ยลโฉม 5 แข้งดัง ! ที่สร้างชื่อจนชีวิตไปได้สวย . . . จากสโมสร เซบีย่า ?

เซบีย่า ได้ชื่อว่าเป็นในสโมสรระดับชั้นนำของเวที ลา ลีกา สเปน และในประวัติศาสตร์ของพวกเขาก็มีเรื่องราวที่น่าจดจำมากมาย เช่นเดียวกับเรื่องของนักเตะ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็มีหลายคนที่สร้างชื่อและแจ้งเกิดจนกลายเป็นนักเตะระดับชั้นนำ พร้อมกับประสบความสำเร็จอย่างมากในเส้นทางอาชีพซึ่งจะมีใครบ้างนั้น วันนี้ทางเรา ขอบสนาม ขอคัดมาเน้นๆ 5 คนด้วยกัน

ดานี่ อัลเวส

ก่อนที่ ดานี่ อัลเวส จะได้รับการยกย่องว่าเป็นแบ็กขวาระดับโลก ในอดีตที่ผ่านมาพี่แกเริ่มสร้างชื่อขึ้นมาจนเป็นที่รู้จักกับการค้าแข้งให้สโมสรอย่าง เซบีย่า ตั้งแต่ปี 2002-08 ได้ลงเล่นไปกว่า 250 นัด ความสำเร็จที่ติดตัวมาส่วนใหญ่เป็นแชมป์บอลถ้วย ก่อนจะทะยานสู่จุดสูงสุดในอาชีพและกอบโกยความสำเร็จได้มากมายกับ บาร์เซโลน่า ในยุคที่ได้ชื่อว่าเป็นสโมสรเบอร์ 1 ของโลก เรียกได้ทุกโทรฟี่ในระดับสโมสร ดานี่ อัลเวส ได้สัมผัสมาหมดแล้วทั้ง ลา ลีกา, โกปา เดล เรย์, ซูเปอร์ โกปา เด เอสปันญ่า,  ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ตลอดจนถ้วย สโมสรโลก และมันก็ยังไม่จบแค่นั้น เพราะถัดจาก บาร์เซโลน่า ดานี่ อัลเวส ก็ยังได้โอกาสรับใช้อีก 2 ทีมชั้นนำนั่นก็คือ ยูเวนตุส และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แถมยังเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยพาทีมล่าความสำเร็จได้อีกมากมาย ด้วยความที่ ดานี่ อัลเวส เป็นนักเตะที่มีความครบเครื่องในเรื่องศักยภาพฝีเท้า ทั้งเทคนิค มีสปีดความเร็วและการเติมเกมบุกที่มันส์สะใจเป็นจุดเด่น ไหนจะมีเรื่องของความกระหายและความทะเยอทะยานที่เต็มเปี่ยม ไม่ว่าพี่แกจะอยู่ที่ไหน หรือายุจะมากขึ้นแค่ไหนก็ตาม มันก็ไม่มีใครสามารถแย่งตำแหน่งจากเขาได้เลยสักคน ปัจจุบันในวัย 37 ปี ดานี่ อัลเวส ก็ดูยังฟิตปั๋ง และไม่มีแววว่าจะเลิกเล่นแต่อย่างใดซึ่งตอนนี้พี่แกกำลังโลดแล่นผจญภัยอยู่ในบ้านเกิดที่บราซิลกับสโมสร เซา เปาโล และถ้าจะพูดถึงนักเตะที่สามารถยืนระยะได้นานเกือบๆ 20 ปี รักษาความคงเส้นคงวาได้แบบดีเยี่ยม แรงดี ไม่มีตก ในเรื่องของฟอร์มการเล่นขอบอกเลยว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นคนแรกๆ ที่คุณนึกถึง

