันถึงเรื่องของอนาคตทัพ "ไก่เดือยทอง" ว่าในปี 2021 นี้ พวกเขาจะกลายเป็นทีมที่ดีขึ้นหรือไม่ ซึ่งผู้ที่ร่วมรายการในวันนั้นคืออดีตแข้งเบอร์ต้นของพรีเมียร์ลีกอย่าง จิมมี่ เร้ดแน็ปป์ กับ รอย คีน แต่สิ่งที่พีคคือทั้งคู่ได้ปะทะคารมกันกลางรายการสดๆ ซึ่งมันจะดุเดือดกันมากขนาดไหน วันนี้ ขอบสนาม เราได้แกะคำวิจารณ์ของทั้งคู่มาเล่าสู่กันฟังแล้ว ... โดยประเด็นแรก รอย คีน ถูกพิธีกรยิงคำถามออกมาว่า "ผู้เล่นคนไหนของ เบิร์นลีย์ ที่ดีพอจะย้ายไปร่วมทัพ สเปอร์ส บ้าง ?" ก่อนที่อดีตมิดฟิลด์ แมนฯ ยูไนเต็ด จะแสดงความเห็นออกมาว่า "ผมคิดว่ามีเพียงผู้รักษาประตู (นิค โป๊ป) และ คู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟ (เจมส์ ทาร์ชอฟกี้ กับ เบน มี) ของเขาเพียงเท่านั้น ที่ดีกว่าที่ สเปอร์ส มีอยู่ และอาจเป็นสองนักเตะในตำแหน่งกองกลาง (แจ็ค คอร์ก กับ แอชลีย์ เวสต์วูด) ผมคิดว่า สเปอร์ส มีผู้เล่นทั่วไปมากมาย เราพูดถึงความกดดันที่ สเปอร์ส อยู่ภายใต้การขึ้นสู่ท็อปโฟร์ ส่วน เคน กับ ซน ฮึง-มิน นั้นพวกเขาคือแข้งคุณภาพที่เหมาะสมกับพรีเมียร์ลีก" ซึ่งจะว่าไปคำพูดของ คีน ต่อการวิจารณ์ในครั้งนี้อาจมองในแง่ร้ายไปหน่อย แต่ถ้าลองไปค้นหาสถิติดูมันจะบอกเราได้เป็นอย่างดีเลยว่าสิ่งที่เขาพูดไม่ได้เลวร้ายเลย เพราประตูส่วนใหญ่ที่ สเปอร์ส ทำได้ก็มาจากการพึ่งพา 2 แข้งคู่หูนี้ โดย เคน ยิงประตูไปแล้ว 14 ตุง ส่วน ซน ฮึง-มิน ผลิตไปแล้ว 13 ประตู ซึ่งเป็นจำนวน 1 ใน 3 ของ 41 ประตูที่ สเปอร์ส ทำได้ในฤดูกาลนี้ นอกจากนั้นสิ่งที่ มูรินโญ่ มักตำหนิผลการแข่งขันของทีมก็มาจากความผิดพลาดของแนวรับที่ไม่อาจป้องกันได้ดีพอ  เร้ดแน็ปป์ vs รอย คีน : ถกเถียงดุเดือดเรื่องปัญหาของ สเปอร์ส กลางรายการสด ซึ่งเมื่อ เจมี่ เร้ดแน็ปป์ ได้ฟังแบบนั้นเขาก็ได้ออกความเห็นถึงเกมรับทัพตราไก่ว่า "ผมไม่คิดว่าจะเป็นพวกเขาเป็นทีมธรรมดา ไม่ใช่เลย ทีมนี้เต็มไปด้วยแข้งระดับทีมชาติ ผมคิดว่าทีมนี้มีคุณภาพมาก ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะเล่นได้ถึงขีดสุด มูรินโญ่ ยังไม่รู้จักทีมที่ดีที่สุดของเขา แต่ถ้าคุณมองไปที่แผงแบ็คโฟร์ในวันนี้ (เกมพบ เบิร์นลี่ย์) วันนี้ ดายเออร์ แม้จะไม่ติดทีมชาติอังกฤษ, ดาวิซอน ซานเชซ ทีมชาติโคลอมเบีย ส่วน อัลเดอร์ไวเรลด์ ก็คือกองหลังทีมชาติอันดับ 1 ของโลก" จากสิ่งที่ทั้ง เร้ดแน็ปป์ และ คีน พูดออกมาทั้งหมด โอเคแหละครับว่าถ้าย้อนกลับไปมองเรื่องในอดีตที่ผ่านมาอย่าง อัลเดอร์ไวเรลด์ เขาลงเล่นให้ทีมชาติเบลเยี่ยมไปแล้วเกิน 100 เกม รวมไปถึงแนวรับคนอื่นๆ อย่าง ดายเออร์ ที่ติดทีมชาติอังกฤษ หรือ ซานเชซ ที่ลงเล่น 9 นัดหลังสุดให้กับทีมชาติโคลอมเบียแบบเต็มอัตราศึก ส่วนในรายของ อัลเดอร์ไวเรลด์ นี่คือหัวใจแนวรับของทีมมาอย่างยาวนาน เฉกเช่นเมื่อฤดูกาล 2015-16 ทีมเสียประตูน้อยที่สุดในลีกเพียง 35 ประตู และ 26 ประตู ในซีซั่นถัดมา แต่นั้นมันคือสิ่งที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และในวันนี้ปราการหลังรายนี้อายุเข้าสู่วัย 32 ปี ความรวดเร็ว และเฉียบคมในจังหวะต่างๆ มันอาจช้าลง แต่อย่างน้อยเขาก็พิสูจน์ให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมจากตัวเลขสถิติที่ผ่านมา ต่อมา คีน ก็ได้เริ่มจุดประเด็นเกี่ยวกับการติดทีมชาติที่ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีฝีเท้าขึ้นมาพูด "การเล่นเพื่อประเทศของคุณ มันไม่ได้เป็นเครื่องการันตีที่ทำให้คุณเป็นผู้เล่นอันดับต้นๆ เลยนะ" ซึ่งจุดนี้ถ้ามาวิเคราะห์กันมันคงอาจจะจริงอย่างที่ คีน กล่าว เพราะอย่างในทุกวันนี้ทีมชาติอังกฤษไม่ได้มีตัวเลือกในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาร์ฟมากนัก ไม่เหมือนกับช่วง 15 ปีก่อน ที่เรียงรายให้เลือกเยอะแยะไม่ว่าจะเป็น ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอห์น เทอร์รี่, โซล แคมป์เบลล์, เจมี่ คาร์ราเกอร์ หรือ เล็ดลี่ย์ คิงส์ ส่วนในเรื่องของ ดายเออร์ เองก็ต้องยอมรับว่าผลงานช่วงหลังเป็นรอง เจมส์ ทาร์ชอฟสกี้ แบบเห็นได้ชัด และมันพิสูจน์ด้วยการมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษของปราการหลังจาก เบิร์นลี่ย์ หลังจาก คีน วิจารณ์ผลงานของกองหลัง สเปอร์ส ไป สถานการณ์ก็เริ่มทวีความเดือดมากขึ้นเมื่อ เร้ดแน็ปป์ พูดขึ้นมาว่า "ทีมเก่าของคุณ (แมนฯ ยูไนเต็ด) ก็เคยต้องการเซ็นสัญญากับ อัลเดอร์ไวเรลด์ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี่เองไม่ใช่หรอ?" ซึ่ง คีน ก็ได้ตอบคำถามนี่ของ เร้ดแน็ปป์ ไปว่า แท้จริงแล้วในช่วงตลาดซัมเมอร์ 2017 ยูไนเต็ด ได้หันไปหา เอริค ดายเออร์ เพราะ มูรินโญ่ มีความกระตือรือร้นในตัวผู้เล่นมาก รวมไปถึงตลาดหน้าร้อนปีต่อมาที่อยากได้ตัวของ อัลเดอร์ไวเรลด์ มาที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ทว่าก็ถูก เอ็ด วูดเวิร์ด รองประธานบริหารของสโมสรสั่งเบรกไม่อนุมัติ และไม่ได้มีการเสนอราคาเจรจากับ สเปอร์ส แต่อย่างใด เร้ดแน็ปป์ vs รอย คีน : ถกเถียงดุเดือดเรื่องปัญหาของ สเปอร์ส กลางรายการสด จบจากประเด็นนี้ไป คีน ก็เปิดหัวข้อใหม่ขึ้นโดยที่เขาคิดว่า สเปอร์ส ดูดีขึ้นกว่าเมื่อ 2-3 ปี ที่ผ่านมา เพราะด้วยผลงานตัวเลขต่างๆ บนตารางคะแนนมันดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้ในช่วงหลังพวกเขาจะเสียแข้งตัวหลักไปหลายคนไม่ว่าจะเป็น ไคล์ วอร์คเกอร์, มูซ่า เดมเบเล่, คีแรน ทริปเปียร์ หรือ คริสเตียน อิริคเซ่น ซึ่งจากคนที่เดินออกไปทีมก็ได้นักเตะที่ลงตัวเข้ามาไม่ว่าจะเป็น ซน ฮึง-มิน, ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล่, โจวานนี่ โล เซลโซ่ หรือ ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบิร์ก เข้ามาแทนที่ ไหนจะแข้งหน้าใหม่จาก เรอัล มาดริด 2 รายอย่าง เซร์คิโอ เรกีรอน และ แกเร็ธ เบล ซึ่งเมื่อมองไปที่ภาพรวมมันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ คีน ว่าไว้จริงๆ ส่วนบทบาทตำแหน่งอื่นๆ ก็มีการถกกันถึงตำแหน่งแบ็คซ้ายที่รับหน้าที่โดย เซร์คิโอ เรกีรอน ในตอนนี้ ซึ่งทางด้าน เร็ดแน็ปป์ ได้ตั้งประเด็นกับ คีน ที่บอกว่าแนวรับชาวสเปนไม่ใช่ผู่เล่นที่ดีอย่างนั้นหรอ? ก่อนที่ คีน จะตอบกลับมาด้วยข้อความที่น่าสนใจว่าถ้า เรกีลอน ดีจริง ฝีเท้าเยี่ยมจริง แล้วทำไม เรอัล มาริด ถึงปล่อยตัวออกมา แม้จะใส่เงื่อนไขดังตัวกลับไปร่วมทีมก็ตาม บทสรุปของการถกประเด็นของทั้งคู่สามารถสรุปได้ว่า คีน เขายืนอยู่ในฝั่งที่ยังสงสัยเกี่ยวกับคุณภาพของ สเปอร์ส และมองว่า มูรินโญ่ ไม่อาจจะเข็นทีมไปได้ไกลกว่านี้  ส่วน เร้ดแนปป์ ยกธงสนับสนุนว่าแข้งของทัพ "ไก่เดือยทอง" มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม และอาจจะทำได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ก็เป็นได้ แน่นอนว่าบทสรุปของการโต้เถียงกันเราไม่อาจรู้ได้ว่าใครคือผู้ชนะ หรือผู้แพ้ ซึ่งบางทีคำตอบที่ชัดเจนมันอาจจะต้องรอคอยเวลา มันอาจจะเป็นช่วงจบฤดูกาลนี้ หรือยื้อยาวไปจนกระทั่งซีซั่นหน้าเลยก็เป็นได้

- เปา ขอบสนาม -

logoline