logo-heading

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดปิดฤดูกาล 2020-21 มันสนุกตื่นเต้นและเร้าใจเหลือเกิน โดยเฉพาะโควต้าลุ้นไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า เพราะเหลือที่ว่างแค่ 2 ใบ แต่มีทีมแย่งชิงกันถึง 3 สโมสร ประกอบด้วย เชลซี, ลิเวอร์พูล และ เลสเตอร์ ซิตี้ 

ตลอดการแข่งขัน แฟนบอลนั่งลุ้นกันจนปัสสาวะเหนียว เรียกว่าลุ้นกันแบบนาทีต่อนาที และ มันมีเหตุการณ์ดราม่าซ้ำซ้อน เดี๋ยวพลิกไป เดี๋ยวพลิกมา ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลมันน่าตื่นเต้นขนาดไหน ไปติดตามไทมไลน์การลุ้นโควต้า ยูซีแอล ของทั้ง 3 ทีม ในนัดปิดซีซั่นกันเลย

- เลสเตอร์ ยิงนำแต่หัววัน กดดันทั้ง หงส์แดง-สิงห์บลูส์

ในขณะที่ ลิเวอร์พูล กับ เชลซี ต่างต้องการประตูแรกให้เร็วที่สุด เพราะขอเพียงแค่เก็บ 3 แต้ม ก็จะรักษาโควต้าไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อย่างแน่นอน แต่กลับกลายเป็นว่าทีมที่ขึ้นนำได้ก่อน คือ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อ เจมี่ วาร์ดี้ ซัดจุดโทษให้กับ จิ้งจอกสีน้ำเงิน ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 18 เรียกว่าการขึ้นนำของ เลสเตอร์ ซิตี้ สะเทือนไปถึง ลิเวอร์พูล กับ เชลซี ทันที เพราะโยนความกดดัน เหมือนเป็นไฟต์บังคับให้ทั้ง 2 ทีม ต้องยิงประตูนำคู่แข่งให้ได้ โดยอันดับแบบเรียลไทม์ ณ ตอนนั้น จะเป็น หงส์แดง ที่ต้องร่วงไปเล่น ยูโรปา ลีก แทน เลสเตอร์ นาทีต่อนาที 3 ทีม พรีเมียร์ แย่งโควต้า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 2 ใบ

- มาเน่ ยิงให้ หงส์แดง สะเทือนไปถึง เชลซี

หลังจากที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำ เชื่อว่าแฟนบอล ลิเวอร์พูล กับ เชลซี นั่งกันแบบก้นแทบไม่ติดพื้น ลุ้นว่าเมื่อไหร่ทีมรักจะยิงประตูได้สักที โดยฝั่ง หงส์แดง ก็พับสนามบุกใส่ คริสตัล พาเลซ อยู่ฝั่งเดียว แต่ยังทำไม่ได้ แค่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาเท่านั้น  อย่างไรก็ตาม พอถึงนาที 36 สาวก เดอะ ค็อป เฮกันลั่นบ้าน เมื่อ ลิเวอร์พูล ได้ลูกเตะมุม แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดเข้ามาตรงกลาง บอลมันเลยมาตกถึงเท้า โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ จริงๆเหมือนจะจับบอลลั่นไปแล้ว แต่กลายเป็นดี เพราะไหลไปเข้าทาง ซาดิโอ มาเน่ สไลด์ตัวล้มกวาดบอลเข้าประตูไป ทำให้ หงส์แดง ขึ้นนำ 1-0 ทำให้สถานการณ์ของพวกเขาได้ปรียบทันที ซึ่งถ้าจบแบบนี้ จะคว้าโควต้าไปลุย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยไม่ต้องไปดูผลสกอร์คู่ไหน และ กลับกลายเป็นว่า เชลซี ต้องรู้สึกร้อนๆหนาวๆแทนแล้ว เพราะว่าทั้ง เลสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ต่างขึ้นนำคู่แข่งได้สำเร็จ แต่พวกเขายังยิงไม่ได้ หากเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ สิงห์บลูส์ จะร่วงมาจบอันดับ 5

