5 ข้อชัดๆ หลัง "ทีมชาติไทย" ได้แค่เจ๊า อินโดฯ 2-2

ถือเป็นธรรมเนียมไปแล้วกับการวิเคราะห์หลังเกมของ ทีมชาติไทย หลังจบการแข่งขัน ซึ่งเกมกับ อินโดนีเซีย ในค่ำคืนที่ผ่านมาก็้ช่นเดียวกัน

หลังจากที่ทำได้แค่ 1 คะแนน ซึ่งถือว่าเสียหายพอสมควรกับทั้งความมั่นใจของผู้เล่น และผลบนตารางคะแนน เพราะมันทำให้เรามีโอกาสน้อยลงกับการลุ้นเข้ารอบต่อไป วันนี้ ทีมงานขอบสนามบอลไทย จะมาวิเคราะห์กันเป็นข้อๆ แบบชัดๆ แบ่งเป็น 5 ข้อใหญ่ๆ ว่าเห็นอะไรบ้างหลัง ทีมชาติไทย เสมอ อินโดนีเซีย ...  

ชัดข้อแรก ... ผู้เล่นตัวจริงชุดนี้แปลกตา !!!

ต้องยอมรับว่า 11 ตัวจริงของ ทีมชาติไทย นัดนี้มาผิดคาดหลายตำแหน่งทั้ง เซ็นเตอร์ ที่มี สุพรรณ ทองสงค์ มาประจำการ , แบ็กซ้ายที่ไม่ใช่ ศศลักษณ์ ไหประโคน แต่เป็น เออร์เนสโต้ ภูมิภา รวมไปถึง ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร เด็กจาก เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เพิ่งมาร่วมซ้อมกับทีมได้ไม่นาน ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง และด้วยชุดที่ไม่คุ้นนี้น่าจะทำให้เรายังจับจังหวะจะโคนการเล่นของกันและไม่ค่อยถูกเท่าที่ควร ซึ่งตรงนี้ต้องไปถาม นิชิโนะ แล้วล่ะคิดยัไงกับการส่งชุดนี้ลงบู๊

 

ชัดที่สอง ... ครึ่งแรกดีกว่า แต่จบด้วยเสมอ !!!

45 นาทีแรกเป็นเกมที่ ทีมชาติไทย ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทั้งประตูขึ้นนำเร็ว, ทั้งการครองเกม, ทั้งโอกาสในการจบสกอร์ แต่สุดท้ายกลับมาโดนตีเสมอในช่วง 5 นาทีสุดท้าย ซึ่งต้องชมการเข้าทำของ อินโดฯ ด้วยที่ทำได้แม้โอกาสจะน้อยมาก และการโดนตีเสมอแบบนี้ ทำให้เราเล่นยากขึ้นเมื่อกลับมาลุยในครึ่งหลัง

 

ชัดที่สาม ... นำ 2 ครั้งแต่ฆ่า อินโดฯ ไม่ตาย  !!!

ประตูขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่ต้นครึ่งแรก กับประตูขึ้นนำ 2-1 ในช่วงต้นครึ่งหลัง แต่สุดท้ายไม่สามารถรักษาสกอร์ อันนี้แน่นอนว่าเราต้องโทษตัวเองที่เสียสมาธิทำให้เสียทั้ง 2 ประตู โดยเฉพาะการเสียประตูในช่วง 5 นาทีสุดท้ายที่เราไม่ควรโดนแต่เรากลับโดน (ครึ่งแรก) เช่นเดียวกับประตูตีเสมอ 2-2 เสียทั้งทีคุมเกมไว้ได้หมดแล้ว และมันเสียหายหนักเพราะสุดท้ายแล้วเราไม่สามารถยิงประตูที่ 3 ได้

 

ชัดที่สี่ ... เกมรับฝั่งซ้ายโดนเจาะตลอด !!!

เกมแรกอย่างเป็นทางการในนามทีมชาติไทยของ เออร์เนสโต้ ภูมิภา ที่ได้โอกาสก่อนตัวเต็งในตำแหน่งแบ็กซ้ายอย่าง ศศลักษณ์ ไหประโคน แต่กลับโดนเจาะตลอดเกือบๆ 80 นาทีที่อยู่ในสนาม ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาอาจจะยังใหม่ และยังไม่เข้าใจกับเพื่อนๆในเกมรับเท่าไหร่นัก แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เราที่เห็น ในจุดนี้ อินโดฯ ก็คงเห็นเหมือนกันและเขาก็ใช้มันโจมตีเราซึ่งมันก็ได้ผลด้วย

 

และชัดที่ห้า ... เสมอเกมนี้อาจส่งผลถึงชวดอันดับ 2

แน่นอนว่าข้อที่เห็นชัดที่สุดคงหนีไม่พ้นสถานการณ์ของ ทีมชาติไทย หลังจบด้วยการเสมอกับ อินโดฯ ในเกมนี้ แม้ว่าจะไม่แพ้ แต่การได้แค่ 1 คะแนนอาจจะน้อยเกินไป และยังทำให้โดน ยูเออี แซงขึ้นไปแล้ว แถมเรายังแข่งมากกว่าด้วย ดังนั้นจากนี้ 2 เกมสุดท้ายกับ ยูเออี และ มาเลเซีย ไม่มีทางเลือกอื่นให้เดินแล้วสำหรับ ช้างศึก ตัวนี้แล้ว นอกจากชนะและต้องชนะสถานเดียวเท่านั้นด้วย หากหลุดเสมอหรือแพ้แม้แต่เกมเดียว ก็กลับมาว่ากันใหม่ในบอลโลกสมัยหน้าทันที

 

บทความโดย : บอลกูรู (เจษดาพร ศรีสรง)

  ติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ไลน์ขอบสนาม