logo-heading

มหากาฬระหว่าง จาดอน ซานโช่ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงดำเนินต่อไปอย่างอีรุงตุงนัง อย่างล่าสึดก็มีกระแสข่าวว่า “ปีศาจแดง” ขยับเข้าใกล้การปิดดีลแล้วด้วยค่าตัวราว 80 ล้านปอนด์

ซึ่งถ้าดีลนี้มันลุล่วงนั้นเท่ากับว่า ยูไนเต็ด จะได้เด็กดาวรุ่งเข้าสู่สังกัดอีกรายตามนโยบายการทำทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา  แต่ทว่าในบางทีการได้แข้งเด็ดแทบค่าตัวแพงมันก็ไม่ได้การันตีผลงานที่ยอดเยี่ยมเสมอไป ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราจะพาไปย้อนอดีตไปดูดีลดาวรุ่งเด่นๆ ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าเข้ามาสู่ทีมกันว่าใครคนนั้นมันปัง หรือมันพังกันบ้าง ซึ่งการคัดสรรมาครังนี้ก็อิงจากค่าตัวในช่วงเวลานั้นที่มันอาจดูไม่ได้แพงในตอนนี้ แต่สำหรับในห้วงเวลานั้นราคาก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

ดาบิด เด เคอา (18.9 ล้านปอนด์, จาก แอต.มาดริด)

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ 2011 แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการหาตัวแทนของ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายทวารวัยเก๋าที่กำลังจะประกาศแขวนถุงมือ ซึ่งจุดเริ่มต้นการคว้าตัวในครั้งนั้นคือ เอริค สตีล อดีตโค้ชผู้รักษาประตูของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เปิดวิดีโอลีลาการเซฟของ เด เคอา ในวัย 20 ปีให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ดู ก่อนที่ "ป๋าเฟอร์กี้" จะประทับใจในฝีไม้ลายมือของเด็กหนุ่มแดนกระทิงคนนี้เหลือเกิน ซึ่งป๋าชื่นชอบถึงขนาดที่ทิ้งการคุมทีมข้างสนามในศึกลีก คัพ เพื่อเดินทางไปสเปนดูผลงานของ เด เคอา สดๆ ข้างสนามกับตาตัวเอง ก่อนที่จะตัดสินชี้นิ้วสั่งการว่าเด็กคนนี้แหละคือตัวแทนของนายด่านชาวฮอลแลนด์ ก่อนที่ในซัมเมอร์นั้นเอง "ปีศาจแดง" จะปิดดีลได้สำเร็จด้วยค่าตัว 18.9 ล้านปอนด์ ซึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้วกับตำแหน่งผู้รักษาประตูถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงพอสมควร จะว่าไปช่วงแรกของ เด เคอา ที่อังกฤษเขาปรับตัวได้ยากลำบากพอควร โดยเฉพาะในสนามที่โดนเล่นงานด้วยลูกกลางอากาศอยู่บ่อยครั้ง แต่ทว่าท้ายที่สุดเขาก็สามารถเรียนรู้ เก็บประสบการณ์จนก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนายทวารฝีมือแจ่มคนนึงของลีก และอยู่รับใช้ตรา "ปีศาจแด" มาแล้วถึง 10 ปีเต็ม ฉะนั้นถ้าถามว่า เด เคอา สอบผ่านไหมกับการย้ายมาค้าแข้งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บอกเลยว่านี่คือดีลที่โคตรคุ้มค่า และทีมใช้งานได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากเหลือเกิน แต่ทว่าก็ไม่แน่ว่าเขากับทัพ "ผีแดง" อาจจะต้องแยกทางกันเสียแล้วในช่วงซัมเมอร์นี้ ใครผ่าน-ใครตก? ยลโฉมแข้งดาวรุ่งที่ แมนยูฯ เคยซื้อมาราคาแพง

เมมฟิส เดปาย (25 ล้านปอนด์, จาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น)

