logo-heading

กลายเป็นข่าวที่สั่นสะเทือน และได้รับความสนใจจากคนในวงการลูกหนังได้มากพอสมควรสำหรับประเด็นของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่ตกอยู่ในกระแสว่ามีโอกาสย้ายทีมเกิดขึ้นในช่วงตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้

โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีภาพหลุดออกมาว่าเอเยนต์อย่าง มิโน่ ไรโอล่า กับ อัล์ฟ อิงเก้ ฮาแลนด์ คุณพ่อของเขาเดินสายพูดคุยกับสองสโมสรใหญ่ในสเปนทั้ง บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด ซึ่งทำให้เป็นการโหมกระแสข่าวการย้ายต้นสังกัดให้มีความร้อนแรงเพิ่มเป็นทวีคูณ ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราเลยจะมาทำการวิเคราะห์กันว่ามีโอกาสเป็นไปได้มากขนาดไหนที่เราจะเห็น ฮาแลนด์ เปลี่ยนต้นสังกัด และคุณพ่อของเขาจะไปเสนอลูกชายให้กับสโมสรไหนอีกบ้าง หรือพอจะมีช่องทางไหนบ้างที่ ดอร์ทมุนด์ จะรั้งดาวยิงผู้นี้ให้อยู่ล่าตาข่ายกับทีมต่อไป

