logo-heading

ภายหลังจากรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสมาคมผู้เล่นอาชีพ (พีเอฟเอ) ประจำซีซั่นนี้ ได้ออกมาแล้วเรียบร้อย โดยเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงทีมชาติอียิปต์ จาก ลิเวอร์พูล ที่กำลังนำโด่งเป็นดาวซัลโว เป็นผู้ได้ไปครอบครอง สามารถเอาชนะ เควิน เดอ บรอยน์ เจ้าของแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ซึ่งหากเจาะลึกไปกว่านั้น ไม่ว่าจะ ซาลาห์ และ เดอ บรอยน์ ต่างก็เป็นอดีตนักเตะของ เชลซี กันทั้ง 2 คน และประสบความล้มเหลวสมัยค้าแข้งในถิ่้นสแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่พอเก็บกระเป๋าออกจากกรุงลอนดอน จากชีวิตอันมืดมน ก็กลายเป็นสว่างสดใส และก้าวไปเป็นสตาร์ระดับโลก

รวมถึงนักเตะคนอื่นๆที่เคยมีประสบการณ์ไม่ดีนักสมัยอยู่ เชลซี พอออกจากทีมแล้ว ก็ดูดีขึ้น ไปดูกันว่านักเตะที่ชีวิตดีขึ้น มีใครกันบ้าง

5. โรเบิร์ต ฮูธ

5 แข้งดัง เชลซี ย้ายทีมแล้วได้ดี ปราการหลังชาวเยอรมัน ซึ่งเป็นลูกหม้อของ เชลซี และถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ในปี 2002 จริงๆแล้วเขามีดีกรีเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2 สมัย แต่ทว่าถูกจดจำในฐานะตัวสำรองซะมากกว่า เพราะเต็มที่ก็ลงสนามประมาณ 15 นัด จนกระทั่งย้ายออกจากทีมไปเมื่อซัมเมอร์ปี 2006 ชีวิตการค้าแข้งของเขา ก็ไม่ได้มีอะไรหวือหวา เพียงแต่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงมากกว่าเดิม ทั้ง มิดเดิ้ลส์โบรช์ และ สโต๊ค ซิตี้ โดยชีวิตของ ฮูธ เหมือนจะหายตายจากไปแล้ว หลังโดนดรอปเป็นสำรองช่วง 2 ปีหลังกับ “ช่างปั้นหม้อ” ในปี 2013-2014 จนกระทั่งไปอยู่ เลสเตอร์ ซิตี้ เขาได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเทพนิยายคว้าแชมป์ลีก กับ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” ด้วยการลงเล่นถึง 35 นัด ยิงไป 3 ประตู นับเป็นการคว้าแชมป์ที่ไม่ต้องง้อ “สิงห์บลูส์”

4. แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

5 แข้งดัง เชลซี ย้ายทีมแล้วได้ดี เชลซี ยอมปล่อย แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ มาให้กับ ลิเวอร์พูล ได้ในราคาถูกแสนถูก เพียงแค่ 12 ล้านปอนด์ เมื่อต้นปี 2013 เพราะนักเตะอยากเป็นตัวจริงและไม่สบอารมณ์เท่าไหร่กับการถูกจับไปยืนตำแหน่งปีก ในความไม่คาดหวัง ดาวยิงจอมเซิ้ง กลับทำให้สาวก “สิงห์บลูส์” เกิดเสียดายขึ้นมาในพริบตา เมื่อ สเตอร์ริดจ์ กลายมาเป็นดาวซัลโวที่เฉียบคมให้กับ “หงส์แดง” ทันที โดยจับคู่กับ หลุยส์ ซัวเรซ พร้อมฉายาสนั่นโลกว่า “SAS” ซึ่งซีซั่น 2013-14 เขากดไปถึง 21 ตุง มากที่สุดในชีวิตค้าแข้ง เฉียดพา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาครองเป็นสมัยแรก พร้อมสถาปนาตัวเอง เป็นตัวหลักของทีมชาติอังกฤษ ไปลุย ฟุตบอลโลก 2014 ประเทศบราซิล แต่ทว่าด้วยความโชคร้ายปัจจุบันเขาโดนโรคเดี้ยงตามเล่นงานอยู่ตลอด ลงสนามแค่ 3 นาทีก็เจ็บได้ และนับจนวันนี้ก็เรียกฟอร์มเดิมๆกลับมาไม่ได้เลย

