ไทมไลน์ 5 ปีหลังสุด นักเตะออกจาก สเปอร์ส ปุ๊บ ได้แชมป์ปั๊บ

หลังจากที่ ยูโรปา ลีก ได้ผู้ชนะเป็น บียาร์เรอัล จากการดวลจุดโทษเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยหนึ่งประเด็นที่ผู้คนอาจไม่ได้สังเกต นั่นก็คือมีนักเตะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งย้ายออกมา แล้วสามารถคว้าแชมป์มาครองทันที

เพราะ “ไก่เดือยทอง” กำลังมีปัญหาเรื่องร้างราความสำเร็จ เป็นได้แค่พระรอง จนทำให้ แฮร์รี่ เคน ดาวยิงตัวเก่ง คิดย้ายทีม เพื่อไปตามหาโทรฟี่ โดยซีซั่นนี้ ไม่ได้มีนักเตะ "ไก่เดือยทอง" คนเดียวเท่านั้น ที่ย้ายทีมแล้วคว้าแชมป์ แต่มีสูงถึง 3 คน หากนับ 5 ลีกใหญ่ยุโรป

ไม่ได้เป็นการลบหลู่ "สเปอร์ส" แต่โอกาสคว้าแชมป์ของพวกเขายากเย็นเหลือเกิน นักเตะหลายๆคนย้ายออกไปหาความสำเร็จ และ มันก็ทำได้จริงๆ ฉะนั้นจะพาไปย้อนดูไทม์ไลน์ 5 ปีหลังสุด เกี่ยวกับนักเตะ "คลับไก่" เมื่อย้ายทีมแล้ว สามารถซิวโทรฟี่ประดับบารมีได้ทันที จะมีใครบ้าง ไปติดตามกัน

- ไคล์ วอล์คเกอร์

ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็กขวาทีมชาติอังกฤษ เติบโตบนเส้นทางสายอาชีพลูกหนังกับสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เขาลงเล่นกับสโมสรแห่งนี้ ตั้งแต่อายุ 20 ปี หรือย้อนกลับไปเมื่อซีซั่น 2009-10 ก่อนจะก้าวขึ้นเป็นตัวหลักให้กับทีมในซีซั่นถัดมา พร้อมสถาปนาตัวเองเป็นหนึ่งในฟูลแบ็กที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะการเติมเกมรุกสุดมันส์ ถึงแม้ว่า "สเปอร์ส" จะเป็นผู้ประสาทวิชาให้กับ วอล์คเกอร์ แต่ตลอด 8 ปี ที่เขาใช้ชีวิตในกรุงลอนดอน ไม่เคยสัมผัสโทรฟี่สักรายการเดียว ดังนั้นเขาจึงเริ่มโหยหาความสำเร็จ เพราะว่ากันตามตรง โอกาสที่ ไก่เดือยทอง จะคว้าแชมป์มันยากเย็นเหลือเกิน ขนาด ลีก คัพ ก็ยังเป็นได้แค่เพียงรองแชมป์เท่านั้น และ มันช่างประจวบเหมาะกับช่วงที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องการได้แบ็กขวาคนใหม่ มาแทนที่ ปาโบล ซาบาเลต้า ที่เข้าสู่วัยปลดระวาง โดย เรือใบสีฟ้า ยอมทุ่มทุน 50 ล้านปอนด์ เพื่อดึงตัวไปเสริมทัพ มีหรือที่ วอล์คเกอร์ จะขัดข้อง เพราะ เดอะ ซิตี้เซ่น พร้อมตอบโจทย์เรื่องการคว้าแชมป์ ที่สำคัญจะได้ร่วมงานกับกุนซือระดับโลกอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพียงแค่ซีซั่นเดียวกับ แมนฯ ซิตี้ .. ไคล์ วอล์คเกอร์ สามารถคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาครองได้ทันที โดยไม่ต้องนานถึง 7-8 ปีแบบสโมสรเก่า นับเป็นแชมป์เมเจอร์แรกในชีวิตของเจ้าตัว ซึ่งตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ แบ็กขวาทีมชาติอังกฤษ ซิวถ้วยกับ เรือใบสีฟ้า ไปแล้ว 10 ครั้ง  แบ่งเป็น พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, คาราบาว คัพ 4 สมัย และ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ อีก 2 สมัย เหลือเพียงแค่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เท่านั้น ที่ตามหา ซึ่ง เรือใบสีฟ้า กำลังจะชิงดำกับ เชลซี ซึ่งมารอดูกันว่า ไคล์ วอล์คเกอร์ จะคว้าแชมป์นี้ได้อีกรายการหรือไม่

