วิเคราะห์โอกาสของ ลุค ชอว์ กับการติดทีมชาติอังกฤษไปลุยศึกยูโร 2020

ลุค ชอว์ แบ็คซ้ายของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นนักเตะที่ฟอร์มการเล่นในฤดูกาลนี้ถือว่าก้าวกระโดดพัฒนาขึ้นมาเป็นอย่างมาก ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาเป็นหนึ่งในแข้งที่เป็นเป้าโจมตีของแฟนบอลเกี่ยวกับผลงานยามลงรับใช้ต้นสังกัด

ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลที่แล้วผลงานของ ชอว์ ไม่ได้มีความหวือหวา หรือน่าสนใจเท่าไหร่นัก จนทัพ "ปีศาจแดง" ต้องไปคว้าตัว อเล็กซ์ เตลลิส ฟูลแบ็คเกมรุกเด่นจาก ปอร์โต้ เพื่อเข้ามาเป็นคนกดดัน และแย่งพื้นที่ตัวจริงกับบทบาทแบ็คซ้ายตัวจริงของทีม ซึ่งดูเหมือนมันจะได้ผลพอสมควร เพราะดาวเตะชาวอังกฤษสามารถเค้าศักยภาพออกมาจนได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าใครได้ติดตามฟอร์มของ ชอว์ จะเห็นเลยว่านอกจากเกมรับที่เขาสามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว ในเรื่องของเกมรุกเจ้าตัวก็สามารถพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาได้มากพอสมควร มันเลยเป็นที่มาของการทำแอสซิสต์ไปได้แล้วถึง 6 ครั้งในฤดูกาลนี้ และด้วยผลงานที่จับต้องได้แบบนี้มันเลยทำให้แฟนบอลเริ่มมีการพูดถึงกันแล้วถึงโอกาสที่ ลุค ชอว์ จะกลับไปติดทีมชาติอังกฤษอีกครั้ง ในการลุยศึกยูโร 2020 ในช่วงกลางปีนี้  ว่าแล้ว ขอบสนาม เราเลยจะมาทำการวิเคราะห์ถึงโอกาสฟูลแบ็ควัย 25 ปี รายนี้กันหน่อยว่าเป็นไปได้มาก-น้อย ขนาดไหน กับการรีเทิร์นติดธงทัพ "สิงโตคำราม" ไปลุยทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในครั้งนี้ ครั้งล่าสุดที่ ลุค ชอว์ มีชื่อติดทีมชาติอังกฤษต้องย้อนกลับเวลาไปเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2018 ยุคที่มีนายใหญ่คือ แกเร็ธ เซาธ์เกต เข้ามาคุมทีมแล้วเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเกิดขึ้นในเกมยูฟ่า เนชั่นส์ คัพ ซึ่งวันนั้นทัพ "สิงโตคำราม" เปิดบ้านพ่าย สเปน 1-2 โดยบทบาทในวันนั้น ชอว์ ถูกส่งลงไปเล่นในตำแหน่งวิงแบ็คทางฝั่งซ้ายได้โอกาสอยู่ในสนาม 53 นาที  ซึ่งนั้นคือเกมล่าสุดของเจ้าตัวในสีเสื้อทีมชาติอังกฤษ นับจนถึงตอนนี้เวลาก็ผ่านมากว่า 2 ปีกว่าแล้วที่เราไม่ได้เห็น ชอว์ ในบทบาทนักเตะที่ลงรับใช้ชาติบ้านเกิด จะว่าไปมันก็เป็นเวลาที่ยาวนานมากพอสมควรแล้ว แต่ทุกอย่างมันก็มีเหตุผล เพราะด้วยผลงานที่ดร็อปลง บวกกับอาการบาดเจ็บ มันเลยเป็นเหมือนตัวฉุดกระชากไม่ให้ฝีเท้าของเขาพัฒนาไปข้างหน้า จนกระทั่งทุกอย่างมันเข้าที่เข้าทางสลัดอาการบาดเจ็บได้ บวกกับอายุที่กำลังเข้าสู่วัยพีคมันเลยออกมาเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมให้แฟนบอลได้ยลโฉมกัน และถ้าถามว่าตอนนี้ ชอว์ มีโอกาสมากขนาดไหนกับการได้ไปลุยศึกยูโร?  