5 กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ที่หวังเป็นม้ามืดติดทัพลุยศึกยูโร 2020 

ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลยูโร 2020 ในช่วงกลางปีนี้ แน่นอนว่าชาติที่ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษคงหนีไม่พ้นทีมชาติอังกฤษ ของ แกเร็ธ เซาธ์เกต

เพราะด้วยผลงานที่ผ่านมา รวมไปถึงชื่อชั้นของนักเตะในทีมมันเลยเป็นมวลรวมที่ดึงดูดความสนใจจากแฟนบอลได้ไม่ใช่น้อย แม้ที่ผ่านมาพวกเขาจะยังไม่เคยเอื้อมมือไปหยิบโทรฟี่เจ้ายุโรปใบนี้มาครองเลยก็ตามที ซึ่งหนึ่งในเรื่องที่น่าสนใจของทัพ "สิงโตคำราม" ในชุดนี้คือตำแหน่งกองหน้าตัวจบสกอร์ แน่นอนว่า 1 ในโควต้าที่ถ้าไม่ได้รับบาดเจ็บยังไงเสียก็ต้องมีชื่ออยู่ในทีมนั้นก็คือ แฮร์รี่ เคน หัวหอกจาก ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ส่วนอีกคนตามคาดการณ์ก็ไม่น่าหลุดออกจากโผเช่นกันคือในรายของ โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน ส่วนในรายอื่นๆ ก็ต้องลุ้นกันว่าจะมีแข้งคนไหนบ้างทั้ฟอร์มดีเข้าตา เซาธ์เกต และจะหิ้วขึ้นเครื่องติดทีมไปบ้าง  ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราในวันนี้เลยจะมาพูดถึง 5 กองหน้าทีมชาติอังกฤษว่านอกจาก 2 หน่อนั้นแล้วจะมาแข้งรายไหนบ้างที่พอจะเป็นม้ามืดถูกหนีบติดทีมไปลุยศึกยูโรในกลางปีนี้บ้าง จะมีใครกันบ้าง ไปติดตามกันได้เลย

คาลั่ม วิลสัน (นิวคาสเซิ่ล)

ถ้าเทียบเรื่องของชื่อชั้น และต้นสังกัด วิลสัน อาจไม่ใช่กองหน้าที่ได้รับการจับตามองเท่าที่ควร แต่ทว่านี่คือหนึ่งในหัวหอกที่ผ่านประสบการณ์ และเจนจัดคนนึงของวงการฟุตบลอลีกอังกฤษเลยก็ว่าได้ เพราะผลงานกับทั้ง บอร์นมัธ หรือ นิวคาสเซิ่ล เขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถเป็นตัวความหวังในการผลิตสกอร์ของทีมขนาดเล็ก และระดับกลาง ได้อย่างดีเยี่ยม ย้อนกลับไปชื่อของ วิลสัน เคยถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษมาแล้วในช่วงระหว่างปี 2018-19 ซึ่งก็คือในยุคของกุนซืออย่าง แกเร็ธ เซาธ์เกต นี่แหละ โดยลงสนามรับใช้ทัพ "สิงโตคำราม" รวมทั้งหมด 4 นัด กระทุ้งไปได้ 1 ประตู แต่จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ร่วมปีเศษแล้วที่หัวหอกวัย 29 ปี ห่างหายจากการติดทีมชาติไป แต่ทว่าด้วยผลงานกับที่ "สาลิกาดง" ในฤดูกาลนี้ถือว่าจับต้องได้เหมือนกัน ซัดไปแล้ว 10 ประตู จากการลงสนาม 21 นัดในพรีเมียร์ลีก ซึ่งจำนวนดังกล่าวมันมากกว่ากองหน้าร่วมชาติชื่อดังไม่ว่าจะเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง หรือ แดนนี่ อิงส์ เสียอีก ซึ่งก็ต้องตามดูกันว่าผลงานต่อจากนี้ของเขาจะดีขึ้นหรือไม่ และมันดีพอจะชนะใจ เซาธ์เกต ในการเรียกตัวขึ้นเครื่องไปด้วยหรือไม่

แทมมี่ อบราฮัม (เชลซี)

ถอยหลังกลับไปเมื่อช่วงสิ้นปี 2020 หัวหอกวัย 23 ปี ถือว่าเป็นกองหน้าตัวเลือกแรกๆ ของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เลยก็ว่า เพราะเจ้าตัวเป็นหนึ่งในแคนดิเดตชุดลุยศึกยูฟ่า เนชั่นส์ เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แม้จะไม่ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริง แต่นั้นก็เหมือนสัญญาณที่บ่งบอกว่าเส้นทางกับทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ของเขาก็เปิดต้อนรับผายมือเชื้อเชิญเช่นกัน แต่ทว่ากับฤดูกาลนี้ด้วยบทบาทกับ เชลซี ที่ อบราฮัม ไม่ใช่ตัวเลือกเบอร์ 1 คนเดียวอีกต่อไป เพราะการเข้ามาของ ติโม แวร์เนอร์ รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนกุนซือจาก แฟร้งค์ แลมพาร์ด มาเป็น โธมัส ทูเคิ่ล ทำให้โอกาสลงสนามไปโชว์ฝีเท้าส่วนมากมาจากม้านั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่ แต่ทว่าถ้ามองไปที่เรื่องของตัวเลขการทำประตู 12 ตุง จากการลงสนาม 30 นัดทุกรายการถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ขี้เหร่ ซึ่งถ้าทีมชาติอังกฤษอยากได้กองหน้าที่มีความสด วิ่งไล่บดขยี้ และสามารถจบสกอร์ได้ดี  ถือว่าชื่อของ แทมมี่ อบราฮัม ตอบโจทย์มากพอสมควร

