Missing XI : รวมทีมดาวดังอกหักจาก . . . ทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2020

จนถึงตอนนี้ก็น่าจะทราบกันไปหมดแล้วว่าแต่ละชาตินั้นได้เลือกใครไปทำศึกสงครามกันบ้างสำหรับทัวน์นาเมนต์ ยูโร 2020 ในช่วงซัมเมอร์นี้ 

ด้วยเรื่องของโควต้าที่จำกัดแค่ 26 คนมันก็ไม่ใช่แปลกอะไรถ้าจะมีคนอกหักอดไปรับใช้ชาติเกิดในศึกใหญ่ครั้งนี้ วันนี้สิ่งที่ "ขอบสนาม" อยากนำเสนอก็คือ "การจัดทีม 11 ผู้เล่นที่อกหักชอกช้ำจากการไปโลดแล่นในทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2020" จะมีใครติดโผมาบ้างนั้นไปชมกัน

ผู้รักษาประตู : มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเก้น - บาร์เซโลน่า

จริงอยู่ที่การจะแย่งมือหนึ่งในตำแหน่งโกล์ ทีมชาติเยอรมัน จาก มานูเอล นอยเออร์ มันเป็นเรื่องยากจริงๆ หรือต่อให้ติดก็เป็นแค่สำรองของ นอยเออร์ อยู่ดี ว่าแล้วซัมเมอร์นี้ แกก็เลยไปผ่าตัดรักษาอาการบาดเจ็บดีกว่า ผลงานเมื่อปีที่ผ่านมาของ แทร์ สเตเก้น ก็ถือว่ายอดเยี่ยม เสียไปแค่ 32 ประตูกับ บาร์เซโลน่า เก็บได้ 11 คลีนชีท และได้ลุ้นแชมป์จนถึงช่วงโค้งสุดท้าย แต่ก็อย่างที่บอกล่ะว่า ยังไงก็เป็นรอง นอยเออร์ ส่วนคนที่ได้ติดทีมแทนเขา ก็ต้องยอมรับว่าผลงานไม่ได้ดีกว่าเขาสักเท่าไหร่  เควิน แทร็ปป์ เสียไปถึง 52 ประตูกับ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต และเก็บได้เพียง 4 คลีนชีทเท่านั้น ส่วน แบรนด์ เลโน่ อันนี้ผลงานส่วนตัวถือว่าเข้าตาใช้ได้กับการเก็บ 11 คลีนชีท และเสียไป 37 ประตูกับ อาร์เซน่อล ซึ่งถ้าหากว่าไม่มี นอยเออร์ เขาก็คงยึดมือหนึ่งไปยาว ๆ แน่นอน

แบ็กขวา : อารอน วาน-บิสซาก้า - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

อาราน วาน-บิสซาก้า เป็นนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้โอเคและรักษามาตรฐานของตัวเองได้ดีมาตลอดกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่จนถึงตอนนี้พี่แกก็ยังไม่ได้โอกาสประเดิมเสียทีกับการรับใช้ ทีมชาติอังกฤษ แต่ก็พอเข้าใจได้ดีเพราะในแคมป์ "สิงโตคำราม" ก็มีตัวเลือกดีๆ หลายคนในตำแหน่งแบ็กขวาไม่ว่าจะเป็น ไคล์ วอล์คเกอร์, คีแรน ทริปเปียร์ และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ รวมถึง รีซ เจมส์ และหลายๆ คนก็สามารถผันตัวไปยืนเป็นเซ็นเตอร์แบ็ก 3 คนได้ในระบบของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ซึ่งจุดนี้น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ชื่อของ อารอน วาน-บิสซาก้า ต้องหลุดโผจากชุดล่าแชมป์ ยูโร 2020 ดีไม่ดี จบบอลยูโร คราวนี้ถ้าหากว่า “ไอ้แมงมุม” อยากจะมีประสบการณ์เล่นทีมชาติ บางทีอาจต้องยอมเล่นให้ทีมชาติคองโก ที่เขามีเชื้อสายตามที่หลายคนแซวกันก็ได้ เพราะว่าดูแล้ว อังกฤษ ไม่มีวี่แววว่าจะเรียกเขาจริง ๆ 

