ใครคือ โรมัน ยาเร็มชุค ? หัวหอกฟอร์มร้อนแรงจาก ทีมชาติยูเครน !

ถ้าจะพูดถึงนักเตะโนเนมที่ฉายแววได้โดดเด่นเข้าตากรรมการมากๆ และแจ้งเกิดจนเป็นที่รู้จักแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ โรมัน ยาเร็มชุค กองหน้าจาก ทีมชาติยูเครน อย่างมิต้องสงสัย

ในเมื่อกระแสโลกลูกหนังตอนนี้ต่างก็พูดถึงผู้ชายคนนี้ไม่ใช่น้อยเลย ดังนั้นวันนี้สิ่งที่ "ขอบสนาม" อยากนำเสนอก็คือการพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ "โรมัน ยาเร็มชุค" กัน เขาเป็นใครมาจากไหน มีแบล็คกราวน์ชีวิตอย่างไรบ้าง ไปชมกันเลย ! 

ประวัติพอสังเขป

โรมัน ยาเร็มชุค ชื่อเต็มๆ คือ โรมัน โอเลโฮวิช ยาเร็มชุค เกิดวันที่ 27 พฤศจิกายน ปี 1995 ที่ ลวีฟ เมืองที่ใหญ่ที่สุดทางภาคตะวันตกของ ยูเครน ปัจจุบันอายุ 25 ปี ส่วนสูง 191 เซนติเมตร หรือ 6 ฟุต 3 นิ้ว ประจำการในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า สังกัดอยู่กับ เกนท์ สวมเสื้อเบอร์ 7

เส้นทางชีวิต

โรมัน ยาเร็มชุค เป็นผลผลิตของโรงเรียนกีฬาในบ้านเกิดที่ คาร์ปาตี้ ลวีฟ ช่วงปี 2002 ก่อนจะย้ายมาปลุกปั้นและฝึกปรือฝีเท้าที่อคาเดมี่ของ ดินาโม เคียฟ ตอนปี 2007 เขาโชว์ฟอร์มได้ดีในเกมนัดประเดิมสนามในระดับเยาวชนที่ ดินาโม เคียฟ สมัครเล่น เจอกับ เอฟซี ยูนิสต์ เชรอ์นิฮีฟ ซึ่งเกมนั้น โรมัน ยาเร็มชุค กดไปคนเดียวงามๆ 2 ตุงด้วยกัน เบ็ดเสร็จในซีซั่นนั้นเจ้า โรมัน ยาเร็มชุค ในวัย 13 ปีซัลโวไปถึง 10 ประตูจากการลงเล่น 21 เกมในฤดูกาลนั้น

ชีวิตไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด

ถึง โรมัน ยาเร็มชุค จะโชว์ฟอร์มได้ดีกับทีมชุดเยาวชนของ ดินาโม เคียฟ แต่ตลอดระยะเวลา 5 ปีตั้งแต่ปี 2012-17 เขากลับไม่สามารถสอดแทรกขึ้นไปเป็นผู้เล่นตัวจริงของทีมได้ โดยเจ้าตัวได้ลงเล่นไปเพียง 11 นัดเท่านั้นและใส่ชื่อบนสกอร์บอร์ดไม่ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว การถูกปล่อยไปค้าแข้งกับ โอเล็คซานดริย่า เมื่อฤดูกาล 2016-17 เหมือนจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ตัวของ โรมัน ยาเร็มชุค รู้สึกตัวว่า การตัดสินใจย้ายออกจาก ดินาโม เคียฟ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ถ้าชีวิตอยากไปได้สวยกว่านี้ เพราะ 1 ฤดูกาลกับชีวิตที่ ซีเอสซี นิก้า โรมัน ยาเร็มชุค มีโปรไฟล์ที่ดีมากๆ ซัดไป 6 ประตูจากการลงเล่น 17 เกม และได้รางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ 1 ครั้งด้วยกัน

