จบไปเป็นที่เรียบร้อย ในการแข่งขัน คู่ระหว่าง เบลเยี่ยม กับ โปรตุเกส โดยเป็น ปีศาจแดงแห่งยุโรป เฉือนเอาชนะไปได้ 1-0 จากลูกซัดไกลของ ธอร์กอง อาซาร์ ซึ่งรูปเกมต้องบอกว่าเป็นไปอย่างตึงเครียด สู้กันด้วยแท็คติค ไม่สนุกแบบที่หลายคนคิดไว้
แต่กระนั้นพอมีประตูแรก เกมมันก็เริ่มเปิดมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงท้ายครึ่งหลัง ที่ โปรตุเกส ปูพรมบุกใส่ เบลเยี่ยม ซึ่งทัพ ฝอยทอง มีโอกาสตีเสมอหลายครั้ง แต่ก็พลาดไปหมด มันมีเหตุการณ์อะไรน่าสนใจ ไปติดตามประเด็นที่เกิดขึ้นในเกมนี้กันครับพี่น้อง
- โปรตุเกส ดูดีกว่า แต่โอกาสก็ไม่เยอะ
ช่วงต้นเกม เหมือนว่านักเตะทั้ง 2 คน เครื่องยังไม่ร้อน เพราะแทบไม่มีจังหวะหวาดเสียวเลย โดยการเข้าทำก็ขาดๆเกินๆ พอมีจังหวะก็ยิงนกตกปลากันไปหมด ซึ่งก็ต้องชื่นชมแนวรับของ ทั้ง เบลเยี่ยม และ โปรตุเกส เช่นกัน ที่ทำผลงานกันได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ปล่อยช่องว่างให้แนวรุกคู่แข่งได้สร้างสรรค์โอกาส กระทั่งเข้าสู่นาที 25 มีช็อตที่ โปรตุเกส ได้ลุ้นทำประตู จากลูกฟรีคิกของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ระยะไม่ไกล แต่มันเยื้องไปทางขวา ทำให้มีมุมยิงไม่มากนัก ก่อนที่ ซีอาร์ 7 จะใช้ท่าซิกเนเจอร์ ยิงหลังเท้า บอลพุ่งผ่านกำแพง แต่วิถีมันไปทางที่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ยืนอยู่ ทำให้ปัดออกมาได้ จะมีตัวโหม่งซ้ำ แต่ก็ลอยโด่งไปเข้ามือ กูร์กตัวส์ อีกครั้ง- ครึ่งแรกกำลังหมดเวลา แต่ อาซาร์ ซัดขึ้นนำ
ด้วยความที่ ยักษ์ใหญ่เจอกัน ทำให้แฟนบอลคาดหวังว่าคู่นี้ จะต้องสนุก และ ตื่นเต้น แลกกันหมัดต่อหมัด แต่ไม่ใช่แบบนั้นครับ เพราะนัดสำคัญ ต่างฝ่ายต่างดูเชิง ไม่มีใครอยากเพลี่ยงพล้ำไปก่อน ทำให้รูปเกมค่อนข่างอึดอัด และ น่าเบื่อไปนิด เผลอๆหลายคนอาจจะรู้สึกง่วงเหงาหาวนอนก็เป็นได้ แต่กระนั้นก่อนจบครึ่งแรกแค่ไม่กี่นาที ก็มีช็อตที่ทำให้แฟนบอลต้องตาลุกวาว และ เชื่อว่าครึ่งหลังต้องสนุกแน่นอน เพราะ เบลเยี่ยม กลายเป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน 1-0 ทั้งๆที่มีจังหวะเข้าทำไม่มากนัก เมื่อ โธมัส มูนิเย่ร์ ไหลถ่างออกมาด้านซ้ายให้กับ ธอร์กอง อาซาร์ ซึ่งตอนที่ ธอร์กอง อาซาร์ จับบอล เขาเงยหน้ามองคู่แข่ง และ เห็นว่าไม่มีผู้เล่น โปรตุเกส เข้ามาบีบพื้นที่ เลยสบโอกาสลองสับไกลจากนอกกรอบเขตโทษ ด้วยระยะน่ารักน่าลุ้น บอลพุ่งส่าย ติดไซร้ก้อยหนีมือ รุย ปาตริซิโอ ผู้รักษาประตู โปรตุเกส เข้าไปซุกตาข่ายอย่างสวยงาม ทำให้ ปีศาจแดงแห่งยุโรป ขึ้นนำ 1-0 แบบเวลาที่พอเหมาะพอเจาะจริงๆ- ครึ่งหลัง โปรตุเกส บุกแหลก หวังตีเสมอ
เริ่มครึ่งหลังไม่นาน ข่าวร้ายมาเยือน เบลเยี่ยม ทันที เมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ มีอาการบาดเจ็บ เล่นต่อไม่ไหว ทำให้ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ต้องยอมจำใจเปลี่ยนตัวออกจากสนาม และ ส่ง ดรีส์ เมอร์เท่นส์ ลงมาเล่นแทน ซึ่งแน่นอนว่าการขาด "เคดีบี" ทำให้เกมรุกขาดความอันตรายไปเยอะ และ นั่นเป็นโอกาสที่ทำให้ โปรตุเกส ได้เดินหน้าบุกใส่ เบลเยี่ยม โดย นาที 58 ขุนพล ฝอยทอง น่าได้ประตูตามตีเสมอแบบสุดๆ เมื่อ โรนัลโด้ โยกตัวเองมาอยู่ด้านขวา ก่อนจะทำชิ่ง วัน-ทู กับเพื่อน และ ส่งบอลต่อให้กับ ดิโอโก้ โชต้า ซึ่งรออยู่ในกรอบเขตโทษ จริงๆลูกนี้เป็นลูกเก่งของ โชต้า โดยใช้ตัวพิงคู่แข่ง และ จับด้วยซ้าย ก่อนซัดเร็วด้วยเท้าขวา บอลผ่านบล็อคคู่เซ็นเตอร์แบ็ก เบลเยี่ยม ไปแล้ว แต่บอลมันเหินข้ามคานนิดเดียวเท่านั้น- โปรตุเกส ได้โขกเต็มหัว แต่บอลตรงตัวผู้รักษาประตู