เซ็นเตอร์แบ็ก : ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ - บาเยิร์น มิวนิค

ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ได้ชื่อว่าเป็นกองหลังดาวรุ่งคลื่นลูกใหม่ที่ฉายแววได้ดีเลยในยุคนี้กับ อาร์บี ไลป์ซิก มีคุณสมบัติที่ครบเครื่องสำหรับการเป็นแข้งเซ็นเตอร์แบ็กยุคใหม่ อีกทั้งยังเป็นเป้าหมายการเสริมทัพของหลายทีมดังด้วย ก่อนจะตกลงปลงใจย้ายไป บาเยิร์น มิวนิค แต่ถ้าจะพูดถึงโอกาสการรับใช้ชาติมันก็ค่อนข้างยาก เพราะ ฝรั่งเศส ก็มีตัวเลือกอยู่มากมาย ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่ ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องก์ เลือกใช้เป็นประจำใอยู่แล้ว จะมีก็แต่ ฌูเลส คูนเด้ ที่เป็นหน้าใหม่เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่รายนั้นก็ฉายแววได้แจ่มใช้ได้เลยเหมือนกันกับ เซบีย่า อูปาแมร์กาโน่ เลยไปโผล่อีกรายการให้กับฝรั่งเศส แทน แต่ว่าเป็นชุดเล็กในศึก ยูโร ยู 21 ที่ฝรั่งเศส แหวกด่านเข้าไปถึง รอบรองชนะเลิศ มาแล้ว ซึ่งยังไงซะ อนาคตเขาก็ได้ติดทีมชุดใหญ่ของทีม “ตราไก่” อย่างแน่นอน

เซ็นเตอร์แบ็ก : เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ - ลิเวอร์พูล

ตามการคาดการณ์แล้วยังไง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ก็ต้องมีชื่อเป็นหนึ่งในขุนพลของ ทีมชาติฮอลแลนด์ ชุดสู้ศึก ยูโร 2020 อย่างแน่นอน แต่เนื่องด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บที่เอ็นไขว้หน้าหัวเข้าฉีกขาดทำให้พี่แกต้องพักรักษาตัวยาวทั้งฤดูกาล 2020-21 โดยที่ไม่ได้โอกาสได้ช่วย ลิเวอร์พูล ป้องกันแชมป์เลย ถึงมันจะมีความเป็นไปได้ที่เจ้าตัวจะหายทันเพื่อช่วยชาติในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งนี้ แต่สุดท้ายตัวของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ก็จำใจที่จะปฏิเสธไป เพราะอยากใช้เวลาพักฟื้นและเรียกความฟิตให้กลับมาสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซนต์มากกว่า ถ้าเกิดฝืนสังขารไปและเจ็บขึ้นมาอีกมันจะส่งผลด้านลบเยอะมากต่อตัวเขาเองและกับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลหน้า ที่สำคัญ รายการใหญ่ต่อไปก็ไม่ได้ต้องรอนานขนาดนั้น นั่นก็คือศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่ กาตาร์ ว่าแล้วพักให้หายขาดน่าจะดีกว่า