เซร์คิโอ รามอส

ถึงชื่อของ เซร์คิโอ รามอส จะได้รับการจารึกเอาไว้แล้วว่านี่คือหนึ่งในตำนานผู้ยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์สโมสร เรอัล มาดริด ได้ลงเล่นไปแล้วเกือบ 700 นัด และซัลโวไปมากถึง 100 ประตูจนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในโลกลูกหนังยุคปัจจุบัน ส่วนเรื่องของความสำเร็จนี่ไม่ต้องพูดถึง ไม่ว่าจะเป็นในระดับสโมสรหรือนานาชาติกับ ทีมชาติสเปน เซร์คิโอ รามอส ได้โอกาสชูถ้วยโทรฟี่มาหมดแล้วทั้งแชมป์ ลา ลีกา และทุกถ้วยในประเทศ ตลอดจน แชมป์โลก กับ ยูโร ก็ได้นอนกอดมาหมดแล้วเช่นกัน แต่กว่าพี่แกจะก้าวมาอยู่ในจุดๆ นี้ได้ส่วนหนึ่งก็ต้องยกความดีความชอบสโมสรแรกเริ่มอย่าง เซบีย่า ที่เป็นคนดึงตัวเขามาปลุกปั้นและให้โอกาสในรั้วอคาเดมี่ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ถึงแม้ตลอดช่วงที่ผ่านมา เซร์คิโอ รามอส จะไม่ได้มีส่วนสำคัญบนหน้าประวัติศาสตร์ของ เซบีย่า มากนัก แต่เชื่อว่าอย่างน้อยทางสโมสรคงรู้สึกภูมิใจไม่ใช่น้อยเหมือนกันที่กองหลังที่ดีที่สุดในโลกคนนี้เป็นผลผลิตที่เติบใหญ่มาด้วยน้ำมือของพวกเขาเอง ปัจจุบันอนาคตของ เซร์คิโอ รามอส ในวัย 34 ปีกำลังเป็นเครื่องหมายคำถามว่าหลังจบซีซั่น 2020-21 นี้จะได้อยู่ต่อหรือไปจาก เรอัล มาดริด กันแน่ เพราะการเจรจาเรื่องสัญญาฉบับใหม่ยังไม่ลงตัว ถึงสโมสรจะพยายามยื่นข้อเสนอเพื่อรั้งให้เขาไม่ไปไหน แต่ดูเหมือนเงื่อนไขที่ได้นั้นจะยังไม่ตรงกับใจของ รามอส เท่าไหร่ ซึ่งตอนนี้ชื่อของ เซร์คิโอ รามอส กำลังตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับหลายๆ ทีมไม่ว่าจะเป็น ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, 2 ทีมดังจากเมือง แมนเชสเตอร์ รวมไปถึง ลิเวอร์พูล และ ยูเวนตุส สุดท้ายแล้วมันจะลงเอยยังไงก็คงต้องติดตามกันต่อไป ?

อิวาน ราคิติช 

เด็กปั้นจาก เอฟซี บาเซิ่ล ใช้ความทะเยอะทะยาน ความมุ่งมั่นทุ่มเทบวกกับเทคนิคและพรสวรรค์รอบด้านที่มีติดตัวสร้างโอกาสให้ตัวเองจนได้เข้ามาโลดแล่นบนสังเวียนลูกหนัง 5 ลีกใหญ่ยุโรปกับ ชาลเก้ 04 ใน บุนเดสลีกา เยอรมัน ตอนปี 2007 และด้วยวิวัฒนาการในเรื่องทักษะสกิลตลอดช่วงระยะเวลา 4 ปีบวกกับการเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ขุนพล "ราชันสีน้ำเงิน" กลายเป็นหนึ่งในทีมอันตรายที่สุดของ เยอรมัน มันก็ทำให้ชื่อของ อิวาน ราคิติช เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ก่อนจะได้โอกาสเซ็นสัญญาย้ายมาค้าแข้งกับ เซบีย่า ในปี 2010 พร้อมกับยึดตำแหน่งตัวจริงและเป็นใจกลางสำคัญที่ทีมจะขาดไปไม่ได้เลย โดยตลอดระยะเวลา 4 ปีในรั้ว ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน ราคิติช ได้ลงเล่นไป 149 เกม ยิงได้ 43 ประตู พร้อมกับเป็นส่วนหนึ่งช่วยให้ เซบีย่า ครองแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ในซีซั่น 2013-14 ซึ่งปีนั้น อิวาน ราคิติช ในฐานะกัปตันทีมก็ได้เป็นคนที่ชูถ้วยแชมป์เป็นคนแรกด้วย จากแววที่ฉายได้อย่างโดดเด่นมันก็นำมาซึ่งโอกาสที่ทำให้ อิวาน ราคิติช ย้ายไปเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเป็นเบอร์ต้นๆ ของโลกอย่าง บาร์เซโลน่า และพี่แกก็ไม่ทำให้สโมสรผิดหวังเลยจากการมีฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวาและเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยทีมล่าความสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเถลิงบัลลังก์ ทริปเปิ้ล แชมป์ ในปี 2015 แต่ท้ายที่สุดแล้วเมื่อ บาร์เซโลน่า เข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง การเซ็นสัญญา เฟรงกี้ เดอ ยอง ที่มีความสดใหม่กว่าก็เลยทำให้ อิวาน ราคิติช ต้องกลับมาตายรังที่ เซบีย่า อีกครั้ง แต่นั่นก็ดูเป็นสิ่งที่พี่แกต้องการ เพราะปัจจุบันในวัย 33 ปี อิวาน ราคิติช ก็ยังเป็นกำลังหลักและก็มีผลงานที่โดดเด่นเข้าตาเหมือนเคย

