logo-heading

เป็นเกมที่สาวก ลิเวอร์พูล กู่ก้องไปทั่วปฐพี เมื่อพวกเขาบุกไปไล่ยำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่อริตลอดกาล ถึงถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยสกอร์มากถึง 4-2 เพิ่มความหวังในการคว้าโควต้าไปลุย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า ได้มากขึ้นหลายขุม

จริงๆนัดนี้ ช่วงต้นเกมเป็นอะไรที่สาวก หงส์แดง ไม่อยากพบเจอ เนื่องจากโดนนำเร็วแต่หัววัน อย่างไรก็ตามลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ โดยเฉพาะเกมรุก ทำได้อย่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน อีกทั้งเกมเพรสซิ่งก็สร้างปัญหาให้กับสาวก แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ไม่น้อย

สิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญทำให้ ลิเวอร์พูล คว้าชัยชนะมีหลายอย่าง แต่ก็มีจุดอ่อนที่เผยออกมาให้คู่แข่งได้เห็นอีกครั้ง จากมุมมองของแฟนบอล หงส์แดง ในเกม แดงเดือด หนนี้ มีอะไรที่มันสำคัญบ้าง ไปติดตามกันครับ

- แนวรับ ลิเวอร์พูล มีปัญหาต้นเกม

จะเห็นเลยว่าช่วงต้นเกม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา สั่งให้นักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด เพรสซิ่งใส่ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่แดนหน้า สร้างปัญหาให้กับลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ แบบไปไม่เป็นเหมือนกัน เรียกว่าต้องเซ็ตบอลจ่ายคืนหลังหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่ง อลิสซอน เบ็คเกอร์ เกือบจะสร้างงานให้ทีมตกเป็นฝ่ายตามหลังด้วยซ้ำ เมื่อ อลิสซอน จ่ายบอลพลาด เหมือนไปตั้งให้กับ เอดินสัน คาวานี่ ในกรอบเขตโทษตัวเอง ต้องบอกว่าโชคดีสุดๆที่จังหวะนี้ คาวานี่ ยิงหักข้อมากเกินไป ทำให้ลูกหลุดกรอบออกหลังไปเอง ถ้าพิถีพิถันมากกว่านี้ บอกเลยว่าควรจะต้องใส่สกอร์ขึ้นนำ อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ ลิเวอร์พูล เป็นรองช่วงต้นเกม ทำให้แนวรับดูจะยังไม่เข้าที่ และ ก็สร้างช่องโหว่ให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้มีโอกาสบุกเข้าทำ โดยเฉพาะการปล่อยให้ บรูโน่ แฟร์นันเดส มีพื้นที่ มีเวลาแต่งบอลในกรอบเขตโทษ เพียงแค่นั้นก็ทำให้ หงส์แดง เสียประตูทันที โดยเป็นช็อตที่ อาร่อน วาน-บิสซาก้า เติมมาสุดเส้นหลัง แบบไม่มีตัวตามประกบ ทำให้เขาสามารถไหลย้อนกลับมาให้กับ บรูโน่ ซึ่ง ฟาบินโญ่ ก็เสียสมาธิไปนิดเดียว จน บรูโน่ พลิกตัวมีช่องลองปั่นไซร้ก้อย วิถีบอลน่าจะเสียบเสา ถึงแม้ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ จะพยายามสกัดทิ้ง แต่กลายเป็นแฉลบเข้าประตูตัวเองไปเลย นับเป็นการออกสตาร์ทเกมที่แฟนบอล ลิเวอร์พูล ไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะโดนตั้งแต่ 10 นาทีแรก ยิ่งการบุกมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไม่เคยเป็นเรื่องง่ายสำหรับ หงส์แดง เลยสักนิด