- เลสเตอร์ ซึม สเปอร์ส ตีเสมอ

เลสเตอร์ ถือว่าเป็นทีมที่ต้องเจอคู่แข่งหนักสุดแล้ว หากเทียบกับ เชลซี และ ลิเวอร์พูล ซึ่งการขึ้นนำเร็ว ก็คงทำให้พวกเขามีขวัญกำลังใจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แบบที่เกริ่นเอาไว้คู่แข่งของ "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" คือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งก็ลุ้นโควต้าไปเวทียุโรปเช่นกัน อย่างน้อยอันดับ 7 ก็ยังมีผล กระทั่งถึงช่วง 5 นาทีสุดท้ายก่อนจบครึ่งแรก "ไก่เดือยทอง" มาซัดตีเสมอใส่ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้สำเร็จ จาก แฮร์รี่ เคน โดยประตูนี้ทำให้ ลิเวอร์พูล สดใสกว่าใครเพื่อนในการคว้าตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ขณะที่ เชลซี ก็กลับมาได้เปรียบอีกครั้ง เพราะคะแนนแบบเรียลไทม์ สิงห์บลูส์ กลับไปอยู่ตำแหน่งท็อปโฟร์

- เชลซี ช็อค วิลล่า ขึ้นนำ

เชื่อว่าตอนนั้นแฟนบอล เชลซี คงทราบผลการแข่งขันอีก 2 ทีมเป็นอย่างดี แต่อาการร้อนอกร้อนใจคงถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ต่อให้ สิงห์บลูส์ จะยังมีโควต้าแก้ตัว หากคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองได้ ทว่าการเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แฟนบอลก็คงรู้สึกหวั่นใจแน่นอน เพราะวัดกันแบบปอนด์ต่อปอนด์ พวกเขาดูเป็นรองมากกว่า ฉะนั้นการจบท็อปโฟร์ให้ได้ก่อน คือสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่เหมือนสคริปท์เรื่องนี้มันกำหนดไว้แล้ว ต่อให้ เลสเตอร์ ซิตี้ จะโดนตีเสมอ กระนั้นแฟนบอล เชลซี ต้องช็อคตาตั้ง กุมหน้าด้วยความผิดหวัง เพราะพวกเขาโดนลูกสูตรจากลูกเตะมุมของ แอสตัน วิลล่า และ เป็น เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ วิ่งซัดแป้กๆ แต่บอลเป็นดี กระเด้งเสียบคานให้ วิลล่า ขึ้นนำ 1-0 นาที 43  โมเมนท์ตอนนั้น แฟนบอล เชลซี คงหวิวๆไปทั้งหัวใจ และ เต็มไปด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วน เพราะเป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่งไม่พอ ต้องมาเห็นทั้ง เลสเตอร์ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล กำลังมีสกอร์ที่ดีกว่า ตอนนั้นคะแนนเท่ากับ เลสเตอร์ เป๊ะๆ แค่ สิงห์บลูส์ มีลูกได้-เสีย มากกว่าแค่ 3 ลูก เท่านั้น ถ้าเกิดว่า เลสเตอร์ พลิกกลับมาแซงได้ งานจะเข้า เชลซี ทันที นาทีต่อนาที 3 ทีม พรีเมียร์ แย่งโควต้า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 2 ใบ

- เลสเตอร์ พลิกนำ เชลซี ร่วงไปอันดับ 5

สถานการณ์ที่สาวก เชลซี ไม่อยากให้เกิดมากที่สุด ก็เกิดขึ้นจริงๆครับ เมื่อ เลสเตอร์ ซิตี้ สามารถกลับมาพลิกนำ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้อีกครั้ง โดยเป็นความเก๋าของ เจมี่ วาร์ดี้ ที่วิ่งแซง ดาวิซอน ซานเชซ แนวรับ สเปอร์ส ก่อนจะเรียกจุดโทษให้กับทีมได้อีกครั้ง จากนั้น วาร์ดี้ ก็ลุกขึ้นมาซัดเอง และ ไม่พลาดเช่นเดิม ช่วยให้ทีมแซงนำ "ไก่เดือยทอง" อีกครั้ง ด้วยสกอร์ 2-1 วินาทีนั้น จิ้งจอกสีน้ำเงิน ได้แซงหน้า เชลซี ขึ้นไปสู่ท็อปโฟร์ โยนความกดดันไปให้กับ "สิงห์บลูส์" ทันที เพราะถ้าจบสกอร์แบบนี้ จะถีบลูกทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล ร่วงมาอันดับ 5 แทน