โอกาสอีกครั้งของ โปรตุเกส ต้องบอกว่าคราวนี้ใกล้เคียงสุดๆ โดยเป็นจังหวะลุ้นลูกเตะมุมจากด้านขวา .. บรูโน่ แฟร์นานเดส ซึ่งลงมาเป็นตัวสำรอง บรรจงเปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษ คราวนี้นักเตะ โปรตุเกส สามารถเอาชนะลูกกลางอากาศ เบลเยี่ยม ได้แล้ว และเป็น รูเบน ดิอาส พุ่งทะยานตัวสปริงข้อเท้า ขึ้นมากระโดดโขกเต็มหัว แต่น่าเสียดายที่บอลมันพุ่งแรงก็จริง แต่ไปตรงตัว ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายทวารทีมชาติเบลเยี่ยม จึงผวาปัดเอาไว้ได้ นับเป็นช็อตสำคัญที่ทำให้ ปีศาจแดงแห่งยุโรป ยังคงรักษาสกอร์นำ 1-0 ต่อไป- โปรตุเกส โชคไม่เข้าข้าง ได้ยิงแต่บอลชนเสา
แฟนบอล เบลเยี่ยม ตูดไม่ติดเก้าอี้แล้วล่ะครับ เพราะต่อให้สกอร์ยังนำอยู่ 1-0 แต่ช่วงท้ายเกมต้องบอกว่าโดน โปรตุเกส บดบี้อย่างหนัก และ มีโอกาสเสียประตูตีเสมอเหลือเกิน ซึ่งหลังจากที่ เบลเยี่ยม รอดตัวจากการลูกโขกของ รูเบน ดิอาส ก็มีจังหวะที่ โปรตุเกส น่าจะส่งบอลเข้าไปซุกตาข่ายเหลือเกิน เมื่อ ราฟาเอล เกร์เรโร่ แบ็กซ้ายของ ฝอยทอง วิ่งมาเก็บตกจากจังหวะบอลลอยโด่ง ซัลโวเต็มตีนขวา บอลพุ่งผ่านมือ กูร์กตัวส์ ไปแล้ว ทว่าเหมือนบุญมีแต่กรรมบัง เพราะบอลมันพุ่งไปชนเสา กระเด็นออกจากโซนอันตราย ทำเอาแฟนบอล โปรตุเกส กุมขมับด้วยความเสียดาย ส่วนกองเชียร์ เบลเยี่ยม เป่าปากโล่งใจอีกครั้ง- ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โปรตุเกส บุกยับ เบลเยี่ยม รอรับแล้วสวน
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เปิดหน้าแลกกันจัดๆ โดยเฉพาะ โปรตุเกส ที่ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อตีเสมอให้ได้ ซึ่งพวกเขาพยายามจะลองยิงไกล, ครอสจากด้านข้างเข้ามาในกรอบเขตโทษ แต่ไม่ทำออกไปเอง ก็ไปติดกองหลัง เบลเยี่ยม เสียหมด ขณะที่ เบลเยี่ยม ก็มีโอกาสปิดจ็อบหลายคน เพราะพวกเขาได้โต้กลับ ชนิดที่หลังบ้าน โปรตุเกส ปล่อยเหลือไว้แค่ 2 คน แต่กระนั้น ยานนิค การ์ราสโก้ มัวแต่เงื้อง่าราคาแพง ทำอะไรชักช้า จนทีมเสียจังหวะไปหมด โดยมีช็อตที่ เบลเยี่ยม ได้จังหวะสวนกลับ ดวล 2 ต่อ 2 กับกองหลัง โปรตุเกส .. เป็น การ์ราสโก้ ได้บอลวิ่งตีคู่ไปกับ ลูกากู ทันใดนั้นก็มี ยูริ เตเลมันน์ วิ่งเต็มมาช่วย แค่จ่ายให้ตรงตัว มีโอกาสยิงปิดบัญชีทันที แต่เหลือเชื่อที่ การ์ราสโก้ จ่ายไปติดแนวรับ เบลเยี่ยม ที่อยู่น้อยกว่าซะอย่างนั้น ทำให้ โปรตุเกส ยังไม่หมดหวัง ช็อตสุดท้ายก่อนหมดเวลา เจา เฟลิกซ์ ได้ทำชิ่ง วัน-ทู กับเพื่อน และ ได้ลองยิงตรงแถวหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลก็ยังถากเสา ไม่ได้ลุ้นอะไรเหมือนเดิม กระทั่งทดเวลาบาดเจ็บครบ 5 นาที ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน เป็น เบลเยี่ยม เฉือนเอาชนะ โปรตุเกส 1-0 จาก ธอร์กอง อาซาร์ ซึ่งพวกเขาจะผ่านเข้าไปพบกับตัวเต็งอย่างทีมชาติอิตาลี ซึ่งก็จะเป็น บิ๊กแมตช์ประจำรอบหน้าฮาย ฮาวดี้