ทีมไหนที่มีโอกาสได้ตัว ฮาแลนด์ ไปบ้าง

บาร์เซโลน่า  กลายเป็นที่ฮือฮาขึ้นมาทันทีเมื่อมีบุคคลตาดีถ่ายรูปถ่ายรูป  มิโน่ ไรโอล่า กับ อัล์ฟ อิงเก้ ฮาแลนด์  เดินทางไปยังแคว้น กาตาลุนย่า เพื่อพูดคุยเจรจากับ โจน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสรคนใหม่ของ บาร์เซโลน่า ซึ่งที่ทำให้เป็น ทอร์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ เพราะนี่สถานที่แรกที่ทั้งสองคนได้เดินทางไปหาด้วยตัวเอง แน่นอนว่ามันคงไม่ใช่ประเด็นอื่นใดนอกจากการสู่ขอ ฮาแลนด์ เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของทัพ "อาซูลกราน่า" ในฤดูกาลหน้า ซึ่งจะว่าไปถ้าจะจับ ฮาแลนด์ มาเชื่อมโยงกับ บาร์เซโลน่า ก็อาจจะเป็นเรื่องยากหน่อย เพราะด้วยปัญหาทางด้านการเงินที่ทางยักษ์ใหญ่จากสเปนอาจจะไม่ได้มีเงินถังในการทุ่มซื้อ ไหนจะเรื่องค่าเหนื่อยอีก ที่รวมๆ แล้วมันมหาศาลมากพอสมควร แต่ทว่ากับกระแสล่าสุดสื่อทางฝั่งสเปนก็รายงานออกมาว่า ลาปอร์ต้า ได้ประกาศเดินหน้าชัดเจน และล็อคเป้าแล้วว่าดาวยิงชาวนอร์เวย์คือเป้าหมายเบอร์ 1 ของทีมในตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้ เพื่อนำตัวมาเป็นส่วนสำคัญในการพาสโมสรกลับไปครองความยิ่งใหญ่อีกครั้ง และเพื่อสื่อถึงความทะเยอทะยานของประธานคนใหม่ว่าพร้อมพาทีมก้าวไปข้างหน้า หลุดพ้นจากหลุมดำในยุคของ โจเซฟ มาเรีย บาร์โตเมว วิเคราะห์โอกาสของ ฮาแลนด์ จะย้ายไปไหน หรือจะอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ต่อไป ? เรอัล มาดริด หลังปล่อยให้แฟน บาร์เซโลน่า วาดฝันกันไปชั่วขณะนึง ไม่นานก็มีรายงานออกมาว่าแท้จริงแล้ว ไรโอล่า กับคุณพ่อของ ฮาแลนด์ ไม่ได้มุ่งตรงไปสเปนเพื่อเจรจากับทัพ "อาซูลกราน่า" เพียงทีมเดียว เพราะพอตกเย็นทั้งคู่ก็ได้เดินทางไปหาคู่รักคู่แค้นอย่าง เรอัล มาดริด ต่อในทันที ประมาณว่ามาทั้งทีอย่าให้เสียโอกาส ซึ่งถ้ามองถึงโอกาสความน่าจะเป็น "ราชันชุดขาว" ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดูจะเหมาะสมไม่ใช่น้อย เนื่องด้วยปัญหาของพวกเขาที่เรามองเห็นคือการจบสกอร์ ที่ช่วงหลังต้องให้ คาริม เบนเซม่า เป็นตัวความหวังเพียงรายเดียว ส่วนแนวรุกคนอื่นๆ ยังไม่อาจฝากผีฝากไข้ได้มากเท่าไหร่ และเมื่อมาบวกกับกระแสข่าวที่ออกมาว่าทีมเตรียมโละแข้งในทีมกว่า 6 รายเพื่อเปิดทางให้ ฮาแลนด์ ย้ายมาสู่ทีม รวมไปถึงช่วงปีหลังๆ ที่ผ่านมาพวกเขาไม่ได้ทุ่มเงินซื้อใครที่เป็นซุปเปอร์สตาร์เข้ามาเลยรายล่าสุดคงต้องย้อนกลับไปในดีลของ เอเด็น อาซาร์  ซึ่งเมื่อเอาเหตุผลต่างๆ มาผนวกกันมันเลยมีโอกาสที่พวกเขาจะสร้าง กาลาติกอส  ภาคใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง โดยการมีดาวรุ่งฟอร์มแรงอย่าง ฮาแลนด์ เป็นตัวชูโรง ซึ่งไม่แน่มันอาจสมทบมาด้วยแข้งรุ่นราวคราวเดียวกันอย่าง คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ ก็เป็นได้ เชลซี ย้อนกลับไปสัก 2 สัปดาห์ก่อนชื่อของ เชลซี กลายเป็นสโมสรที่เข้ามาพัวพันกับ ฮาแลนด์ ไม่ใช่น้อย เนื่องจากด้วยประสิทธิภาพกองหน้าที่มีอยู่ในทีมตอนนี้ดูมันยังไม่ค่อยตอบโจทย์ และผลงานที่แสดงออกมาไม่ค่อยน่าอภิรมณ์สักเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะเป็น ติโม แวร์เนอร์, แทมมี่ อบราฮัม หรือ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ซึ่งถ้ามองไปที่จำนวนเงินต้องบอกว่าทัพ "สิงห์บลู" เองก็น่าจะพอมีกำลังในการประเคนค่าตัว บวกกับค่าเหนื่อยที่ล่อตาล่อใจ ฮาแลนด์ ได้เหมือนกัน