อดีตดาวรุ่งที่โคตรพุ่งแรงของวงการฟุตบอลลีกฮอลแลนด์ เดปาย สร้างชื่อด้วยการเป็นสุดยอดดาวยิงของ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น จนถึงขั้นเคยเป็นดาวซัลโวของศึกเอเรดิวิชี่มาแล้วเมื่อซีซั่น 2014-15 ด้วยการกระหน่ำไป 22 ประตู ซึ่งด้วยความร้อนแรงของฝีเท้าทำให้ ยูไนเต็ด จัดการหอบเงิน 25 ล้านปอนด์ไปสู่ขอ เดปาย ในวัย 21 ปี มาเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ 2015 ด้วยฝีเท้าที่โดดเด่น และเบอร์เสื้อหมายเลข 7 ทำให้แฟนบอล "ปีศาจแดง" ค่อนข้างคาดหวังกับผลงานของดาวรุ่งคนนี้ไม่น้อย แต่ทว่าพอได้ยลโฉมจริงๆ ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปเสียหมด หรือเรียกได้ว่าล้มเหลวแบบสุดๆ 53 เกมที่เขาลงสนามสามารถทำไปได้เพียง 7 ประตู บวกกับอีก 6 แอสซิสต์ ก่อนที่จะแยกทางกันไปในอีก 2 ปีถัดมา ซึ่งหลังจากออกจากทัพ "ปีศาจแดง" ชีวิตลูกหนังของ เดปาย ก็กลับมาโชติช่วงอีกครั้ง การได้ย้ายไป โอลิมปิก ลียง เหมือนเป็นการชุบชีวิตให้เขากลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง จังหวะกระชากลากเลื้อย หรือยิงประตู ทุกอย่างมันเหมือนเมื่อครั้งที่เขากับทำ พีเอสวี อย่างไงอย่างงั้น หรือว่าจริงๆ แล้วมันจะเป็นอย่างที่เขาเคยพูดเอาไว้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เคยเห็นสิ่งที่ดีที่สุดจากตัวของเขา รวมไปถึงความกดดันที่ถาโถมมาใส่เด็กอย่างเขาในวันนั้นมากเกินไปทำให้ภาพที่ออกมามันเลยไม่ค่อยเป็นที่น่าจดจำสักเท่าไหร่นัก

ลุค ชอว์ (30 ล้านปอนด์, จาก เซาแธมป์ตัน)

แบ็คซ้ายดาวรุ่งที่ทำผลงานกับ เซาแธมป์ตัน ได้อย่างโดดเด่น จน แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเจรจาเพื่อคว้าตัวมาร่วมทัพ ซึ่งในวันที่ ชอว์ ย้ายมาสวมเครื่องแบบตรา "ปีศาจแดง" เขาเพิ่งมีอายุเพียง 17 เท่านั้น และยังไม่ได้พิสูจน์ผลงานในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มากมายนัก แต่ทว่าด้วยความเป็นแข้งชาวอังกฤษค่าตัวมันเลยดูโอเวอร์เกินความเป็นจริงไปหน่อย ตัวเลข 30 ล้านปอนด์คือค่าตัวของเด็กหนุ่มคนนี้ พร้อมกับถือครองสถิติเป็นนักเตะดาวรุ่งค่าตัวแพงสุดของโลก ณ เวลานั้นอีกด้วย ซึ่งผลงานของ ชอว์ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด จะว่าไปก็เหมือนขึ้นรถไฟเหอะเหมือนกันจากผลงานดี ก็มาได้รับบาดเจ็บหนัก หายเจ็บกลับมาก็ไม่อาจเรียกฟอร์มเก่งได้ ไหนจะเคยถูกตัดชื่อออกจากทีม เป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น ก่อนที่ปัจจุบันจะเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้อีกครั้ง จนถูกเรียกไปติดทีมชาติอังกฤษลุยศึกยูโร 2020 ตลอด 7 ปีของ ชอว์ มันก็พอจะตอบได้ว่าเงินที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ลงทุนไปในวันนั้นมันเป็นการซื้ออนาคตอย่างแท้จริง เพราะวันนี้เจ้าตัวก็เพิ่งอายุ 25 ย่าง 26 ปีเท่านั้น ยังมีเวลาให้ใช้งานอีกเยอะ ฉะนั้นแล้วเงินจำนวน 30 ล้านปอนด์ที่สุดแพงในวันนั้นดูเหมือนในวันนี้มันก็เริ่มตอบแทน และแสดงความคุ้มค่าออกมาแล้ว ใครผ่าน-ใครตก? ยลโฉมแข้งดาวรุ่งที่ แมนยูฯ เคยซื้อมาราคาแพง

อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (56 ล้านปอนด์, จาก โมนาโก)

ดีลที่เซอร์ไพรส์พอสมควรเพราะต้องยอมรับกันตามตรงว่าในช่วงเวลานั้นชื่อของ มาร์กซิยาล เองก็ไม่ได้โดดเด่นมากมายนักกับการสวมเสื้อ โมนาโก ในการไล่ล่าประตู แต่ทว่าฝีเท้าอาจจะได้โดนใจ หลุยส์ ฟาย กัล กุนซือของทีมในตอนนั้นเลยทำหารเดินหน้าคว้าตัวมาครอง ซึ่ง มาร์กซิยาล เองก็เปิดตัวได้อย่างสวยงามด้วยการยิงประตูใส่คู่รักคู่แค้นอย่าง ลิเวอร์พูล และฟอร์มหลังจากนั้นก็ถือว่าอยู่ในขั้นที่น่าพอใจจบฤดูกาลแรกเจ้าตัวซัดไป 18 ประตู จาก 56 นัด แต่ทว่าหลังจากนั้นดูเหมือนฝีเท้าของเขาจะไม่ได้พัฒนามากเท่าไหร่นักไม่ได้ยิงประตูเป็นกอบเป็นกำตามที่แฟนบอลคาดหวังเอาหวัง จนกระทั่งซีซั่นที่แล้วผลงานของ "เจ้าหมาก" ดูเหมือนจะเข้าที่เข้าทางมากที่สุดด้วยการกระหน่ำไปถึง 23 ตุง จาก 48 นัด แน่นอนด้วยผลงานเมื่อปลายฤดูกาลก่อนมันทำให้แฟนบอลคาดหวังว่าเขาจะดีดตัวเองขึ้น และก้าวขึ้นมาเป็นตัวความหวังของทีมได้ แต่ทว่าดูเหมือนสิ่งที่คิดกับความเป็นจริงจะแตกต่างกัน มาร์กซิยาล ไม่ได้อยู่ในจุดที่ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม แถมประสิทธิภาพดูจะต่ำกว่ามาตรฐานไปด้วยซ้ำ จนทำให้แฟนบอล "ปีศาจแดง" บางกลุ่มเริ่มไม่พอใจกับผลงานของเจ้าตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง 6 ฤดูกาลภายใต้โลโก้ "ปีศาจแดง" ผนวกกับเงินที่ลงทุนไปทีมอาจจะไม่ได้ผลงานที่น่าพึ่งพอใจมากนัก ทว่าถ้ามองอีกมุมปัจจุบัน มาร์กซิยาล เพิ่งอายุเพียง 25 ปี ยังมีเวลาในการพาตัวเองมีผลงานที่ดีอีกครั้ง และสามารถแบกความหวังของแฟนบอลได้ แต่คำถามคือวันนั้นมันจะมาถึงเมื่อไหร่ ซึ่งเราก็ไม่อาจทราบได้ว่าระหว่างผลงานกระฉูดแตก กับถูกปล่อยออกจากทีมตัวเลือกไหนมันจะมาถึงก่อนกัน