เคเอเอ เกนท์

ปี 2017 โรมัน ยาเร็มชุค ตัดสินใจย้ายออกจาก ดินาโม เคียฟ เพื่อออกไปหาความท้าทายครั้งใหม่ และโอกาสที่ดีขึ้นในชีวิตกับ เคเอเอ เกนท์ ใน โปร ลีก เบลเยี่ยม พร้อมกับเซ็นสัญญา 4 ปี เขาได้ประเดิมสนามเกมแรกในสีเสื้อต้นสังกัดใหม่ในเกมที่เสมอกับ อันเดอร์เลชท์ 0-0 โดยลงมาเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายเกมแทนที่ มามาดู ซิลล่า ส่วนประตูแรกของ โรมัน ยาเร็มชุค ที่เกิดขึ้นในฐานะนักเตะของ เกนท์ เกิดขึ้นในเกมสำคัญที่เจอกับ สตองดาร์ ลีแอช และที่สำคัญคือมันเป็นประตูชัยที่ช่วยให้ทีมเก็บ 3 คะแนนสำคัญมาครองได้ และนับตั้งแต่นั้น โรมัน ยาเร็มชุค ก็ถูกวางตัวให้เป็นกองหน้าตัวจริงของทีมจนถึงปัจจุบัน  เหตุผลหลักๆ มันก็เป็นเพราะสถิติการพังประตูที่ยกระดับขึ้นในทุกๆ ปี ไล่ตั้งแต่ปีแรกพี่แกเล่นกดไป 6 ประตูจาก 34 เกม ปีที่ 2 ซัดไป 12 ประตูจาก 45 เกม ส่วนปีที่ 3 ถึงแม้ โรมัน ยาเร็มชุค จะเจอปัญหาอาการบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวาย และต้องพักไปนาน 2-3 เดือน แต่สุดท้ายพี่แกก็ยังซัลโวไประเบิดระเบ้อที่ 17 ประตูจาก 30 เกม จนกระทั่งฤดูกาลล่าสุด 2020-21 โรมัน ยาเร็มชุค กดไป 23 ประตูจากการลงเล่น 43 เกม พร้อมกับได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดคนหนึ่งของลีก เบลเยี่ยม ในยุคปัจจุบัน

สไตล์การเล่น

ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นกองหน้าตัวเป้าแต่แนวทางและสไตล์การเล่นของ โรมัน ยาเร็มชุค เหมือนจะคล้ายๆ ว่าเป็น กองหน้าตัวต่ำ หรือไม่ก็ ผู้เล่นเบอร์ 10 มากกว่า เขาไม่ใช่ผู้เล่นที่คอยยืนรอแต่บอลอยู่หน้าสุด แต่ยังชอบลงต่ำมาเพื่อช่วยล้วงบอล สร้างพื้นที่ และเชื่อมเกมกับเพื่อนอยู่ตลอด เขาเป็นนักเตะที่มีส่วนสูงถึง 191 เซนติเมตร ถึงจะมีบอดี้รูปร่างสรีระที่สูงใหญ่ แต่ขอบอกเลยว่าเรื่องทักษะการครองบอล การลากไปบอลค่อนข้างมีความคล่องตัวที่ดีเลย ไหนจะมีทักษะการสร้างสรรค์เกมที่ดีอีกต่างหาก ส่วนเรื่องของการจบสกอร์นี่ไม่ต้องพูดถึง ถ้าดูจากโปรไฟล์การระเบิดสกอร์ที่ผ่านมา รวมถึงฟอร์มใน ยูโร 2020 หนนี้ขอบอกเลยว่านี่คือหนึ่งในกองหน้าที่ไม่ธรรมดาจริงๆ 