- สถานการณ์ เชลซี ย่ำแย่ขีดสุด

นับเป็นโมเมนตั้มที่มันสนุกตื่นเต้น ลุ้นกันแบบนาทีต่อนาทีจริงๆ เพราะมันพลิกไป พลิกมา หากใครเป็นแฟนบอล เชลซี หัวใจคงเต้นแรงผิดปกติ อาจจะออกอาการกระวนกระวาย นั่งกัดนิ้วด้วยความร้อนรนด้วยซ้ำ เพราะให้หลังแค่ เลสเตอร์ แซงนำ "ไก่เดือยทอง" เพียงแค่ไม่กี่วินาที ปรากฏว่า จอร์จินโญ่ ดันไปทะลึ่งเข้าช้าขัดขา เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ ล้มลงในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ให้ วิลล่า ทันที ซึ่ง อันวาร์ เอล กาซี่ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ซัดให้ "สิงห์ผงาด" ขึ้นนำ เชลซี 2-0 เหมือนเป็นการขุดหลุมเตรียมฝัง เชลซี ให้ตายทั้งเป็น เหลือเพียงแค่เอาดินกลบหน้าเท่านั้น เพราะการตามหลัง 2 ลูก เป็นอะไรที่พลิกกลับมาชนะยากเหลือเกิน ต่อให้จะตีเสมอ แต่ถ้า เลสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล เก็บ 3 คะแนน ก็ไม่เพียงพอที่ เชลซี จะจบอันดับท็อปโฟร์ ดังนั้นสถานการณ์ของแฟน สิงห์บลูส์ ย่ำแย่สุดขีด โดยต้องเป่ามนต์คาถาแช่งให้ จิ้งจอกสีน้ำเงิน โดนตีเสมอเท่านั้น

- ความหวัง เชลซี กลับมา

ต่อให้มีความหวังเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ แต่มันก็ยังถือว่าเป็นความหวัง อย่างน้อยถ้าขุนพล เชลซี ทำประตูตีตื้นกลับมาได้เร็ว ก็ยังพอไปลุ้นผลสกอร์คู่อื่นในช่วงท้ายได้อยู่ โดย สิงห์บลูส์ พยายามบุกอย่างหนัก เพื่อยิงตีไข่แตก แต่ก็มีช็อตที่ ติโม แวร์เนอร์ ยิงเข้าไปแล้ว แต่ก็โดนจับล้ำหน้าจาก VAR อย่างไรก็ตาม ความพยายามสัมฤทธิ์ผล เมื่อ เบน ชิลเวลล์ เติมขึ้นมาวอลเล่ย์ทำประตูให้กับทีมได้สำเร็จ ในนาที 70 ช่วยให้ เชลซี ไล่หลัง วิลล่า มา 1-2 อย่างน้อยๆอีก 20 นาทีที่เหลือ ยังพอที่จะลุ้นพลิกแซงได้ แต่สถานการณ์ตอนนั้น เชื่อว่าสาวก "เดอะ บลูส์" นั่งกดรีเฟรชเช็คสกอร์คู่ เลสเตอร์ กันนิ้วแทบพัง เพื่อแช่งให้คู่แข่งพลาด เพราะมันคงเป็นหนทางที่ง่ายกว่าให้ทีมรักทำประตูแซงนำ

- ลิเวอร์พูล ปิดจ็อบไป แชมเปี้ยนส์ ลีก

ลิเวอร์พูล จากทีมที่โอกาสไป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ค่อนข้างริบหรี่ หากวัดผลงานก่อนเข้าสู่ช่วง 5 นัดสุดท้าย แต่กลับกลายเป็นว่านัดปิดฤดูกาล ขุนพล หงส์แดง ดูจะสดใสกว่าใครเพื่อน เพราะหลังจากได้ประตูนำตั้งแต่ครึ่งแรก ก็แทบจะตีตราจองคว้าโควต้าไปลุย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ไว้แล้ว หากไม่นับช่วงต้นเกม ลิเวอร์พูล แทบไม่ปล่อยให้ พาเลซ ได้มีโอกาสตีเสมอเลย เป็น หงส์แดง ต่างหาก ที่พับสนามบุก เพื่อยิงประตูที่ 2 หวังตอกฝาโรง และ สุดท้ายก็เป็น ซาดิโอ มาเน่ ที่ได้ตั้งป้อมยิงในกรอบเขตโทษ ด้วยเท้าซ้าย บอลไปแฉลบกองหลัง พาเลซ นิดๆ บอลพุ่งเสียบเสาเข้าไป พาทีมขึ้นนำ 2-0  จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ ลิเวอร์พูล ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ทันที แทบจะปิดจ็อบคว้าตั๋วไป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ และ จะปล่อยให้ เชลซี กับ เลสเตอร์ ไปลุ้นกันในช่วงท้ายเกม ว่าใครจะคว้าสิทธิ์อีก 1 ที่นั่ง นาทีต่อนาที 3 ทีม พรีเมียร์ แย่งโควต้า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 2 ใบ

