ย้อนรอยอดีต ! วันที่ คาริม เบนเซม่า โดนกีดกัน...สู่การคัมแบ็กในฐานะตัวความหวังของ ฝรั่งเศส

ในที่สุดห้องปิดตายของ คาริม เบนเซม่า กับ ทีมชาติฝรั่งเศส ก็พังทลายลงแล้ว เมื่อพี่แกมีชื่อเป็นหนึ่งใน 26 ขุนพลชุดที่จะตะลุยล่าแชมป์ ยูโร 2020

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าทำไม คาริม เบนเซม่า ถึงห่างหายจากการรับใช้ทัพ "เลส์ เบลอส์" ไปนานขนาดนั้น วันนี้ทาง "ขอบสนาม" จะพาทุกท่านไปย้อนรอยอดีตกันหน่อย ไปดูกันสิว่ามันมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้างตั้งแต่ต้นยันจบบนเส้นทางของผู้ชายที่ชื่อ คาริม เบนเซม่า กับ ทีมชาติฝรั่งเศส

คดี เซ็กซ์-เทป 

จุดเกิดเหตุที่ทำให้ คาริม เบนเซม่า หลุดโผจากการรับใช้ ทีมชาติฝรั่งเศส มาจนถึงทุกวันนี้เริ่มขึ้นจาก "คดีเซ็กซ์เทป" ที่เกี่ยวข้องกับอดีตเพื่อนซี้อย่าง มาติเยอ วัลบูเอน่า โดยเรื่องราวมันเกิดขึ้นช่วงปี 2015 ซึ่งเป็นช่วงที่ มาติเยอ วัลบูเอน่า อยู่ในจุดที่พีคมากๆ ของอาชีพ ได้กลับมาเป็นกำลังสำคัญของ โอลิมปิก ลียง ตลอดจนกับทัพ "ตราไก่" ก็ได้โอกาสอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าชีวิตกำลังไปได้สวยทำอะไรก็ดีไปหมดเลยจริงๆ อย่างไรก็ตามสิ่งที่เป็นความลับระหว่างคนสองคน แต่สุดท้ายกลับไม่เป็นความลับได้อีกต่อไปได้ตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่ประสงค์ดี มันคือคลิปวิดีโอที่ มาติเยอ วัลบูเอน่า ถ่ายเก็บไว้ในขณะที่บรรเลงเพลงรักกับแฟนสาว พอเรื่องนี้ถึงหูเจ้าหน้าที่ตำรวจจนเริ่มมีการสืบสวนหาคนตัวคนร้ายและคนที่อยู่เบื้องหลัง ไปๆ มาๆ การสาวไส้หาตัวคนผิดมันดันมีชื่อของ คาริม เบนเซม่า มาเกี่ยวโยงด้วยซะงั้น คาริม เบนเซม่า โดนเจ้าหน้าที่เชิญตัวมาให้ปากคำ และสิ่งที่หลุดออกมาจากปากเขาก็คือ เขารู้ว่าไอ้ "เซ็กซ์ เทป" ลับนี้ มันถูกปล่อยโดย คาริม เซนาติ ซึ่งเป็นเพื่อนของเจ้าตัวด้วยเหมือนกัน แถมยังยุให้ มาติเยอ วัลบูเอน่า ยอมๆ จ่ายเงินไปเถอะ เรื่องจะได้จบๆ นั่นเลยทำให้ตัวของ วัลบูเอน่า ไม่พอใจสุดๆ ที่ เบนเซม่า มีเอี่ยวกับเรื่องนี้และไม่ยอมช่วยเหลือกันทั้งที่้เป็นเพื่อนซี้กันมานาน ต่อมาไม่นาน คาริม ซี หรือ คาริม เซนาติ ถูกจับจากคดียาเสพติด ก่อนที่จะเจอหลักฐานเป็นรองเท้าสตั๊ดพร้อมลายเซ็นของ เบนเซม่า นั่นยิ่งทำให้หลายๆ ฝ่ายตราหน้าเขาว่าเป็นไอ้คนเลวที่หักหลังเพื่อนร่วมชาติและคบหากับคนไม่ดี และไม่ว่า คาริม เบนเซม่า จะออกมาแก้ตัวยังไงก็ไม่มีใครเชื่อ และนั่นก็ส่งผลให้ คาริม เบนเซม่า ไม่มีส่วนร่วมกับ ทีมชาติฝรั่งเศส ใน ยูโร 2016 ส่วน มาติเยอ วัลบูเอน่า กับ เบนเซม่า จากที่เคยเป็นเพื่อนกัน จนถึงตอนนี้มันไม่มีคำว่ามิตรภาพระหว่างกันอีกต่อไปแล้ว