เฆซุส นาบาส

เฆซุส นาบาส นี่คือผลผลิตที่เบ่งบานมาจากรั้วอคาเดมี่ของสโมสร เซบีย่า โดยตรง หลังโดนทาบทามตัวมาปลุกปั้นตั้งแต่อายุ 15 ปี ก่อนจะได้โอกาสก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2003 และด้วยจุดเด่นในเรื่องของสปีดความรวดเร็วว่องไวและคล่องตัว มีสกิลการกระชากลากเลื้อยที่เป็นเลิศสามารถกดดันและสร้างปัญหาให้แนวรับคู่แข่งจนต้องรู้สึกว่าปวดกบาลสุดๆ มันก็เลยทำให้ เฆซุส นาบาส ได้ยึดตำแหน่งปีกขวายาวๆ เลยตลอด 9 ซีซั่นในสีเสื้อยูนิฟอร์ม ขาว-แดง ได้ลงเล่นไปเฉียด 400 นัด กดไป 34 ประตู และก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ เซบีย่า คว้าแชมป์ได้ถึง 7 โทรฟี่ซึ่งหนึ่งในนั้นคือแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก หรือ ยูฟ่า คัพ 3 สมัยด้วยกัน ต่อมาการย้ายไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2013 มันเป็นโอกาสอันดีที่ตัวของ เฆซุส นาบาส ได้ยกระดับตัวเองและก้าวกระโดดในเส้นทางอาชีพมากขึ้ัน แถมยังได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก ที่ใครต่อใครก็อยากสัมผัสกับมันอีกด้วย แต่จากการที่ แมนฯ ซิตี้ อยู่ในยุคที่ใช้เงินซื้อความสำเร็จและก็มีกุนซือใหม่ๆ ผลัดเวียนเปลี่ยนมือมาเรื่อยๆ มันก็ทำให้โอกาสการลงสนามของ เฆซุส นาบาส เริ่มไม่แน่นอน เช่นเดียวกับเรื่องของบทบาทเมื่ออายุเยอะขึ้นจากตำแหน่งปีกก็โดนจับถอยมายืนเป็นฟูลแบ็กแทน ปัจจุบันในวัย 35 ปี เฆซุส นานาส ขนข้าวของกลับมารับใช้ เซบีย่า อีกครั้งเป็นปีที่ 4 แล้ว ถึงอายุอานามจะมากแล้วแต่ก็ยังสร้างโยชน์มากมายให้กับทีม

โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส

ปิดท้ายกันที่ โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส นี่ก็เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่อยู่กับ เซบีย่า มาตั้งแต่เป็นเด็กในศูนย์ฝึกเยาวชน ก่อนจะได้โอกาสเปิดตัวกับทีมชุดใหญ่ตอนฤดูกาล 1999-2000 ในวัยแค่เพียง 16 ปีเท่านั้น และเขาก็ใช้เวลาไม่นานในการก้าวขึ้นไปเป็นแนวรุกคนสำคัญของทีม ถึง เรเยส จะไม่ได้เป็นนักเตะที่มีสถิติที่ดีในเรื่องการพังประตู แต่ถ้าเป็นเรื่องความคล่องตัว หรือการพาบอลตะลุยขึ้นหน้า หรือเรื่องการแต่งหาจังหวะยิงเอง พวกสไตล์เลี้ยงๆ กระชากตัดเข้าใน ขอบอกเลยว่า โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส คนนี้เป็นคนแรกๆ ที่นำเทรนด์นี้เลยจริงๆ และด้วยแนวทางที่ดูแปลกแหวกแนวในยุคนั้นบวกกับผลงานที่โดดเด่นเข้าตามันก็ทำให้เขาได้โอกาสย้ายออกไปหาความท้าทายครั้งใหม่ จะบอกว่า โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส เป็นหนึ่งในนักเตะที่มีบุญก็ว่าได้ เพราะตลอดช่วงอาชีพค้าแข้งเขาได้โอกาสค้าแข้งกับทีมดังๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นกับ อาร์เซน่อล ในยุคแชมป์ไร้พ่ายอย่าง "อิวิซิเบิ้ล" ตลอดจนการรับใช้ 2 ทีมชั้นนำของ ลา ลีกา อย่าง เรอัล มาดริด กับ แอตเลติโก มาดริด และกับทีมดังในโปรตุเกสอย่าง เบนฟิก้า และในทุกๆ ที่ๆ เขาไปก็มีแชมป์ติดไม้ติดมือมาตลอด และก่อนจะถึงช่วงบั้นปลายในเส้นทางค้าแข้ง โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส ก็ตัดสินใจกลับมาผจญภัยกับ เซบีย่า อีกครั้ง เบ็ดเสร็จแล้วตลอดช่วง 2 คำรบ เขาลงเล่นให้ เซบีย่า ไป 253 เกม ยิงได้ 40 ประตู พาทีมคว้าแชมป์ได้ 4 โทรฟี่ แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบัน โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส ได้จากโลกนี้ไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับในวัย 35 ปี หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ช่วงปี 2019 ทางเรา ขอบสนาม ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและเพื่อนๆ ของเขาอีกครั้งหนึ่งด้วยครับ…

HaMu Dos Santos