อารอน วาน-บิสซาก้า (50 ล้านปอนด์, จาก คริสตัล พาเลซ)

อีกหนึ่งกองหลังค่าตัวแพงที่ แมนฯ ยูไนเต็ด นำเข้ามา โดยดีลของ วาน-บิสซาก้า เกิดขึ้นเมื่อช่วงซัมเมอร์ 2019 ภายหลังเจ้าตัวโชว์ผลงานกับ คริสตัล พาเลซ ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะจังหวัดตัดบอลจากคู่แข่งที่เหมือนเป็นลูกเก่งของแนวรับผู้นี้จนได้รับฉายาว่า "ไอ้แมงมุม" โดยผลงานของฟูลแบ็ควัย 23 ปีก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แม้จะมีบ้างในบางนัดที่มาตรฐานของเขาจะตกหล่นไปแต่ 2 ฤดูกาลกับทัพ "ปีศาจแดง" เขาก็แสดงศักยภาพออกมาให้เห็นแล้วว่าดีมากพอในการยึดเป็นแบ็คขวาตัวเลือกแรกของสโมสร ส่วนถ้าให้จะบอกว่าคุ้มค่าหรือยังกับการลงทุนครั้งนี้ คงยังตอบได้ไม่เต็มปากมากนัก แต่อย่างน้อยมันก็มีสัญญาณดีขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องของฝีเท้า และการพัฒนาตัวเอง อีกทั้งอายุที่เพิ่งจะ 23 ปี ยังคงมีเวลาอีกมากให้ วาน-บิสซาก้า พัฒนาตัวเองก้าวขึ้นไปเป็นยอดฟูลแบ็คของพรีเมียร์ลีก ใครผ่าน-ใครตก? ยลโฉมแข้งดาวรุ่งที่ แมนยูฯ เคยซื้อมาราคาแพง

ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค (40 ล้านปอนด์, จาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม)

ดีลที่เพิ่งเกิดขึ้นแบบสดๆ ร้อนๆ เมื่อช่วงซัมเมอร์ 2020 ที่ผ่านพ้นไป ด้วยผลงานของ ฟาน เดอ เบค สมัยค้าแข้งกั อาแจ็กซ์ ก็ต้องยอมรับว่าเจ้าเด็กคนนี้มีฝีเท้าที่ไม่ธรรมดา และแทบจะเป็นคนท้ายๆ ของรุ่นพวกเขาที่เก็บกระเป๋าย้ายออกมาจากทัพ อาแจ็กซ์ เพราะก่อนหน้านั้นไม่ว่าจะเป็น มัตไธส์ เด ลิกต์ หรือ เฟรงกี้ เดอ ยอง ก็ต่างออกมาหาประสบการณ์ใหม่ๆ กันหมดแล้ว แต่ทว่าการผจญภัยครั้งนี้ของ ฟาน เดอ เบค ดูเหมือนมันจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเท่าไหร่นัก เนื่องด้วยซีซั่นที่ผ่านมากับ แมนฯ ยูไนเต็ด เจ้าตัวได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงเพียง 15 นัดเท่านั้น ทำให้ไม่อาจโชว์ฝีเท้าออกมาได้เต็มที่ แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าฝีเท้าของเขามันมีดีอยู่ในตัวอยู่แล้ว รอเพียงโอกาสเท่านั้นที่เปิดประตูให้เขาได้ปล่อยของออกมา ฉะนั้นในดีลนี้เราอาจจะยังสรุปไม่ได้ว่ามันพังหรือปัง เพราะด้วยโอกาสที่จำกัด ว่าแล้วฤดูกาลหน้ามันอาจเป็นตัวตัดสินก็ได้ว่า ฟาน เดอ เบค กับ แมนฯ ยูไนเต็ด บทสรุปสุดท้ายมันจะออกไปในทิศทางไหนกันแน่

- Paolinho -

logoline