logo-heading

หลังจบเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ เกมแรก ที่ ลิเวอร์พูล เปิดถิ่นแอนฟิลด์ ไล่ถล่ม อาแอส โรม่า 5-2 สปอร์ตไลท์ฉายแสงไปหาชายที่ชื่อว่า "โมฮาเหม็ด ซาลาห์" แห่งสโมสร ลิเวอร์พูล

ดาวเตะทีมชาติอียิปต์ ผู้คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยม พีเอฟเอ ทำลายทุกกำแพงที่ขวางกั้น ด้วยการฉีกแนวรับ "หมาป่ากรุงโรม" เป็นชิ้นๆ ทั้งยิง 2 ประตู พร้อมกับอีก 2 แอสซิสต์ โดยฟอร์มเหล่านี้ทำให้บรรดากูรูวงการลูกหนัง และ แฟนบอล ต่างมองว่าปีนี้ ซาลาห์ ถึงขั้นมีโอกาสไปท้าชิงรางวัล "บัลลง ดอร์" กับ ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เลยทีเดียว

ฉะนั้นมาดูกันว่าปัจจัยใดบ้างที่จะทำให้ ซาลาห์ มีลุ้นปลดแอกรางวัล "บัลลง ดอร์" จาก 2 ซูเปอร์สตาร์ของโลก

