ถือว่าเป็นเรื่องเด่นที่แทรกเข้ามาในช่วงค่ำคืนวันพุธ เมื่อ อันโตนิโอ คอนเต้ ได้ตัดสินใจแยกทางกับ อินเตอร์ มิลาน เรียบร้อยแล้ว ทั้งๆที่เพิ่งพาทีมล้มบัลลังค์ ยูเวนตุส คว้าแชมป์ สคูเด็ตโต้ มาครองหมาดๆ
แต่ถามว่าแปลกใจมั้ยกับการออกจาก อินเตอร์ ? ก็ไม่ได้รู้สึกเซอร์ไพรส์อะไรขนาดนั้น เพราะประวัติการคุมทีมของ คอนเต้ ก็ไม่ได้อยู่ยืดยาว เหมือนกับผู้นำบางคนที่อยู่คุมมา 7 ปี ก็ยังไม่ยอมไปไหน โดย คอนเต้ มักสร้างวีรกรรมเอาไว้หลายเรื่อง และ ประเด็นเหล่านั้นก็ถูกหยิบยกขึ้นมา หลังจากแยกทางอยู่เสมอ
มันจะมีเหตุผลและเหตุการณ์ใดบ้าง ที่ทำให้ คอนเต้ อยู่คุมทีมไหนก็ไม่นาน ไปติดตามกัน
- มีปัญหากับนักเตะ
ถึงแม้ว่า อันโตนิโอ คอนเต้ จะเป็นกุนซือที่ดุเดือดเลือดพล่าน แอคชั่นท่าทางดุดัน พร้อมกับบุคลิคที่เอาจริงเอาจังตลอดเวลา ทำให้ลูกทีมของเขาพร้อมถวายหัวสู้ตาย แต่กระนั้นก็ใช่ว่าทุกคนจะชื่นชอบ หรือ ปลาบปลื้มกับนิสัยของเขาไปซะทุกเมื่อ
หลายๆครั้งเราจะเห็นได้ว่า คอนเต้ มักชอบมีปัญหาทะเลาะกับนักเตะตัวเองภายในทีมอยู่บ่อยๆ และ ส่วนใหญ่มักจะลงเอยด้วยการ "มองหน้ากันไม่ติด" ยกตัวอย่างง่ายๆสมัยที่เขาอยู่กับ เชลซี อดีตลูกทีมอย่าง ดีเอโก้ คอสต้า ที่ฝ่าฟันคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาด้วยกัน แต่ใครจะเชื่อล่ะว่า แค่เวลาไม่กี่เดือน จะเกลียดกันแบบ "ไม่เผาผี"
ย้อนกลับไปช่วงที่ คอนเต้ สถานะสั่นคลอนกับ เชลซี อาจโดนปลดออกจากตำแหน่ง กุนซือชาวอิตาเลี่ยน ไปมีปัญหากับกองหน้าเบอร์ 1 ของทีม หากจำกันได้นั่นคือการส่ง “sms” ไปตัดเยื่อใย คอสต้า ว่าไม่มีอยู่ในแผนการทำทีม ช่างเป็นการกระทำที่ไร้จิตใจเหลือเกิน หากเราเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ เพราะไม่บอกกันซึ่งๆหน้า อารมณ์เหมือนพนักงาน เปิดไลน์มาอ่าน จู่ๆโดนไล่ออก โดยไม่รู้ตัวมาก่อน
คอสต้า ถึงขั้นนั่งเครื่องบินหนีกลับไป บราซิล ไม่ขอกลับมาซ้อมกับทัพ "สิงห์บลูส์" อีกต่อไป พร้อมกับใส่เสื้อ แอตเลติโก มาดริด เย้ยหยันอารมณ์ว่า "กูอยากย้ายทีมแล้วนี่ไง" ซึ่งนั่นก็คืออีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ทำให้เขาต้องออกจากถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งตอนที่ต้องจำใจกลับมา ก็ไปซ้อมแบบเงียบๆคนเดียว
มาถึงยุคสมัย อินเตอร์ มิลาน .. นิสัยของ คอนเต้ ไม่เคยเปลี่ยนไป ด้วยบุคลิคแข็งกร้าว เขาเลยมีปัญหากับ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ กองหน้าคนสำคัญของทีม ..