ลามปาม ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องก์

จริงอยู่ที่คดีดังกล่าวมันร้ายแรงจนกลายเป็นประเด็นใหญ่โตบนโลกลูกหนัง และก็สร้างความสะเทือนใจให้กับหลายๆ ฝ่าย เพราะสถานะของ คาริม เบนเซม่า เองก็ดูไม่ได้ต่างอะไรจากการเป็นผู้ร้ายเลย แต่ถ้าหากพูดถึงการกลับมามีบทบาทและได้โอกาสรับใช้ทัพ "เลส์ เบลอส์" อีกสักครั้ง บางทีถ้าเกิดพี่แกทำตัวดีๆ อยู่นิ่งๆ ไม่ไประรานใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็น ผู้จัดการทีมชาติฝรั่งเศส อย่าง  ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องก์ เชื่อได้เลยว่าโอกาสนั้นมันอาจจะกลับมาเร็วกว่านี้ "ที่ เดส์ช็องก์ ไม่เรียกเรียกผมกลับไปรับใช้ชาติก็เป็นเพราะผมมีเชื้อสายแอลจีเรีย" นี่คือคำพูดที่ออกมาจากปากของ คาริม เบนเซม่า เล่นทำเอา ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องก์ โมโหปรี๊ดแตกแบบสุดขีดเลยถึงขั้นเปิดปากเองเลยว่าเจ้าตัวนั้นจะไม่มีวันให้อภัยกับการกระทำของ คาริม เบนเซม่า เด็ดขาด เพราะนั่นเป็นการกล่าวหาว่าเขานั้นเป็นพวกเหยียดเชื้อชาติ "บางครั้งคนเราก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาจากการพูดอะไรออกมาโดยไม่คิดแบบนั้น ผมไม่มีวันลืมมันแน่นอน สำหรับตอนนี้ผมบอกได้แค่ว่าเขาล้ำเส้นผมก่อนเองนะ เวลาผมเลือกผู้เล่นมาติดทีม ทุกคนที่เลือกก็เป็นฝรั่งเศสทั้งหมด ผมไม่เคยคิดว่าจะเลือกใครและไม่เลือกใครเพียงเพราะสีผิวหรือศาสนาของเขาหรอกนะ และในทางกลับกันผมคงไม่เลือกใครด้วยบรรทัดฐานเดียวหรอก นั่นมันยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่จริงไหมล่ะ ?" 