เซ็นเตอร์แบ็ก : เซร์คิโอ รามอส - เรอัล มาดริด

มีคำครหาและเสียงวิจารณ์ค่อนข้างเยอะกับการที่ เซร์คิโอ รามอส ไม่มีชื่อเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของ ทีมชาติสเปน ชุดล่าแชมป์ ยูโร 2020 ทั้งที่เขาเป็นผู้เล่นที่รับใช้ทีมชาติมานาน มีประสบการณ์โชกโชนในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ มีความแข็งแกร่งและหวังผลได้ในหลายๆ เรื่อง เรียกได้ว่าเป็นผู้เล่นที่ทรงอิทธิพลที่สุดในก๊วน "กระทิงดุ" ชุดนี้เลยก็ว่าได้ แต่ หลุยส์ เอ็นริเก้ กลับตัดสินใจเรียก เอริค การ์เซีย, อายเมอริค ลาปอร์กต์ และ ดีเอโก้ ยอเรนต้ ที่ก็ไม่ได้ลงเล่นมากกว่ารามอสสักเท่าไหร่   ดราม่าต่าง ๆ เลยถูกหยิบยกมา เรื่อง ความเป็น บาร์ซ่า กับ เรอัล มาดริด และอีกหลาย ๆ เรื่อง แต่ว่าจริง ๆ ก็ต้องยอมรับว่าในปีนี้สภาพร่างกายของ รามอส มันก็น่าเป็นห่วงจริง ๆ เขาไม่ได้ลงเล่นช่วยทีม “ราชันชุดขาว” แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย และพอลงมาก็เล่นไม่ดี อีกอย่างในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ ที่แพ้ให้กับ เชลซี มันก็เลยน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ เอ็นริเก้ ไม่เรียกเขาไปติดทีม

แบ็กซ้าย : เซร์คิโอ เรกีลอน - ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

ตำแหน่งแบ็กซ้าย ทีมชาติสเปน ถ้ายืนหนึ่งชั่วโมงนี้ก็คงต้องยกให้ จอร์ดี้ อัลบา จาก บาร์เซโลน่า อย่างมิต้องสงสัย แต่การที่ หลุยส์ เอ็นริเก้ เรียก โฆเซ่ กาย่า มาเป็นตัวอะไหลค่อยสับเปลี่ยนก็ให้ความรู้สึกที่ดูแปลกๆ ไปเหมือนกัน เพราะปีที่ผ่านมา บาเลนเซีย ก็อยู่ในยุคที่ตกต่ำไม่ได้ต่างอะไรจากทีมที่หนีตกชั้นเลย ผลงานส่วนตัวก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร เมื่อเทียบกับ เซร์คิโอ เรกีลอน ที่ฉายแววได้ค่อนข้างดีกับการย้ายไปค้าแข้งกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มันดูดีกว่ากันเยอะเลย เขามีส่วนร่วมเยอะกับการเติมเกมบุกและการสร้างสรรค์โอกาสที่มากมาย กดไป 7 แอสซิสต์จากการลงเล่น 34 เกม อันนี้ก็ไม่รู้กันว่า หลุยส์​ เอ็นริเก้ มองอย่างไร จริง ๆ เอาไปติดทีมซะหน่อยก็ไม่น่าจะเสียหาย

มิดฟิลด์ : ซาอูล ญิเกซ - แอตเลติโก มาดริด

การหายไปของ ซาอูล ญิเกซ ในชุดล่าแชมป์ ยูโร 2020 ของ ทีมชาติสเปน ก็จัดว่าเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์เหมือนกัน เพราะนี่คือกองกลางที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดและสารพัดประโยชน์ที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้เลย เขาเป็นกำลังสำคัญของ แอตเลติโก มาดริด ในยุคของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ มา 7 ปีเต็ม มีบทบาทสำคัญมากมาย ส่วนสาเหตุ ซาอูล ญิเกซ ไม่มีชื่อติดทีมในครั้งนี้่คาดว่าน่าจะเป็นเพราะโอกาสการลงเล่นที่ไม่สม่ำเสมอเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา และในขณะเดียวกันผู้เล่นคนอื่นๆ รวมถึงหน้าใหม่ก็ทำผลงานได้ค่อนข้างเข้าตาเลยทีเดียว

มิดฟิลด์ : เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า - แรนส์

เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า เป็นเด็กวันเดอร์คิดที่น่าจับตามองมากๆ ในแวดวงลูกหนังฝรั่งเศส เขาเป็นตัวหลักให้กับ แรนส์ มาตั้งแต่อายุแค่ 16-17 ปี โดดเด่นมากๆ ในเรื่องของเกมรับ มีทักษะสกิลการผ่านบอลที่ดีซึ่งช่วยให้ทีมพลิกจังหวะเป็นเกมสวนกลับได้ มันก็น่าเสียดายที่เขาไม่มีชื่อในทีมชุดนี้ แต่มันก็เข้าใจได้ดีเพราะ ฝรั่งเศส ก็มีผู้เล่นกองกลางดีๆ และรับบทบาทแบบไอ้เด็กนี่อยู่หลายคน บางทีตอนนี้มันอาจจะยังเร็วไปสำหรับ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า กับการไปผจญภัยในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ ด้วยอายุเพียงแค่นี้