- คีแรน ทริปเปียร์

หลังจากที่ ไคล์ วอล์คเกอร์ ได้ย้ายไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำให้ คีแรน ทริปเปียร์ ได้เลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นแบ็กขวาเบอร์ 1 ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แบบเต็มตัว ต้องบอกว่าชื่อเสียงของเขาดังสุดขีด โดยเฉพาะตอนเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ ชุดคว้าอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2018 คีแรน ทริปเปียร์ มักจะมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยๆ ทำให้โอกาสลงสนามทำไม่ได้ต่อเนื่อง แต่กระนั้นเขาถือว่าเป็นจิ๊กซอว์สำคัญ ที่ช่วยให้ สเปอร์ส ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2019 ทว่าก็ต้องอกหักด้วยการแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล จริงๆแทบไม่มีข่าวเรื่องการย้ายทีมของ ทริปเปียร์ เล็ดลอดออกมาเลย แต่ก็เหลือเชื่อเมื่อเขาเลือกย้ายออกจาก "สเปอร์ส" ไปค้าแข้งให้กับ แอตเลติโก มาดริด ซึ่งเป็นนักเตะอังกฤษ คนแรกที่ไปเล่นให้กับ "ตราหมี" ในรอบ 95 ปี พร้อมกับยึดสัมปทาน เป็นตัวจริงของต้นสังกัดใหม่ทันที ถึงแม้ คีแรน ทริปเปียร์ จะไม่ได้ย้ายทีม แล้วคว้าแชมป์มาครองเลย แต่กระนั้นในเวลาแค่ 2 ซีซั่น คือฤดูกาล 2020-21 เขาและเพื่อนๆ "ตราหมี" สามารถโค่นบัลลังค์ บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด ซิวโทรฟี่ ลา ลีกา สเปน มานอนกอดในรอบ 7 ปี กลายเป็นนักเตะอีกหนึ่งคน ที่ย้ายออกจาก สเปอร์ส แล้วสามารถคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ

- ฮวน ฟอยธ์

ฮวน ฟอยธ์ ถือว่าเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามอง รอวันเติบโตขึ้นสู่ชุดใหญ่ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แต่ด้วยวัยที่เป็นหนุ่ม อายุเข้าสู่หลัก 22-23 ปี ความต้องการของเขาคือการออกไปเผชิญโลกกว้าง ไม่ใช่นั่งเป็นแค่ตัวสำรองให้กับทัพ "ไก่เดือยทอง"  จริงอยู่ที่เขาได้ขึ้นมาเล่นให้กับชุดใหญ่บ้างแล้ว ถึงขั้นมีชื่อติดทีมชาติอาร์เจนติน่า ไปลุย โคปา อเมริกา 2019 แต่กระนั้นฤดูกาล 2019-20 กลับได้ลงเล่นกับ สเปอร์ส ไปเพียงแค่ 4 นัด ซึ่งเป็นตัวจริงแค่ 1 นัด เท่านั้น นับว่าน้อยมากๆ ทำให้เริ่มมีกระแสข่าวว่า ฮวน ฟอยธ์ ต้องการย้ายออกจากทีม ซึ่ง สเปอร์ส ก็รู้ดีว่าไม่ควรเสียเจ้าหนูรายนี้ออกไป เลยตัดสินใจขอต่อสัญญา และ ปล่อยไปให้กับ บียาร์เรอัล ยืมตัวใช้งาน เดิมที เขาแทบไม่ได้ลงสนามให้กับ "เรือดำน้ำสีเหลือง" แต่แล้วนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ฮวน ฟอยธ์ ได้รับโอกาสลงสนามสม่ำเสมอ ในตำแหน่งแบ็กขวา เขาถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการนำ บียาร์เรอัล ผ่านเข้าชิงแชมป์ ยูโรปา ลีก จากนักเตะที่ถูกมองข้าม ใครจะเชื่อล่ะว่า ปัจจุบัน ฮวน ฟอยธ์ กลายเป็นนักเตะดีกรีแชมป์ ยูโรปา ลีก ไปแล้ว เพราะเขาคือหนึ่งใน 11 ผู้เล่นตัวจริง ชุดดวลจุดโทษเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาครอง ถึงแม้เขาจะโดนเปลี่ยนออกช่วงท้ายเกม แต่มันจะเป็นเกียรติประวัติที่เขาภาคภูมิใจกับการเป็นแชมป์ยุโรปครั้งนี้