โดยจากการรายงานของสื่ออย่าง อีเอสพีเอ็น ระบุว่า "เสี่ยหมี" พร้อมเบิกงบในธนาคารเพื่อเดินหน้าซิวตัวหัวหอกรายนี้มายังถิ่น สแตมฟอร์ด บริจด์ ให้ได้ เพื่อพาความสำเร็จโดยเฉพาะแชมป์พรีเมียร์ลีกกลับมายังสโมสรอีกครั้ง หลังมือเปล่าติดต่อกันมาแล้วกว่า 4 ปีเต็ม แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคสำหรับพวกเขาก็มีเหมือนกัน เพราะด้วยความสัมพันธ์ของสโมสรกับเอเยนต์จอมแสบอย่าง มิโน่ ไรโอล่า ไม่คอยกินเส้นกันเท่าไหร่ จากกรณีของ โรเมลู ลูกากู เมื่อปี 2017 ทำให้นี่น่าจะเป็นจุดอ่อนที่อาจทำให้ เชลซี ต้องรุกหนักถ้าอยากจะได้ตัว ฮาแลนด์ มาครองจริงๆ วิเคราะห์โอกาสของ ฮาแลนด์ จะย้ายไปไหน หรือจะอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ต่อไป ? แมนฯ ซิตี้ อีกหนึ่งทีมที่พอมีประสิทธิภาพทางการเงินที่จะสามารถปิดดีลหัวหอกวัย 20 มาครองได้ ซึ่งเมื่อมาบวกกับทีมจำเป็นต้องหากองหน้าคนใหม่เพื่อเข้ามาแทนที่ของ เซร์คิโอ อเกวโร่ กองหน้าตำนานของสโมสรที่กำลังเก็บกระเป๋าย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ มันเลยทำให้พวกเขาถูกจับมาโหมกระแสอีกครั้งในการไล่ล่าตัวดาวยิงผู้นี้ แต่ทว่าดูเหมือนกระแสนี้จะอยู่ได้ไม่นาน เพราะล่าสุด เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในฐานะกุนซือของทีมก็ออกมาดับเทียนประกาศชัดเลยว่าตอนนี้ทีมไม่มีเงินถุงเงินถังในการควักกระเป๋าจ่ายออกไปได้ เนื่องด้วยสถานการณ์เศรษฐิกิจในช่วงโควิด-19 มันเลยเป็นไปได้ยากที่จะเห็น ฮาแลนด์ ในสีเสื้อเดียวกับคุณพ่อของเขา  "ในแง่ของตัวเลขมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ส่วนในแง่ของสิ่งที่เขาหมายถึงสโมสรแห่งนี้มันเป็นไปไม่ได้ ฟังนะราคาเหล่านี้เราจะไม่ซื้อกองหน้า เราไม่สามารถจ่ายได้ ทุกสโมสรต้องดิ้นรนทางการเงิน และเราก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น" แต่อย่างไรก็ตามในโลกของฟุตบอลมันไม่มีอะไรแน่นอนหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างไรเสีย แมนฯ ซิตี้ ก็ยังคงเป็นหนึ่งในแคนดิเดตเบอร์โตในการมีโอกาสได้ตัว ฮาแลนด์ และคุณพ่อของเขาอย่าง อัล์ฟ อิงเก้ ฮาแลนด์ ก็คงอาจจะหวังอยู่ลึกๆ ว่าลูกชายของเขาจะเดินตามทาง และประสบความสำเร็จกับอดีตต้นสังกัดที่เขาเคยลงเล่นมาก่อน แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมที่ตกเป็นข่างกับ ฮาแลนด์ มากที่สุดแล้วตั้งแต่ที่เจ้าตัวยังคงค้าแข้งอยู่กับ เร้ดบูลส์ ซัลบวร์ก แต่ทว่าท้ายที่สุดมันก็ยังไม่มีอะไรในกอไผ่ และดีลนี้จึงกลายเป็นอีกหนึ่งในประวัติศาสตร์ของวลียอดฮิตอย่าง "48 ชั่วโมง" ย้อนกลับไปเมื่อช่วงตลาดเดือนมกราคม 2020 “ปีศาจแดง” กำลังมองหากองหน้าตัวเป้าขนานแท้อยู่มันเลยทำให้ทั้งสองได้มีโอกาสถูกนำมาเชื่อมโยงกัน แต่สุดท้ายก็โดน ดอร์ทมุนด์ ตัดหน้าคว้าตัวไปครอง แถมด้วยค่าตัวที่ถูกเหมือนได้เปล่าเพียง 20 ล้านยูโรเท่านั้น และแน่นอนแม้เวลาผ่านไปชื่อของ แมนฯ ยูไนเต็ด กับ ฮาแลนด์ ก็ไม่เคยลดดีกรีความรุนแรงลงเลยยังคงถูกนำมาประติดประต่อกันในทุกช่วงตลาดนักเตะ เช่นเดียวกับซัมเมอร์นี้ ซึ่งจะว่าไปด้วยตำแหน่ง และความต้องการนี่คือกองหน้าที่ทีมเองก็หวังอยากจะได้มาเสริมความแกร่ง แต่ทีนี้ประเด็นใหญ่คือเรื่องของตัวเงินที่ค่อนข้างเยอะ บวกกับตัวของเอเยนต์อย่าง ไรโอล่า ที่ไม่กินเส้นกับสโมสร มันเลยทำให้ดีลนี้ของ “ปีศาจแดง” อาจจะดูยากไปหน่อย แต่ก็ไม่อาจตัดชื่อเขาอยู่ในโผ (ว่าที่) ทีมใหม่ของ ฮาแลนด์ ได้ ฮาแลนด์