- ลูกเซ็ตพีซทีเด็ด

ในช่วงที่ ลิเวอร์พูล กำลังระส่ำระส่าย จากการตกเป็นฝ่ายตามหลัง อีกทั้งกองกลางก็จะดูเก็บบอลไม่ได้เลย สาวก เดอะ ค็อป ทางโลกโซเชี่ยล ก็เริ่มจะหวั่นใจ กลัวว่าจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่หลังจากผ่านมาครึ่งชั่วโมงของเกม เป็นทาง หงส์แดง ที่เริ่มหาช่องเล่นงานใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เสียที มีจังหวะที่ ลิเวอร์พูล เกือบจะได้จุดโทษ เมื่อผู้ตัดสินเป่าให้จากช็อตที่ เอริค ไบยี่ เหมือนเปิดปุ่มเข้ามาใส่ แนท ฟิลลิปส์ แต่สุดท้ายกลายเป็นแค่ "ข่าวลือ" เพราะ แอนโธนี่ เทย์เลอร์ กรรมการชี้ขาด ขอวิ่งไปดูจอ VAR ข้างสนาม ปรากฏว่า ไบยี่ เตะโดนบอลก่อน ทำให้ช็อตนี้ หงส์แดง ไม่ได้จุดโทษ และ พลาดโอกาสตีเสมอ อย่างไรก็ตาม ให้หลังแค่จุดโทษทิพย์แค่ไม่กี่นาที ลิเวอร์พูล มาได้ลูกเตะมุม จากจังหวะ ดิโอโก้ โชต้า ยิงกะเสียบใต้คาน แต่โดน ดีน เฮนเดอร์สัน ปิดทิ้งไว้ได้ โดยคอร์เนอร์ลูกดังกล่าว แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดเข้ามา บอลคลุกคลิกในกรอบเขตโทษ เป็น แนท ฟิลลิปส์ เก็บบอลได้ และ เลี้ยงหาช่องว่าง ก่อนจะตวัดยิง แต่เป็น โชต้า ไขว้สกิดเปลี่ยนทาง เป็นประตูตีเสมอ 1-1 ให้กับ หงส์แดง เท่านั้นยังไม่พอ ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกเพียงแค่ไม่กี่นาที ลิเวอร์พูล มาได้ลูกฟรีคิกทางด้านขวา เทรนท์ อาร์โนลด์ บรรจงปั่นไปที่เสาไกลให้กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ สลัดหนีตัวประกบอย่าง ปอล ป็อกบา โหม่งเสียบเสาเข้าไปอย่างเฉียบขาด ให้ ลิเวอร์พูล พลิกแซงนำ 2-1 ซึ่งทั้ง 2 ประตูที่ทำได้ ก็เริ่มต้นมาจากลูกเซ็ตพีซล้วนๆ ซึ่งช่วงหลัง หงส์แดง ไม่ได้ทำให้เห็นบ่อยมากนัก

- ฟีร์มิโน่ มาได้ถูกวัน

ในบรรดา 3 ประสานกองหน้า ลิเวอร์พูล .. ฟีร์มิโน่ เป็นคนเดียวที่ยังเจาะไข่แดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้เลย เพราะก่อนหน้า แดงเดือด หนนี้ เขามีโอกาสลงเล่นเจอกับ เร้ด เดวิลส์ ไปถึง 10 เกม แต่ไม่สามารถส่งบอลใส่ชื่ออยู่บนสกอร์บอร์ดได้เลย ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ฟีร์มิโน่ ไม่ยิงประตูในเกมลีกมานานถึง 12 นัด ครั้งสุดท้ายที่ซัดให้ หงส์แดง คือเกมบุกเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3-1 เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2021 ซึ่งผ่านเวลามามากกว่า 3 เดือน แน่นอนว่า แดงเดือด ครั้งนี้ สาวก เดอะ ค็อป ไม่ได้คาดหวัง ฟีร์มิร์โน่ จะทำประตูได้ในเกมนี้ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ในความไม่คาดหวัง ฟีร์มิโน่ กลายเป็นพระเอกขี่ม้าขาว เป็นฮีโร่ของมวลมหาประชาชนของเหล่า หงส์แดง เพราะหลังจากตีนบอดมานาน เขาก็มาเปิดซิงเกม แดงเดือด อีกทั้งยิงถึง 2 ลูก ให้กับ ลิเวอร์พูล ได้แบบถูกที่ถูกเวลา ทั้งโหม่งขึ้นนำ 2-1 และ จังหวะตามมายิงซ้ำให้ ลิเวอร์พูล หนีห่าง 3-1 ไม่ว่า ฟีร์มิโน่ จะฟอร์มฝืดมานานขนาดไหน แต่เชื่อเถอะว่าแฟนบอลจะลืมไปจนสนิทใจ เพราะ 2 ประตู ในเกม แดงเดือด หนนี้ มันช่างสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะเป็นการตบคาบ้านใส่ทีมคู่อริอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แล้วนั้น ยังต่อยอดโอกาสการไป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อีกด้วย