วันนั้นเป็นเกมที่ "งูใหญ่" เอาชนะ โรม่า 3-1 ซึ่งเหตุการณ์มันเริ่มขึ้นเมื่อ เลาตาโร่ ลงสนามเป็นตัวสำรองไปแทน อเล็กซิส ซานเชซ นาที 36 แต่ว่า เลาตาโร่ ก็ถูกเปลี่ยนตัวออกอีกที ตามแท็คติคในนาที 77 ทำให้นักเตะไม่พอใจอย่างยิ่ง เพราะเป็นการไม่ไว้หน้ากัน ทำให้ เลาตาโร่ ระบายอารมณ์ด้วยการขว้างขวดน้ำข้างสนามอย่างไม่สบอารมณ์ พร้อมระบายด้วยการสบถคำด่า
หากเป็นโค้ชคนอื่น ก็อาจจะอธิบายให้นักเตะเข้าใจ หรือ ค่อยไปเคลียร์หลังจบเกม แต่กับ คอนเต้ ไม่ใช่แบบนั้นครับ เพราะเขาก็หันไปสวน เลาตาโร่ ว่า "เฮ้ย ทำอะไรก็เคารพกันหน่อยมึงอ่ะ อย่าทำตัวเป็นซูเปอร์สตาร์ให้มากนัก" ต่อให้สุดท้าย เลาตาโร่ จะเอ่ยปากขอโทษแล้ว แต่อาจมีตะขิดตะขวงใจกันอยู่นิดๆ
ฉะนั้นมันเลยมีประเด็นฮาๆ ที่ โรเมลู ลูกากู เป็นโฆษกจัดมวยคู่พิเศษในสนามซ้อม โดยให้ คอนเต้ กับ เลาตาโร่ ใส่นวมขึ้นชกกัน เพื่อเป็นการเคลียร์ใจ แต่ก็ไม่มีอะไรจริงจัง แต่ก็นั่นแหละครับ อารมณ์เดือดที่เกิดขึ้นครั้งแรก มันสามารถสร้างความบาดหมาง และ ระยะห่างต่อกันได้เลย
- งัดข้อกับบอร์ดบริหาร
กลายเป็นนิสัยส่วนตัวไปแล้วแหละครับ สำหรับการ "ยอมหักไม่ยอมงอ" ของ อันโตนิโอ คอนเต้ เพราะไม่ว่าเขาจะไปคุมสโมสรใด ไล่ตั้งแต่ ยูเวนตุส, เชลซี หรือ อินเตอร์ มิลาน เขามักจะต้องลาออก ด้วยเหตุผลเดิมๆ นั่นก็คือ "มักจะโดนแทรกแซงอำนาจการทำทีม"
เริ่มจาก ยูเวนตุส : คอนเต้ ถือเป็นไอค่อนของสาวก "ไอ้ม้าลาย" คนหนึ่ง เพราะรับใช้สโมสรมาอย่างยาวนานถึง 13 ปี คว้าแชมป์ สคูเด็ตโต้ 5 สมัย, โคปปา อิตาเลีย 1 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 1 สมัย เรียกง่ายๆใครๆก็รักตำนานกัปตันทีมรายนี้ ด้วยสไตล์การเล่นที่ "ทุ่มเทมาจากหัวใจ" ทำให้ชื่อของเขาถูกประทับตรา "ดาว" เอาไว้ที่สโมสร เพื่อเป็นการสดุดี
ตอนที่ คอนเต้ ขึ้นมาคุมทีม ยูเวนตุส เขานำโทรฟี่ สคูเด็ตโต้ กลับมาสู่สโมสรอีกครั้ง แถมป้องกันกันแชมป์ 3 ปีซ้อน ด้วยผลงานคงได้คุมทีมต่อยาวๆ แต่แล้วก็เริ่มมีปัญหากับบอร์ดบริหาร โดยเฉพาะอำนาจการซื้อตัว
คอนเต้ ต้องอำลาทีม เพราะเขามองว่าไม่สามารถสร้างทีมให้แข็งแกร่งตามต้องการ ซึ่งคนแบบเขาถ้าไม่ได้ตามที่ต้องการ เขาก็พร้อมจะยอมหัก และไม่ยอมผ่อนปรนใด ๆ ทั้งสิ้น
ต่อมาที่ เชลซี : ถึงแม้ว่า คอนเต้ จะได้ตัว อัลบาโร่ โมราต้า มาร่วมทีม เชลซี แทนที่ ดีเอโก้ คอสต้า ด้วยเม็ดเงิน 80 ล้านปอนด์ แต่กระนั้น 3 เป้าหมายที่เขาอยากได้ตัวมาเสริมทัพจริงๆ กลับไม่ได้ใครสักคนเลย
ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, อเล็กซิส ซานเชซ และ อเล็กซ์ ซานโดร แบ็กซ้ายของ ยูเวนตุส ถึงขั้นที่ คอนเต้ ขอแตกหักกับบอร์ดบริหาร ด้วยการประกาศผ่านสื่อว่า "ไม่ได้อำนาจในการสร้างทีม" ทำให้เรื่องนั้นกลายเป็น ฟางเส้นสุดท้ายกับสโมสร เพราะเหมือนเป็นการชี้หน้าด่า โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีม เชลซี ไปในตัว ซึ่งมันก็ส่งผลถึงฟอร์มการเล่นในลีก เพราะไม่อาจป้องกันแชมป์ได้ แต่ก็แยกทางด้วยการซิวแชมป์ เอฟเอ คัพ
ล่าสุดกับ อินเตอร์ มิลาน : ต่อให้ อินเตอร์ จะคว้าแชมป์ "สคูเด็ตโต้" มาได้ กอบกู้ชื่อเสียงสโมสรกลับมา แต่ทว่าบอร์ดบริหาร กลับมีนโยบายขอลดค่าใช้จ่ายภายในสโมสร เพราะโดนปัญหาเศรษฐกิจจากโรคระบาด โควิด-19
บอร์ดบริหาร งูใหญ่ ต้องการโละนักเตะหลายคนออกจากทีม เพื่อระดมเงินให้ได้ 80 ล้านยูโร เพื่อหลีกเลี่ยงกฎไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ และ ค้ำจุนสโมสร แต่มันกลายเป็นว่าความคิดเห็นสวนทางกับ คอนเต้ ชัดเจน เนื่องจากเฮดโค้ชรายนี้ ต้องการได้เงินเสริมนักเตะเพื่อต่อยอดความสำเร็จ โดยเฉพาะผลงานในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
แต่แล้วทางออกสุดท้ายที่เคลียร์กันได้ ก็คือ คอนเต้ ขอยอมเดินจากไป เพราะเขาก็ไม่ต้องโดนลดเงินเสริมทัพเหมือนกัน ทำให้ อินเตอร์ ยอมจ่ายเงิน 7 ล้านยูโร เพื่อแยกทางเลิกแล้วต่อกัน โดยก่อนหน้านี้ ความสัมพันธ์ของ คอนเต้ กับ บอร์ด งูใหญ่ ก็ระหองระแหงมานานแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในทีม ไม่ค่อยออกมาปกป้องเวลาทีมโดนด่า ทั้งๆที่ทุกคนก็สู้กันเต็มที่ถวายหัวเพื่อสโมสร
- ทะเลาะกับคนไปทั่ว
อันโตนิโอ คอนเต้ ถือว่าเป็นกุนซือสายบู๊คนหนึ่งของวงการลูกหนัง เรียกว่าเป็นพวกพร้อม "ปะทะ" ตลอดเวลา หลายๆเหตุการณ์ที่เขาเคยก่อวีรกรรมเอาไว้ ก็เรียกว่ามีผลกระทบต่อชื่อเสียงของสโมสร
เอาแค่ตอนคุม อินเตอร์ มิลาน .. คอนเต้ เคยโดนแบนห้ามลงคุมทีมเป็นจำนวน 2 นัด เพราะเขาไปพูดประชดถึงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ซึ่งเป็นคำพูดที่ไม่เหมาะสม แถมตามไปด่าถึงอุโมงค์นักเตะ ซึ่งไม่ค่อยมีกุนซือที่ไหนทำกัน
เท่านั้นยังไม่พอ อันโตนิโอ คอนเต้ เคยถูกจับภาพว่า "ชูนิ้วกลาง" ใส่ อันเดรีย อันเญลลี่ ประธาน ยูเวนตุส ตอนพักครึ่ง ที่ทั้ง 2 ทีมพบกัน ทำเอาอีกฝ่ายโมโห จนเดินลงมาด่าหลังจบเกม จนเป็นเรื่องราวใหญ่โต มีการสืบสาวราวเรื่องกับประเด็นที่เกิดขึ้น ซึ่งภาพลักษณ์ของ อินเตอร์ มิลาน ก็ส่งผลไปด้วย
แน่นอนว่าทุกทีมต้องการอยากได้โค้ชที่มีฝีมือ และ ทุ่มเทแบบ คอนเต้ แต่ด้วยอุปนิสัยอันดุเดือด ทั้งเรื่องการงัดข้อกับบอร์ดบริหาร, มีปัญหากับนักเตะ และ พฤติกรรมแย่ๆที่มักออกผ่านสื่อ ก็อาจจะเป็นสิ่งหลอมรวม ที่ทำให้ คอนเต้ อยู่คุมทีมไหนไม่ยืดยาว
อย่างไรก็ตาม เชื่อเถอะว่า คอนเต้ จะว่างงานไม่นาน และ ซัมเมอร์นี้เขาอาจมีสโมสรใหม่จับจองรออยู่แล้วก็เป็นได้
ฮาย ฮาวดี้