3. โรเมลู ลูกากู

5 แข้งดัง เชลซี ย้ายทีมแล้วได้ดี โรเมลู ลูกากู คือนักเตะที่ เชลซี วางเอาไว้เพื่อเป็นตัวแทน ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ตำนานหัวหอกของทีม เพราะมีร่างกายกำยำบวกกับความคล่องแคล่วและการจบสกอร์อันเฉียบคม แต่ทว่าหัวหอกทีมชาติเบลเยี่ยม ไม่สามารถเอาชนะใจเฮดโค้ช “สิงห์บลูส์” ได้เลย โดยเฉพาะ โชเซ่ มูรินโญ่ ทั้งๆที่ขอออกไปพิสูจน์ฝีเท้ากับทั้ง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน และ เอฟเวอร์ตัน ด้วยการซัด 15 ประตูขึ้นไป ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สุดท้ายยอมถอดใจเลือกย้ายไปอยู่กับ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” แบบถาวร และกลายเป็นหัวหอกตัวหลักทันที เพียงแต่ทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ ไม่สามารถตอบโจทย์เรื่องการคว้าแชมป์ได้ จึงอพยพมาล่าตาข่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงแม้ฟอร์มจะไม่คงเส้นคงวาในช่วงกลางๆซีซั่น แต่ทว่าทุกวันนี้ผลงานประจักษ์อย่างที่เห็น ก็ซัดไปแล้ว 16 ลูก ใน พรีเมียร์ลีก พร้อมมีส่วนสำคัญช่วยพา "ปีศาจแดง" หลุดเข้าไปชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ อีกด้วย

2. เควิน เดอ บรอยน์

5 แข้งดัง เชลซี ย้ายทีมแล้วได้ดี หากมีเครื่อง “ไทม์ แมชชีน” ย้อนเวลากลับไปได้ เชื่อว่า เชลซี จะไม่มีทางยินยอมปล่อยตัว เควิน เดอ บรอยน์ ให้พ้นจากอ้อมอกตัวเองอย่างแน่นอน แต่ด้วยความที่ “เคดีบี” ยังขาดประสบการณ์ในลีกชั้นนำ และเป็นเพียงแค่ดาวรุ่ง ทำให้ “สิงห์บลูส์” ไม่สามารถตอบโจทย์นักเตะในการส่งลงสนาม สุดท้าย เดอ บรอยน์ ขอตัดสินใจย้ายออกไปอยู่กับ โวล์ฟสบวร์ก หลังเคยมีประสบการณ์ไปเล่นแบบยืมตัวให้กับ แวร์เดอร์ เบรเมน นับตั้งแต่นั้นเจ้าตัวเริ่มสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการพา “หมาป่าเบียร์” ต่อกรกับ บาเยิร์น มิวนิค พร้อมคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ด้วยความที่กำลังพีคสุดขีด เดอ บรอยน์ ได้มาเป็นสมาชิกใหม่ของ แมนฯ ซิตี้ พร้อมสถาปนาตัวเองเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ทีมฟอร์มร้อนแรงมากที่สุด มีทักษะการจ่ายบอลที่แม่นยำ นำโด่งเป็นเจ้าพ่อแอสซิสต์, ลูกยิงทรงพลัง ที่เพิ่งซัดใส่ สวอนซี ซิตี้ แถมเป็นตัวบัญชาเกมในแผงมิดฟิลด์ จึงไม่แปลกที่ เดอ บรอยน์ มีส่วนช่วยให้ "เรือใบสีฟ้า" ซิวดับเบิ้ลแชมป์ (คาราวบาว คัพ และ พรีเมียร์ลีก) ในซีซั่นนี้

1. โมฮาเหม็ด ซาลาห์

5 แข้งดัง เชลซี ย้ายทีมแล้วได้ดี เชลซี ได้แต่นั่งมองตาปริบๆ ทั้งๆที่พวกเขาสามารถปาดหน้า ลิเวอร์พูล เซ็นสัญญาคว้าตัว ซาลาห์ จาก เอฟซี บาเซิ่ล มาร่วมทีมได้ก่อนแล้วในฤดูกาล 2013-14 แต่ทว่าเส้นทางของนักเตะเลือด “มัมมี่” ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาได้ลงสนามให้กับ “สิงห์บลูส์” ในเกมลีก ไปเพียงแค่ 13 นัด ยิงได้ 2 ประตู ตลอด 2 ซีซั่น จึงขอเลือกเก็บข้าวของไปอยู่ที่ อิตาลี แบบยืมตัวกับ ฟิออเรนติน่า และ ปักหลัก อาแอส โรม่า จนสามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมา ทำให้ ลิเวอร์พูล ยอมทุ่มเงิน 39 ล้านปอนด์ เป็นสถิติสโมสรขณะนั้น และตำนานบทใหม่ก็เริ่มขึ้น เมื่อ ซาลาห์ โด่งดังเป็นพลุแตก กดไปแล้ว 31 ตุง นำโด่งเป็นดาวซัลโวของ พรีเมียร์ลีก และทาบสถิติเหล่าตำแข้ง พรีเมียร์ลีก เรียบร้อย ล่าสุดก็คว้ารางวัลแข้งยอดเยี่ยม พีเอฟเอ มาครอง โดยถ้าหากต้องการจบซีซั่นนี้แบบสวยๆ ถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ยังมีโอกาสสำหรับเขาอยู่
logoline