โอลลี่ วัตกิ้นส์ (แอสตัน วิลล่า)

อีกหนึ่งกองหน้าฟอร์มแรงที่แจ้งเกิดในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งล่าสุดในทีมชุดคัดฟุตบอลโลกช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ วัตกิ้นส์ ก็ถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษครั้งแรกแล้ว จากผลงานกระหน่ำไป 12 ประตู จากการลงสนามให้ แอสตัน วิลล่า ทุกรายการ 31 นัด จุดเด่นของหัวหอกวัย 25 ปี รายนี้คือเรื่องของการมีสัญชาติญาณกองหน้าแบบเต็มเปี่ยม และมักพาตัวเองไปอยู่ในพื้นที่ที่สามารถเข้าฮอสทำประตู หรือหาพื้นที่สร้างโอกาสให้ทีมได้อยู่เสมอ อีกทั้งผลงานเด่นๆ ในซีซั่นนี้ของเขาคือมักผลิตสกอร์ใส่ทีมที่ใหญ่กว่า อย่าง อาร์เซน่อล ที่ฤดูกาลนี้โดนยิงทั้งไป และกลับรวม 3 ประตู ส่วน ลิเวอร์พูล ก็โดนซัดแฮตทริกในเกมที่บุกพ่าย วิลลา 7-2 เมื่อช่วงต้นฤดูกาล ฉะนั้นแล้วการถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษขบวนล่าสุดน่าจะเป็นการที่ เซาธ์เกต เรียกไปเพื่อทดสอบ และปรับตัวว่าจะสามารถเข้ากับระบบแบบแผนของทีมได้ไหม และถ้ามองอีกมุมแม้จะมีชื่อติดทัพ "สิงโตคำราม" เป็นครั้งแรก แต่มันก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าเขาอาจเป็นหนึ่งในแคนดิเดตไปลุยทัวร์นาเมนต์ระดับทวีปครั้งแรกก็เป็นได้

แดนนี่ อิงส์ (เซาแธมป์ตัน)

หนึ่งในกองหน้าที่ต้องยอมรับว่ามีลีลาการจบสกอร์ที่ค่อนข้างเฉียบคนมากที่สุดหนึ่ง ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลที่แล้วเจ้าตัวกระหน่ำไปถึง 25 ประตู จากการลงสนาม 42 นัด ถือว่าเป็นจำนวนที่มากพอสมควรเมื่อเทียบกับขนาดของทีม และสภาพแวดล้อมโดยรอบ แต่ทว่าพอก้าวเปลี่ยนซีซั่นดูเหมือนผลงานของ อิงส์ จะดร็อปลงส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาการบาดเจ็บที่เขาต้องเผชิญ ในฤดูกาล 2020-21 นี้หัวหอกวัย 28 ปี ต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บไปแล้วถึง 3 ครั้ง จากส่วนประกอบในร่างกาย 2 แห่งประกอบไปด้วยบริเวณหัวเข่า และแฮมสตริง ทำให้ความต่อเนื่องในยิงประตูนั้นมันน้อยลงไป แต่ก็ยังผลิตสกอร์ได้ถึง 9 ลูก ถ้าเจ้าตัวสามารถสลัดอาการบาดเจ็บทิ้งไปได้ บวกกับรักษาสภาพร่างกายให้ฟิตสมบูรณ์ และเรียกฟอร์มเก่งกลับมาในช่วงที่เหลือ ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ เซาธ์เกต เองน่าจะหันมามอง และอยู่ในลิสต์รายชื่อเช่นกัน 

พาทริค แบมฟอร์ด (ลีดส์ ยูไนเต็ด)

ตลอดชีวิตลูกหนัง แบมฟอร์ด ในวัย 27 ปี ไม่เคยได้รับโอกาสติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เลยสักครั้งเดียว ซึ่งนั้นคือเรื่องที่พอเข้าใจได้ เพราะด้วยผลงาน และสโมสรที่เจ้าตัวลงเล่นมักไม่ได้รับความสนใจมากที่ควร แต่ทว่าในขวบปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าชายหนุ่มผู้นี้สร้างผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมมากพอสมควร 14 ประตู จาก 29 นัดในพรีเมียร์ลีก คือตัวเลขที่เปรียบดั่งเครื่องยืนยันความร้อนแรงของเขาได้เป็นอย่างดี แต่น่าเสียดายที่ล่าสุดทีมคัดบอลโลกชื่อของ แบมฟอร์ด ก็หลุดโผออกไปแบบงงๆ เช่นกัน  แต่อย่างไรก็ตามแม้จะไม่อยู่ในขุนพลชุดล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาพูดชัดแล้วว่ายังไงก็จะรอโอกาสต่อไป และไม่เลือกหันหลังเพื่อไปรับใช้ทีมชาติไอร์แลนด์ที่เจ้าตัวสามารถทำได้แน่นอน ซึ่งถ้ามองจากตัวเลขการทำประตูเขาเป็นรองเพียง แฮร์รี่ เคน เพียงคนเดียว และยิงได้เท่ากับ โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน ฉะนั้นแล้วเชื่อว่าประตูของเขายังไม่ปิดตายเสียทีเดียว ขืนเร่งฟอร์มในช่วงโค้งสุดท้ายนี้บางที เซาธ์เกต คงต้องหันหลังมามอง และมอบของขวัญด้วยตั๋วไปลุยศึกยูโรก็เป็นได้

- เปา ขอบสนาม -