มิดฟิลด์ : มาร์โก รอยส์ - โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

มาร์โก รอยส์ ดวงค่อนข้างอาภัพกับการเล่นให้ ทีมชาติเยอรมัน เพราะที่ผ่านมาพี่แกต้องพลาดศึกใหญ่ถึง 2 ปีติดต่อกันนั่นก็คือ ฟุตบอลโลก 2014 และ ยูโร 2016 เพราะดันเจอปัญหาอาการบาดเจ็บช่วงใกล้วันแข่งทัวร์นาเมนต์จริงพอดี พอมาปีนี้ถึงแม้จะโชว์ฟอร์มได้ดีกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แต่สุดท้ายพี่แกก็จำใจขอปฏิเสธไม่รับใช้ชาติดีกว่า โดยให้เหตุผลว่าอยากใช้เวลาช่วงนี้พักฟื้นร่างกายหลังจากกรำศึกหนักมาตลอดทั้งซีซั่น อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้เหล่าบรรดาแข้งหน้าใหม่ได้สัมผัสประสบการณ์กับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ บ้าง

กองหน้า : เมสัน กรีนวู้ด - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

11 ประตู 5 แอสซิสต์จากการลงเล่น 49 เกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจเป็นสถิติที่ไม่ได้ปังเท่าฤดูกาลก่อน แต่สำหรับ เมสัน กรีนวู้ด กับอายุแค่เพียง 19 ปีก็ถือเป็นตัวเลขที่ไม่เลวเลย เขามีชื่อติด ทีมชาติอังกฤษ ชุดเบื้องต้น 33 คนแรกกับการล่าแชมป์ ยูโร 2020 แต่สุดท้ายกลับตัดสินใจประกาศขอถอนตัวไปเนื่องจากต้องการใช้เวลาพักฟื้นร่างกายเพื่อเตรียมตัวสำหรับฤดูกาลถัดไป ถึงประสบการณ์จะน้อยแต่ก็ถือว่าน่าเสียดายสุดๆ เพราะตัวของ กรีนวู้ด เองก็กำลังฉายแววได้ดี และก็สามารถเป็นตัวเลือกให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต ได้ทั้งตำแหน่งกองหน้าและตำแหน่งริมเส้น

กองหน้า : ซลาตัน อิบราฮิโมวิช - เอซี มิลาน

ทีมชาติสวีเดน ดูจะเสียขวัญกำลังใจไปไม่ใช้น้อยกับการที่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช มีปัญหาอาการบาดเจ็บจนพลาดโอกาสในการสู้ศึก ยูโร 2020 หนนี้ทั้งที่เจ้าตัวเพิ่งประกาศกลับมารับใช้ชาติอีกครั้งเมื่อไม่นานนี้เอง แถมยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมแม้อายุอานามจะปาเข้าไป 39 ปีแล้วก็ตาม การซัลโวไปกระจุยถึง 17 ประตูจากการลงเล่น 27 เกมพร้อมกับพา เอซี มิลาน กลับมาลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว การคว้าโควต้าไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปีหน้า รวมถึงการสร้างอิมแพ็คและอิทธิพลต่างๆ ในกับคนรอบข้าง มันไม่ใช่สิ่งที่ใครก็ทำได้สำหรับคนอายุขนาดนี้ การไม่มีชื่อของเขาในทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2020 นับว่าเป็นเรื่้องที่เสียหายหลายแสนจริงๆ สำหรับ ทีมชาติสวีเดน และในอนาคตข้างก็ไม่รู้ว่าจะมีใครสามารถก้าวขึ้นมาแทนที่้พี่แกได้หรือไม่

HaMu Dos Santos