ก็คงต้องตอบตามผลงานที่มองเห็นคือมีโอกาสมากที่สุดในบทบาทตำแหน่งแบ็คซ้าย เพราะด้วยผลงานที่จับต้องได้ และได้ลงเล่นแบบสม่ำเสมอ ต่างจากคู่แข่งที่ยืนเป็นขาประจำในช่วงก่อนหน้านี้อย่าง เบน ชิลเวลล์ ที่ไม่ได้ยึดเป็นตัวหลักของ เชลซี ในยุคของ โธมัส ทูเคิ่ล แถมหล่นไปเป็นตัวสำรองอยู่บ่อยครั้ง บวกกับผลงานที่แสดงออกมามันสามารถตัดสินได้ง่ายมากเลยทีเดียว ฉะนั้นแล้วว่ากันตามผลงานที่เห็นกัน แน่นอนว่า ชอว์ เข้าวินแบบขาดฉลุยแบบไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียว แต่ทว่าคู่แข่งของ ชอว์ ก็หาใช่ว่าจะมีเพียง เบน ชิลเวลล์ เพียงคนเดียวที่ยืนต่อแถวเป็นแคนดิเดตในตำแหน่งแบ็คซ้ายของทีมชาติอังกฤษ มันยังรวมไปถึงแข้งรายอื่นๆ ที่ทำผลงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งเท่าที่สอดส่ายสายตามองหาก็สามารถคัดออกมาเป็นตัวเลือกที่พอจะให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต คิดทบทวนในใจได้อีกอย่างน้อยๆ 3 ราย รายแรกนั้นก็คือ อารอน เครสเวลล์ แข้งจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ในฤดูกาลนี้ค่อนข้างรักษามาตรฐานของตัวเองไว้ได้อย่างต่อเนื่อง แถมยังยึดเป็นแบ็คซ้ายของหลักของทัพ "ขุนค้อน" อีกด้วย จุดเด่นของแข้งวัย 31 ปี ผู้นี้อยู่ที่การเติมเกมรุกที่มักสอดขึ้นไปสร้างโอกาสใก้เพื่อนร่วมทีมได้หลายครั้ง จนเป็นที่มาของ 7 แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ นอกจากนั้นอีกยังมี ไรอัน เบอร์ทรานด์ ฟูลแบ็คความเร็วสูงจาก เซาแธมป์ตัน ที่ซีซั่นนี้ยังคงเป็นแบ็คซ้ายตัวหลักของ เซาแธมป์ตัน พร้อมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เรียกได้ว่าถ้าไม่เจ็บไม่ป่วย ยังไงเสียตำแหน่งนี้ของทัพ "นักบุญ" เบอร์ทรานด์ ก็ครอบครองเป็นเบอร์ 1 อยู่ดี  คนสุดท้ายที่อยู่ในลิสต์แต่ค่อนข้างเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์นั้นก็คือ บูยาโย่ ซาก้า ดาวรุ่งของ อาร์เซน่อล ที่สามารถเล่นได้บทบาทริมเส้นทางฝั่งซ้ายได้หมดไม่ว่าจะเป็นตัวรับ หรือรุก ฉะนั้นแล้วด้วยความยืดหยุ่น และผลงานในขวบปีที่ผ่านมาที่เจ้าตัวสามารถแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว ทำให้เขาค่อนข้างได้เปรียบพอสมควรกับการเป็นแครดิเดตถูกเรียกไปเป็นกำลังเสริมให้กับทีมชาติอังกฤษในศึกยูโรคราวนี้ สุดท้ายขออนุญาตก้าวกระโดดไปในกรณีที่ ชอว์ ได้ติดทีมไปลุยศึกยูโรจริง เขาจะได้รับโอกาสลงสนามมากขนาดไหน และจะขึ้นเครื่องไปพร้อมทีมในบทบาทแบ็คซ้ายเบอร์หนึ่งของทีมหรือไม่ ? ซึ่งคำตอบของประเด็นนี้คงต้องย้อนกลับไปที่ผลงานที่ได้กล่าวไป เพราะด้วยผลงาน ณ ปัจจุบันมันสามารถมอง และคิดได้ว่าเขาคือแคนดิเดตหมายเลขหนึ่งในตำแหน่งนั้น และเหมาะสมด้วยทุกประการสำหรับการยึดตัวจริงของทีม แต่ทว่าเกมทีมชาติมันมีหลากหลายปัจจัยที่กุนซือต้องนำมาขบคิด โดยเฉพาะเรื่องของความเหมาะสม และความเข้าใจในตัวเกม  สิ่งหนึ่งที่ ชอว์ เป็นรองคือการขาดการลงเล่นให้กับทีมชุดนี้ของ เซาธ์เกต มานานพอสมควร ในเรื่องของความเข้าใจแท็คติกอาจเป็นรองตัวเลือกคนอื่นที่เป็นขาประจำ เล่นจนรู้ใจ และเข้าขากับเพื่อนร่วมทีมรายอื่นๆ สุดท้ายเมื่อถึงเวลาจริงเราไม่รู้ว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต จะเลือกหนีบใครไปลุยศึกครั้งใหญ่นี้บ้าง แต่บทสรุปในเรื่องของ ลุค ชอว์ ถ้าให้ประเมินโอกาสติดทีมไปก็มีเกินครึ่ง  ส่วนเรื่องของการลงสนามคงเป็นปัจจัยที่กุนซือต้องเป็นคนเลือกคนที่เหมาะสมกับทีมที่สุด และสามารถสร้างผลงาน เค้นศักยภาพออกมาได้เพื่อทีมได้มากที่สุดเท่านั้นเอง

- เปา ขอบสนาม -