- คริสเตียน อีริคเซ่น

นับตั้งแต่ คริสเตียน อีริคเซ่น ย้ายเข้ามาค้าแข้งให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เขาก็กลายเป็นตัวหลักของทีมทันที ชนิดที่ว่าจะขาดไปไม่ได้ โดยเล่นเกมรุกประสานงานร่วมกับ เดเล่ อัลลี, ซน ฮึง-มิน และ แฮร์รี่ เคน ตลอดระยะเวลา 7 ซีซั่น เขาพยายามทุ่มเทอย่างหนัก เพื่อช่วย "ไก่เดือยทอง" คว้าแชมป์ให้ได้ แต่กระนั้น อีริคเซ่น ต้องรับบทพระรองอยู่ร่ำไป ทั้งเป็นรองแชมป์ ลีก คัพ, รองแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ที่เขาผิดหวังมากสุด คือการพ่ายต่อ ลิเวอร์พูล ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ เมื่อปี 2019 ทำให้ซีซั่นต่อมา มีกระแสลือตลอดว่า อีริคเซ่น ต้องการย้ายออกจาก สเปอร์ส เพื่อไปตามหาความสำเร็จ แต่กระนั้นการย้ายทีมไม่เกิดขึ้น ทำให้เขาต้องตกเป็นสำรองไปพักใหญ่ กว่าจะเคลียร์ใจกลับมาลงสนามได้ ก็นานพอตัว อย่างไรก็ตามพอเข้าถึงช่วงครึ่งซีซั่นหลัง ดาวเตะทีมชาติเดนมาร์ก ก็เลือกไปตามทางของตัวเอง โดยย้ายไปอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน จริงๆกับ "งูใหญ่" ก็ไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบ เพราะส่วนใหญ่เขานั่งเป็นตัวสำรอง ถึงขั้นเคยมีข่าวว่าอาจจะทำใจย้ายทีมอีกครั้งด้วยซ้ำ ทั้งๆที่เพิ่งมาอยู่ได้ 6 เดือน อย่างไรก็ตาม อีริคเซ่น อดทนอยู่กับทีมต่อไป ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เขาคิดถูก เพราะจบซีซั่นนี้ เขาก็เป็นส่วนหนึ่งของทีม ในการพา อินเตอร์ ล้มบัลลังค์ ยูเวนตุส คว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี นับเป็นแชมป์เมเจอร์ครั้งแรกในรอบ 8 ปี ของตัวเอง

- เฟร์นานโด ยอเรนเต้

หลายคนอาจจะหลงลืมไปว่า เฟร์นานโด ยอเรนเต้ เคยเป็นอดีตนักเตะของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เหมือนกัน เพราะตอนที่เขาย้ายมาจาก สวอนซี ซิตี้ อยู่ในสถานะเป็นตัวสำรองของ แฮร์รี่ เคน แต่ก็ถือว่าได้ลงสนามเยอะพอสมควร โดยตลอด 2 ซีซั่น ลงสนามไปถึง 66 นัด ยิงไป 13 ประตู นับว่าไม่ธรรมดา ตอนที่ ยอเรนเต้ ย้ายมาค้าแข้งในลีกแดน "ผู้ดี" ถือว่าทำผลงานได้น่าประทับใจ โดยเฉพาะการยิง 15 ประตู ให้กับ สวอนซี และ พาทีมรอดตกชั้นสำเร็จ ในซีซั่น 2016-17 ทำให้ สเปอร์ส ยอมซื้อตัวมาด้วยราคา 12 ล้านปอนด์ หลังจากอยากได้ตัวมานานแล้ว แต่ ยอเรนเต้ อยากอยู่ช่วย หงส์ขาว ให้อยู่รอดบนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต่อไปก่อน ยอเรนเต้ ถือเป็นบุคคลสำคัญของ "ไก่เดือยทอง" ในปีที่ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ ลิเวอร์พูล เพราะตลอดเส้นทางในรอบน็อคเอาท์ เขายิงประตูใส่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ เป็นคนทำประตูให้ สเปอร์ส เขี่ย แมนฯ ซิตี้ ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ในเกมสุดดราม่า แต่น่าเสียดาย ที่สุดท้ายก็ได้แค่รองแชมป์ ด้วยความที่อายุเยอะ ทำให้ ยอเรนเต้ หมดสัญญากับ สเปอร์ส แต่ด้วยฝีเท้าที่ยังเก่งกาจ ทำให้ นาโปลี อาสาขอตัวไปชุบเลี้ยง ซึ่งที่ อิตาลี เขายังคงเป็นซูเปอร์ซัพ เหมือนสมัยที่อยู่กับ ไก่เดือยทอง แต่มันยอดเยี่ยมไปกว่านั้น คือปีแรกกับ "อัซซูร่า" ก็สามารถคว้าแชมป์ โคปปา อิตาเลีย มาครองได้เลย เป็นอีกหนึ่งแข้งที่ตอกย้ำว่าถ้าย้ายออกจาก ท็อตแน่ม มีโอกาสคว้าแชมป์มากกว่า

ซึ่งก็ไม่แน่ว่า ถ้าหาก แฮร์รี่ เคน เห็นเพื่อนๆย้ายทีมแล้วสามารถคว้าแชมป์มาครองกันได้มากมายขนาดนี้ ก็มีโอกาสสูงเหลือเกิน ที่เขาจะเก็บข้าวของย้ายออกจากถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในซัมเมอร์นี้ 

ฮาย ฮาวดี้-