- เลสเตอร์ จ๋อย โดน สเปอร์ส สอยรัวๆ

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ช่างบีบคั้นหัวใจแฟนบอล เลสเตอร์ ซิตี้ กับ เชลซี เหลือเกิน ทีมนึงก็อยากให้จบเกมไวๆ ส่วนอีกทีมก็บ่นว่าทำไมเวลาเดินเร็วเหลือเกิน แต่แล้วก็เกิดเรื่องดราม่าขึ้น เมื่อ "เดอะ ฟ็อกซ์" แพ้ภัยตัวเอง อาจจะด้วยความกดดันอะไรก็ตามแต่ เมื่อ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล จะออกมาชกบอลทิ้ง จากลูกเตะมุม แต่เขากลับชกผิดเหลี่ยม กลายเป็นลูกไปโดนแขนด้านใน บอลปลิ้นเข้าประตูตัวเอง ทำให้ถูกตีเสมอ 2-2 เรียกว่าลูกนี้ดังสนั่นไปถึง เชลซี เนื่องจากได้อานิสงส์ไปด้วย เพราะต่อให้ยังตามหลัง วิลล่า แต่ถ้า เลสเตอร์ จบด้วยผลเสมอ คะแนนจะเท่ากัน แต่ลูกได้เสีย เชลซี ดีกว่า แค่ เลสเตอร์ โดนตีเสมอ ก็แย่พอแล้ว แต่สถานการณ์มันเลวร้ายมากกว่าเดิมไปอีก เมื่อ แกเร็ธ เบล วิ่งมายิง จากการแอสซิสต์ของ แฮร์รี่ เคน ซัดผ่านบล็อคของผู้เล่น จิ้งจอก เข้าประตูไป พลิกกลับมาแซงนำ 3-2 และ แทบจะส่ง เลสเตอร์ ไปเล่น ยูโรปา ลีก แบบสมบูรณ์ เพราะขณะนั้นเวลาเหลืออีกเพียงแค่ 3 นาที ก่อนทดเวลาบาดเจ็บ ส่วนแฟนบอล เชลซี จะรออะไร ก็เฮซิครับ เพราะถึงแม้ทีมรักพวกเขาจะเป็นฝ่ายตามหลัง แอสตัน วิลล่า แต่สกอร์คู่ เลสเตอร์ มันช่างเป็นใจเหลือเกิน โดยถ้าจบตามนี้ สิงห์บลูส์ ยังกินบุญเก่า ประคองตัวจบอันดับ 4 แบบลากเลือด นาทีต่อนาที 3 ทีม พรีเมียร์ แย่งโควต้า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 2 ใบ

- แฟน เชลซี ถึงขั้นกราบไหว้ แกเร็ธ เบล

หลังจาก ลงรูปไลฟ์สกอร์ คู่ เลสเตอร์ กับ สเปอร์ส บนเพจ ขอบสนาม แทนที่จะมีสาวก "ไก่เดือยทอง" เข้ามาสรรเสริญ แต่กลับกลายเป็นว่าแฟนบอล "สิงห์บลูส์" จัดทัวร์แห่ยกย่อง แกเร็ธ เบล กันยกใหญ่ ทั้งคอมเมนท์ รูปกราบไหว้บูชา, กล่าวขอบคุณด้วยถ้อยคำว่า "กรุงลอนดอน ไม่ทิ้งกัน" ที่ฮากว่านั้น คือการยกให้ แกเร็ธ เบล เป็น "แมน ออฟ เดอะ แมตช์" ของ เชลซี เนื่องด้วย "วานรเทพ" เลี้ยงเข้าไปยิงฝ่าแนวรับ เลสเตอร์ ซิตี้ เข้าไปยิงปิดกล่องให้ สเปอร์ส บุกชนะ 4-2 ตอกฝาโรงส่ง จิ้งจอกสีน้ำเงิน ไปเล่นแค่ถ้วย ยูโรปา ลีก ส่วน เชลซี ถึงจะพ่ายแพ้ต่อ วิลล่า 1-2 แต่อารมณ์เหมือนเป็นผู้ชนะ เพราะยังรักษาโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไว้ได้ จึงไม่แปลกที่แฟนบอล สิงห์บลูส์ เข้ามาร่วมวงสรรเสริญ แกเร็ธ เบล กันเต็มโลกโซเชี่ยล ไปหมด ซึ่งบทสรุปของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ ก็จบลงด้วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ไปครอง, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบในฐานะรองแชมป์ ส่วนโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า อีก 2 ใบ ตกเป็นของ ลิเวอร์พูล ซึ่งแซงมาจบอันดับ 3 ขณะที่ เชลซี ยังดีพอเข้าป้ายเป็นอันดับ 4 และ เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องผิดหวังจบที่ 5 ได้ไปแค่ ยูโรปา ลีก เท่านั้น

ฮาย ฮาวดี้

นาทีต่อนาที 3 ทีม พรีเมียร์ แย่งโควต้า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 2 ใบ
logoline