โอกาสที่ยังอยู่กับ ดอร์ทมุนด์

นี่น่าจะเป็นประเด็นที่ไม่ค่อยมีใครหยิบยกมาพูดถึงมากเสียไหร่กับโอกาสที่ ฮาแลนด์ จะยังคงสวมชุดเกราะของ "เสือเหลือง" ในการไล่ล่าประตูในฤดูกาลหน้า เพราะแทบทุกกระบอกเสียงต่างเทไปในทิศทางเดียวกันว่า ย้ายแน่ ! ซึ่งจะว่าไปด้วยผลงานของ ฮาแลนด์ ไม่แปลกที่ใครจะต่างบอกว่าควรที่จะย้ายออกไปหาความสำเร็จ และทีมที่ใหญ่กว่านี้ได้แล้ว เพราะด้วยฝีเท้าเขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถสอบผ่านกับบททดสอบระดับสูง โดยเฉพาะในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก ที่สร้างสถิติตัวเลขไว้ได้อย่างสวยงาม แต่ถ้ามองในอีกมุมนึงด้วยอายุที่เพิ่งแตะหลัก 20 ปี เวลาของเขายังมีอีกมากโขในการย้ายออกไปหาบรรยากาศใหม่ๆ และมันอาจจะเร็วเกินไปไหมในการย้ายออกจากที่ที่เขาเองแทบไม่ต้องคาดหวัง และไม่มีใครมาฝากความหวังไว้บนบ่าทั้งสองข้างมากนัก ซึ่งจะว่าไปบางทีด้วยช่วงเวลาอย่างที่กล่าวถ้าคิดผิดชีวิตอาจเปลี่ยนไปอีกแบบเลยก็ได้ ตัวอย่างรุ่นพี่หลายๆ คนมีเป็นกรณีศึกษาให้เห็นอยู่หลายครั้ง ส่วนทางฝั่งต้นสังกัดเองก็แสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่อยากปล่อยแข้งตัวหลักออกจากทีม มันเลยเป็นสาเหตุที่กล้าตั้งค่าตัวของ ฮาแลนด์ ไว้สูงถึง 150 ล้านยูโร เพื่ออย่างน้อยเป็นการกันท่าไม่ให้สโมสรไหนกล้าทุ่มเงินแบบเดือดดาลในยุคที่เศรษฐกิจโดนเชื้อไวรัสเล่นงานแบบนี้ หรืออีกวิธีที่พอจะรั้ง ฮาแลนด์ เอาไว้คือการพุ่งชนกับความสำเร็จ และแสดงความกระหายเพื่อสัมผัสแชมป์ออกมา อย่างในฤดูกาลนี้ถ้าพวกเขาสามารถหักด่านคว้าโทรฟี่ แชมเปี้ยนส์ลีก มาครอง มันอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนที่แทงใจดาวยิงผู้นี้ให้กลับมามีความเชื่อมั่น และอยากอยู่เพื่อสร้างความสำเร็จให้กับสโมสรมากขึ้น แต่ถ้าบอกกันตามตรงด้วยสถานการณ์ตัวเลข 150 ล้านยูโร ถ้ามีคนมายื่นข้อเสนอจริง ดอร์ทมุนด์ เองก็ต้องใจอ่อนยอมปล่อยออกไป เพราะมันก็จะวิน-วิน กันทุกฝ่าย นอกจากนั้นตามรายงานที่เคยระบุว่าถ้า "เสือเหลือง" ไม่ยอมปล่อยในช่วงซัมเมอร์นี้ เวลาผ่านไปจนถึงปี 2022 ค่าตัวของ ฮาแลนด์ จะลดลงมาเหลือเพียง 60 ล้านยูโรเท่านั้น ตามเงื่อนไขในสัญญา ฉะนั้นแล้วมันก็เหมือนทางแยกเช่นกันว่า ดอร์ทมุนด์ จะตัดสินใจอย่างไร เก็บไว้เพื่อไล่ล่าความสำเร็จอีกอย่างน้อยหนึ่งปี หรือเลือกปล่อยออกไปเพื่อแลกกับเงินก้อนโตที่หาได้ยากลำบากในชั่วโมงนี้ บทสรุปสุดท้ายของมหากาฬเรื่องนี้จะลงเอยเช่นไร ทีมไหนจะได้ตัวพ่อหนุ่มเนื้อหอมอย่าง ฮาแลนด์ ไปครอง หรืออาจจะไม่มีอะไรในกอไผ่ ฮาแลนด์ ยังคงอยู่ที่เดิมพร้อมโชว์ผลงานสุดสะเด่า นี้จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจยิ่งนัก และเราในฐานะแฟนบอลคงต้องเวลาเท่านั้นที่จะเป็นตัวให้คำตอบ ต่อทุกข้อสงสัยที่มีอยู่ในตอนนี้

- เปา ขอบสนาม -

logoline