ผลงานในระดับนานาชาติ

มาดูในเส้นทางระดับนานาชาติกันบ้าง โรมัน ยาเร็มชุค ได้โอกาสรับใช้ชาติครั้งแรกตอนปี 2012 ในชุด ยู-16 เขาใช้เวลาถึง 6 ปีในการตะลุยเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับรุ่นต่างๆ ก่อนจะมาติด ทีมชาติยูเครน ชุดใหญ่ในปี 2018 ตอนราวๆ 22 ปีเท่านั้น ก่อนจะกลายเป็นหัวหอกตัวความหวังและยึดตำแหน่งตัวจริงมายาวๆ ปัจจุบัน โรมัน ยาเร็มชุค ซัดไปแล้ว 10 ประตูจากการลงเล่น 28 เกมให้ ยูเครน นับเป็นสถิติที่ดีที่สุดซึ่งเป็นรองแค่เพียง อังเดร ยาโมเลนโก้ ที่กดไป 42 ประตู แค่คนเดียวเท่านั้น (ถ้านับแค่ชุดปัจจุบัน) ประตูแรกในนาม ทีมชาติยูเครน โรมัน ยาเร็มชุค นับหนึ่งได้ในศึก ยูโร 2020 แต่เป็นรอบคัดเลือกที่ถล่ม เซอร์เบีย 4-0 พอมาถึงรอบสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ใหญ่ถึงแม้จะเป็นแค่นักเตะระดับโนเนม แต่ โรมัน ยาเร็มชุค ก็ได้พิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้วว่าพี่แกไม่กลัวใครหน้าไหนจริงๆ ไม่ได้มีความรู้สึกกดดันใดๆ และเล่นได้มั่นใจสุดๆ สังเกตได้จากการมีส่วนร่วมสำคัญในทุกๆ เกม และแทบทุกจังหวะการเข้าทำของ ยูเครน เลยด้วย เขาทำได้ 1 แอสซิสต์ และซัดไป 1 ประตูในเกมที่เจอกับหนึ่งในทีมที่แววดีทึสุดของทัวร์นาเมนต์อย่าง ฮอลแลนด์ แต่น่าเสียดายที่สุดท้าย ยูเครน เก็บ 3 แต้มไม่ได้ เพราะ ฮอลแลนด์ มาได้ประตูชัย 3-2 ในช่วงท้ายเกม เช่นเดียวกับเกมนัด 2 ที่เจอกับ มาซิโดเนีย โรมัน ยาเร็มชุค ก็ยังคงฮอตเปรี้ยงปร้างจากการซัลไวไป 1 และจ่ายอีก 1 ถึงเกมล่าสุดกับ สวีเดน พี่แกอาจจะไม่ได้มีชื่อเป็นคนยิงหรือทำแอสซิสต์ แต่ก็เขาก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ ยูเครน เป็นฝ่ายเอาชนะได้ 2-1 พร้อมกับตีตั๋วเข้าสู่รอบ 8 ทีมไปเจอกับ อังกฤษ

ทีมที่สนใจ

ทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2020 ยังไม่จบนะ เพิ่งจบแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น แต่คุณรู้รึเปล่าว่าเจ้า โรมัน ยาเร็มชุค กลับได้รับความสนใจอย่างมากจากหลายทีมดังไล่ตั้งแต่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ตลอดจนทีมใหญ่อย่าง อาร์เซน่อล กับ เอซี มิลาน ก็เหมือนจะแอบเล็งไว้เหมือนกันด้วย ส่วนเรื่องของค่าตัวนั้นว่ากันว่าจะอยู่ที่ 35-40 ล้านยูโร เดี๋ยวต้องมาดูกันว่าหลังจบทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2020 จะมีทีมที่สนใจงอกเพิ่มขึ้นมาอีกไหม ไม่รู้ว่าทีมไหนจะได้ตัวไป แต่ที่รู้ๆ คือด้วยศักยภาพฝีเท้าและผลงานอันโดดเด่นของ โรมัน ยาเร็มชุค มันดีเกินกว่าที่เขาจะอยู่ค้าแข้งแค่กับสโมสรอย่าง เกนท์ จริงๆ แฟนๆ ขอบสนาม ล่ะคิดว่าไอ้หมอนี่ควรไปอยู่ที่ไหนถึงจะเหมาะเหม็งที่สุด ???

HaMu Dos Santos