สมาคมฟุตบอลฝรั่งเศส

เมื่อมีปัญหากับเพื่อนร่วมชาติไปแล้ว ผู้จัดการทีมชาติก็แล้ว มันยังไม่หยุดแค่นั้นเพราะในช่วงเวลาที่ไม่ห่างกันมากนัก คาริม เบนเซม่า ก็ได้ออกมาพาลใส่ โนแอล เลอ กราต ประธานสมาคมฟุตบอลฝรั่งเศสด้วย  ย้อนเวลากลับไปตอน เบนเซม่า โดนสั่งแบนไม่ให้มีส่วนร่วมกับทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2016 จากคดี "เซ็กซ์ เทป" จากนั้นราวๆ 2 ปี ทางประมุขลูกหนังแดนน้ำหอมก็ออกมาเปรยๆ ว่า คาริม เบนเซม่า ยังคงมีหวังในการกลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง โดยได้พูดไว้ว่า "เขายังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือก เขาไม่ได้โดนแบนอย่างที่ใครคิดกัน ถ้า ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องก์ ต้องการ ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกับ เบนเซม่า ถ้าเขายังทำผลงานได้ดีต่อไป วันหนึ่งเขาจะกลับมา" แน่นอนว่าผลงานกลับ เรอัล มาดริด คาริม เบนเซม่า ก็พิสูจน์ตัวเองมาตลอดว่าเขานั้นคู่ควรอย่างยิ่งกับการเป็นหนึ่งในขุมกำลังสำคัญของชาติ แต่ไปๆ มาๆ สุดท้ายพอเวลาผ่านมาถึงช่วงปี 2019 โนแอล เลอ กราต ก็เหมือนจะกลับลำ และออกมาแถลงว่า "คาริม เบนเซม่า คงไม่ได้โอกาสกลับมารับใช้ ทีมชาติฝรั่งเศส แล้ว"  นั่นทำให้ เบนเซม่า ฉุนจัดจนต้องรีบปรี่ตัวออกมาตอกกลับใส่โดยไวว่า "โนแอล ผมหวังว่าคุณจะไม่ได้แทรกแซงอะไรกับตัดสินใจของโค้ชทีมชาตินะ! จงรู้ไว้ซะว่ามันมีแค่ผมและผมเท่านั้นที่จะบอกได้ว่าเส้นทางกับทีมชาตินั้นจบลงตอนไหน ถ้าคุณคิดว่าผมจบเห่แล้วก็ลองปล่อยให้ผมไปเล่นให้ประเทศอื่นที่ผมมีสิทธิ์ไหมล่ะ ? และเดี๋ยวคอยดูกันว่ามันจะเป็นยังไง !?"

โกคาร์ท vs ฟอร์มูล่า วัน

การห่างหายไปของ คาริม เบนเซม่า ยิ่งนานวันเข้าก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเวลาโดนสื่อตั้งคำถามต่างๆ นาๆ ที่เกี่ยวข้องกับแคมป์ ทีมชาติฝรั่งเศส ย้อนเวลากลับไปตอนปี 2020 ก็มีสื่อไปถามคำถามเชิงเปรียบเทียบระหว่างตัวของเขากับ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และแน่นอนว่า คาริม เบนเซม่า ก็พาลใส่ไปตามระเบียบ "คุณห้ามสับสนนะ ระหว่างรถแข่ง ฟอร์มูล่า วัน กับ รถ โกคาร์ท นี่ผมตอบแบบสุภาพสุดๆ แล้วนะ ผมรู้ตัวผมเองดีว่าผมคือ รถสูตรหนึ่ง เขามีสไตล์การเล่นของตัวเอง เขาทำสิ่งที่เขาอยากทำ เขาทำประตูได้ตามแบบที่เขาต้องการ เขาอยู่ในแนวทางของตัวเอง" "ส่วนผมก็อยู่ในแนวทางของผม สไตล์ของเขาก็ดูเหมาะดีกับ ฝรั่งเศส ที่เขาได้ดิบได้ดีกับทีมชาติ ก็เพราะมันมีนักเตะอย่าง คิเลียน เอ็มบัปเป้ และ อ็องตวน กรีซมันน์ ที่มีความเร็วสูง และเล่นตามช่องต่างๆ ได้ดีโดยอาศัยกองหน้าตัวเป้าเป็นศูนย์กลางในการช่วยยืนค้ำ และคอยดูดกองหลังไม่ให้ไปไหนได้ มันทำให้อีก 2 คนเคลื่อนที่และแสดงศักยภาพออกมาได้เป็นอย่างดี" "เขาคอยบล็อคแนวรับคู่แข่ง และมันก็ได้ผล เขาจะไม่ทำเรื่องที่มันหวือหวาหรือชวนตื่นเต้น เขาทำได้ดีในแบบฉบับของตัวเอง แต่คำถามคือทุกคนชอบเล่นแบบที่เขาทำรึเปล่าล่ะ ? ผมเองก็ไม่รู้คำตอบหรอกนะ แต่มันก็ได้ผลดีกับ ฝรั่งเศส"