6 ปัจจัยที่ ซาลาห์ ต้องทำหากหวังโค่นบัลลังก์ "บัลลง ดอร์"
  1. คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
  • คอมเมนท์จากบรรดากูรูลูกหนังหลายๆท่าน ต่างลงคะแนนเป็นเสียงเดียวกันว่า โม ซาลาห์ มีโอกาสไปเป็นคู่ต่อกรกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ ในการลุ้นล่ารางวัล "บัลลง ดอร์" ถ้าหากดาวเตะทีมชาติอียิปต์ สามารถพาทัพ "หงส์แดง" คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัย 6 มาครองได้ เพราะเจ้าตัวนับเป็น "เดอะ แบก" ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม จนกระทั่งถึงเกมเปิดบ้านถล่ม โรม่า 5-2 ในรอบตัดเชือก เกมแรก ด้วยการยิง 2 ประตู พร้อมกับอีก 2 แอสซิสต์ ดังนั้นปัจจัยสำคัญสุดของ ซาลาห์ ถ้าอยากได้ลุ้น "บัลลง ดอร์" ต้องเป็นแชมป์ยุโรปให้ได้ก่อนเท่านั้น
  1. ทำลายสถิติดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก
  • จริงๆแล้วข้อนี้ มันเป็นปัจจัยเสริมบารมีให้กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เพราะมันเป็นเครื่องการันตีเลยว่า เขาคือ "เครื่องจักรถล่มประตูตัวจริงเสียงจริง" ปัจจุบัน ซาลาห์ นำเป็นดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก ที่จำนวน 31 ประตู เทียบเท่ากับเหล่าตำนานอย่าง อลัน เชียร์เรอร์, หลุยส์ ซัวเรซ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ในระบบเกมลีก 38 นัด) โดยขออีกเพียงแค่ตุงเดียว ดาวเตะแดน "มัมมี่" จะกลายเป็นผู้ถือครองดาวซัลโวที่ซัดได้มากที่สุดต่อ 1 ฤดูกาล อย่างไรก็ตามถึงแม้ ลิเวอร์พูล ยังมีอีก 3 นัด ให้ลงเล่น แต่ก็ต้องระวัง แฮร์รี่ เคน หัวหอกจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไล่ตามหลังมาไม่ห่างอยู่ 5 ลูก
  1. ครองดาวซัลโวยุโรปซีซั่นนี้
  • ถ้าหาก ซาลาห์ สามารถคว้ารางวัลดาวซัลโวของ พรีเมียร์ลีก มาครองได้แล้ว ปัจจัยต่อมาที่จะทำให้มีลุ้นรางวัล "บัลลง ดอร์" นั่นก็คือจะต้องยิงให้มากกว่าดาวซัลโวจากลีกอื่นๆ แน่นอนคู่แข่งสำคัญ ก็ต้องมาจากทางฝั่ง ลา ลีกา สเปน ที่มี ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นก้างขวางคออยู่แล้ว โดยเฉพาะดาวเตะจาก "เจ้าบุญทุ่ม" กดไปแล้ว 29 ประตู เหลืออีกถึง 5 เกม ส่วน "ซีอาร์ 7" ตามมาอยู่ห่างๆ ที่จำนวน 24 ลูก และที่ห้ามลืมโดยเด็ดขาดคือ ชิโร่ อิมโมบิเล่ ศูนย์หน้าจาก ลาซิโอ ซัดกระจุย 29 ตุง เท่ากับ เมสซี่ ฉะนั้น ซาลาห์ มี 3 เกมอยู่ในมือ จำเป็นจะต้องยิงทุกนัด เพื่อซิวรางวัล "โกลเด้น บูท"
  1. ประคองให้ ลิเวอร์พูล จบท็อปโฟร์ พรีเมียร์ลีก
  • สถิติส่วนตัวมันแทบไม่มีความหมายเลย ถ้าหาก ลิเวอร์พูล ไม่สามารถทำโควต้าติดไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า นั่นถือว่ามีผลกับรางวัล "บัลลง ดอร์" เช่นเดียวกัน ถึงแม้ตอนนี้ "หงส์แดง" จะรั้งอยู่อันดับ 3 ของตาราง แต่กระนั้นช่วงหลังก็มีสะดุดเสมอให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ส่งผลให้ เชลซี อันดับ 5 ไล่ตามหลังมาเหลือ 8 คะแนน แถมแข่งน้อยกว่า 1 นัด ดังนั้นถ้า "สิงห์บลูส์" เก็บชัยจากนัดตกค้างได้ ก็จะไล่มาเหลือ 5 คะแนน แล้วยังมีเกมที่ต้องบุกไปเยือน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วย ดังนั้น ซาลาห์ ต้องช่วยประคองให้ ลิเวอร์พูล จบท็อปโฟร์ให้ได้ โดยจาก 3 นัดต่อจากนี้ ขอเพียงแค่ 4 คะแนน ก็น่าจะจบ 4 อันดับแรกได้ตามเป้า
  1.  พาทีมชาติอียิปต์ ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก เป็นอย่างน้อย
  • ปี 2018 รางวัล "บัลลง ดอร์" มันจะไม่ได้วัดกันที่ผลงานในสโมสรเท่านั้น ต่อให้คุณจะเป็นแชมป์ลีก, แชมป์บอลถ้วยในประเทศ หรือ เป็นแชมป์ยุโรป แต่กระนั้นคะแนนสำคัญในการซิวโทรฟี่ "บัลลง ดอร์" ประจำปี จะต้องขึ้นอยู่กับผลงานในศึก ฟุตบอลโลก ประเทศรัสเซีย โดย ซาลาห์ สามารถนำทีมชาติอียิปต์ ผ่านเข้ามาเล่น "เวิลด์ คัพ" รอบสุดท้าย ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี และด้วยฟอร์มการเล่นของดาวเตะ ลิเวอร์พูล ทัพ "มัมมี่" จึงถูกยกให้เป็นหนึ่งในทีมม้ามืด ดังนั้นหาก ซาลาห์ จะลุ้นรางวัล "บัลลง ดอร์" ได้เล่นแค่รอบแบ่งกลุ่ม หรือ ผ่านมาแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย อาจยังไม่เพียงพอ จำเป็นต้องไปให้ได้ลึกกว่านั้น
  1. เมสซี่ และ โรนัลโด้ โชว์ฟอร์มด้อยกว่า
  • แน่นอนเลยว่า ซาลาห์ ไม่ใช่ตัวเต็งที่จะคว้ารางวัล "บัลลง ดอร์" เพราะตั้งแต่ปี 2008 จนถึง 2017 ยังเป็นเพียงการแข่งขันระหว่าง ลิโอเนล เมสซี่ กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เท่านั้น ขนาด เวสลี่ย์ สไนเดอร์ เคยพา อินเตอร์ มิลาน คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ หรือ อันเดรส อิเนียสต้า ยิงประตูชัยพา สเปน เป็นแชมป์ ฟุตบอลโลก ก็ยังไม่เคยได้โทรฟี่ชิ้นนี้มาเชยชม ฉะนั้น "บัลลง ดอร์" ไม่ได้ขึ้นทุกอย่างกับ ซาลาห์ เขาจำเป็นต้องแช่งให้ เมสซี่ และ "ซีอาร์ 7" มีผลงานที่ด้อยกว่าตัวเอง โดยเฉพาะปัจจัยที่กล่าวไว้ข้อแรกคือต้องเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งขณะนี้มีเพียง โรนัลโด้ ที่ลุ้นพา เรอัล มาดริด ป้องกันแชมป์สมัย 3 และไปลุ้นต่อกันในศึก ฟุตบอลโลก 2018
6 ปัจจัยที่ ซาลาห์ ต้องทำหากหวังโค่นบัลลังก์ "บัลลง ดอร์"
logoline