- เกมรับยังเป็นปัญหาของ หงส์แดง

ถึงแม้ฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด จะพร่ำเพ้อ พรรณนา ว่าขาด แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เหมือนขาดใจในแนวรับ แต่ต้องไม่ลืมว่า หงส์แดง ไม่มีตัวหลักอย่าง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ มานาน 6-7 เดือน ยังไม่รวมพวก โจเอล มาติป หรือ โจ โกเมซ ดังนั้นต้องใช้ตามมีตามเกิด ด้วยการดัน แนท ฟิลลิปส์ มายืนจับคู่ รีส วิลเลี่ยมส์ จริงอยู่ที่ แนท ฟิลลิปส์ โชว์ฟอร์มได้อย่างเข้าตา แต่กระนั้นแผงรับ ลิเวอร์พูล ยังเป็นปัญหาใหญ่ที่พร้อมจะเสียประตูตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงที่พวกเขากดใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ฝ่ายเดียวจนโงหัวไม่ขึ้น และ ควรได้ลูก 4 ยิงตอกฝาโรง จาก โชต้า ไปตั้งนานแล้ว แต่มันดันไปชนเสา ทำให้ความหวังของ ปีศาจแดง ยังคงมี และ เพียงแค่โอกาสครั้งแรกที่ แมนฯ ยูไนเต็ด สร้างขึ้น แนวรับ ลิเวอร์พูล ก็เปิดช่องโหว่ เชิญชวนให้คู่แข่งได้ลิ้มลองทันที โดยเป็นจังหวะสวนกลับ หลังบ้านของ หงส์แดง โล่งมาก ทำให้นักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้จ่ายบอลตามช่อง เอดินสัน คาวานี่ แอสซิสต์มาให้กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด วิ่งตัดหลังทั้ง รีส วิลเลี่ยมส์ และ แนท ฟิลลิปส์ ก่อนจะเลือกยิงแบบฉลาด หนีมือ อลิสซอน และ โรเบิร์ตสัน ที่วิ่งตามมาสไลด์ดัก เรียกว่า ลิเวอร์พูล ปล่อยให้คู่แข่งได้ทำประตู กับโอกาสที่มีเพียงแค่ไม่กี่ครั้งอีกแล้ว ซึ่งมันเป็นเคสเหมือนตอนเจอกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ไม่มีผิด ทำให้จากจะนำ 4-1 กลายมาเป็นถูกไล่มา 3-2 เวลาเหลืออีกราวๆ 20 นาที จากควรจะนั่งดูบอลแบบสบายใจ แนวรับก็สร้างงานให้อีกแล้ว ซึ่งพวกเขาก็เกือบถูกตีเสมอ 3-3 ด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าลูกยิงของ เมสัน กรีนวู้ด ถูกทาง แนท ฟิลลิปส์ สกัดจากเส้น

- บอลเพรสซิ่ง ลิเวอร์พูล ผลิดอกออกผล

สารภาพตามตรงว่าแอบไปส่องคอมเมนท์สาวก ผีแดง มาเหมือนกัน หลังจบเกมที่พ่ายคาบ้านให้กับ ลิเวอร์พูล ซึ่งประเด็นหลักๆที่พูดถึงกันก็คือการจ่ายผิดพลาดกันเองของนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่กระนั้นเครดิตตรงนี้ก็ไม่ควรลืมให้กับผู้เล่น หงส์แดง ไปด้วย เพราะจะเห็นได้เลยว่าเกมเพรสซิ่งวันนี้ ลิเวอร์พูล ทำได้ดีกว่าจริงๆ ไม่ใช่ว่าเกมเพรสซิ่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ดีนะครับ แต่นักเตะ หงส์แดง สามารถแกะเพรสซิ่งออกมาได้บ่อยๆ แต่พอเป็นฝ่าย ปีศาจแดง ที่โดนไล่กดดัน ตั้งแต่แดนหน้า กลับทำผิดพลาดเสียเอง โดยเฉพาะประตูนำ 3-1 ที่ ลิเวอร์พูล ทำได้ตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง เมื่อพวกเขารู้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องเซ็ตบอลบนพื้นจากกรอบเขตโทษตัวเอง ไม่ยอมโยนยาวมั่วซั่ว บีบจน เฟร็ด จ่ายผิดพลาด ถึงแม้จังหวะนั้นจะทำอะไรไม่ได้ จนบอลไปเข้าทาง ลุค ชอว์ แต่ก็โดนนักเตะ หงส์แดง บีบพื้นที่ จนจ่ายให้เพื่อนไมไ่ด้ เสียบอลอีกครั้ง และ คราวนี้ ลิเวอร์พูล ก็ลงโทษสำเร็จ เมื่อ เทรนท์ อาร์โนลด์ ยิงไปติด ดีน เฮนเดอร์สัน รับกระชอก และ เป็น ฟีร์มิโน่ ที่วิ่งเข้ามาซ้ำ ซึ่งไม่ใช่แค่ช็อตนี้นะครับ เพราะประตูตอกฝาโรง 4-2 ก็เป็น ลิเวอร์พูล ที่ไปวิ่งไล่แย่งบอลมาจาก เนมานย่า มาติช และ ใช้เกมโต้กลับสวนตูมเดียวหาย จากการหลุดเดี่ยวของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โดยถึงแม้ว่าเกมรับ หงส์แดง ยังเป็นปัญหา แต่เกมเพรสซิ่ง ก็ถือว่าช่วยไว้ได้เยอะ ทำให้เกมนี้ ลิเวอร์พูล บุกไปปราบเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 เก็บ 3 แต้ม ต่อยอดลุ้นพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อไป

ฮาย ฮาวดี้

logoline