การคัมแบ็ก - ยูโร 2020

การมีปัญหากับคนโน้นคนนี้ไปทั่วก็เหมือนจะยิ่งเป็นการทำให้ตัวของ คาริม เบนเซม่า ยิ่งอยู่ห่างไกลจากการกลับไปรับใช้ชาติมากขึ้นเรื่อยๆ แต่บางทีมันก็ไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป เพราะถึงยังไงมันก็มีแฟนบอลรวมถึงบุคคลชื่อดังของวงการอีกมากมายที่พยายามเรียกร้องให้ ฝรั่งเศส กลับใจและเรียก คาริม เบนเซม่า กลับมารับใช้ชาติอยู่ตลอด ในช่วงที่หลายๆ ชาติเริ่มทยอยประกาศรายชื่อผู้เล่นชุดที่จะไปทำศึก ยูโร 2020 ในช่วงซัมเมอร์นี้ จู่ๆ สื่อชื่อดังหลายสำนักไม่ว่าจะเป็น เลกิ๊ป, เลอ ปาริเซียง หรือแม้กระทั่ง มาร์ก้า ต่างก็รายงานไปในทิศทางเดียวกันว่า ทีมชาติฝรั่งเศส เตรียมเรียก คาริม เบนเซม่า กลับมารับใช้ชาติเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการล่าแชมป์ ยูโร 2020  ว่ากันว่าตัวของ ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องก์ เริ่มคิดเรื่องการดึง คาริม เบนเซม่า กลับมารับใช้ชาติมาสักพักหนึ่งแล้ว ด้วยหลายๆ ปัจจัย อันดับแรกเลยก็คือ ผลงานและฟอร์มการเล่น เพราะตั้งแต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จากไป ดูเหมือนตัวของ คาริม เบนเซม่า จะยกระดับตัวเองไปอีกขั้น การซัลโวไปถึง 29 ประตูในซีซั่นนี้ในวัย 33 ปีเท่ากับว่าพี่แกยังสามารถเป็นตัวความหวังให้ เรอัล มาดริด ได้ และมันก็ไม่ใช่แปลกที่เขาจะได้รับการยกย่องว่าเป็น ผู้เล่นชาวเฟร้นช์แมนที่ดีที่สุดที่ค้าแข้งนอกถิ่นฐานบ้านเกิด ส่วนอีก 1 ปัจจัยก็คือการได้โควต้าเพิ่มจาก 23 เป็น 26 คน ว่ากันว่าตัวของ ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องก์ ไม่อยากตัดผู้เล่นคนใดคนหนึ่งไปจากชุดที่ได้รองแชมป์ ยูโร 2016 และได้ แชมป์โลกปี 2018 มันก็เลยทำให้เขาเริ่มคิดถึงเรื่องการกลับมาของ คาริม เบนเซม่า สุดท้ายเมื่อมีการประกาศรายชื่อออกมาอย่างเป็นทางการผลปรากฏว่าข่าวที่ถูกตีมาทั้งหมดนั้นคือเรื่องจริง คาริม เบนเซม่า ได้กลับมารับใช้ ทีมชาติฝรั่งเศส อีกครั้งนับตั้งแต่ปี 2016 ส่วนเรื่องปัญหาคาใจต่างๆ กับคนโน้นคนนี้ไม่ว่าจะเป็น ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องก์, สมาคมฟุตบอลฝรั่งเศส หรือคนอื่นๆ น่าจะได้บทสรุปและคำตอบทุกอย่างในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ แต่ที่รู้คือตอนนี้ทัพ “เลส์ เบลอส์” จะกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวและอันตรายยิ่งขึ้นไปอีกสำหรับทุกๆ ทีมในทัวร์นาเมนต์ ศึกชิงแชมป์เจ้าแห่งยุโรป หรือ ยูโร 2020 หนนี้

HaMu Dos Santos