วินาทีที่ จอร์แดน พิคฟอร์ด เซฟลูกจุดโทษของ จอร์จินโญ่ ปลุกความหวังให้กับสาวกทีมชาติอังกฤษ ได้มีโอกาสกลับสู่เกม ยิงจุดโทษเพื่อต่อลมหายใจในการคว้าแชมป์ ยูโร 2020 แต่ทันใดนั้น คนที่ 5 คนสุดท้ายของทัพ "สิงโตคำราม" กลับมีเด็กชายบ้าบิ่นอายุ 19 ปี คนหนึ้ง ถือลูกบอลมาวางตรงจุด 12 หลา
ไม่มีใครคาดคิดหรอกว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่มีนักเตะชั้นนำให้เลือกใช้เต็มมือ จะส่งชื่อให้ บูกาโย่ ซาก้า สังหารจุดโทษเป็นคนสุดท้าย และ ที่สำคัญลูกนั้นคือแบกความหวังของแฟนบอลอังกฤษ ทั่วทุกมุมโลก โดยมีโจทย์ที่ต้องรับภาระหนักอึ้งว่า "ถ้าไม่เข้าแพ้ทันที"
เชื่อว่าสาวก "ทรี ไลอ้อนส์" หลายๆคน อาจจะมีสบถออกมาด้วยซ้ำ เมื่อเห็น ซาก้า กำลังเดินไปทำหน้าที่ ด้วยสีหน้าดูไม่มีศี และ ไม่มีความมั่นอกมั่นใจเอาเสียเลย เผลอๆแค่ตะโกนขู่ ก็อาจทำหน้าเหมือนร้องไห้ไปแล้ว
ถึงแม้ว่าสังเวียนจะเป็นเวมบลีย์ เต็มไปด้วยแฟนบอล สิงโตคำราม ที่เดินทางมามืดฟ้ามัวดิน แต่กระนั้นไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงความกดดันไปได้
เพราะไม่ใช่โจทย์ต้องยิงให้เข้าเพียงอย่างเดียว แต่คู่แข่งตรงหน้า คือปราการยักษ์แห่ง "อัซซูรี่" จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้โชว์เซฟจุดโทษ จาดอน ซานโช่ ก่อนหน้าจะมาถึง ซาก้า
และ เมื่อความกดดันเหล่านั้นถาโถมเข้ามา เด็ก 19 ปี ไม่อาจแบกรับมันได้ไหว เขาเลือกยิงขวามือตัวเอง ก่อนจะไปติดเซฟ ดอนนารุมม่า ที่พุ่งถูกทางปัดได้เต็มไม้เต็มมือ ส่งผลให้ อิตาลี คว้าแชมป์ ยูโร 2020 ไปครองได้ทันที
นาทีนั้น ขุนพลทีมชาติอิตาลี วิ่งดีใจกันบ้าคลั่ง ทุกคนไปรุมสวมกอด จีโจ้ ฮีโร่คนสำคัญ แต่ตัดภาพมาอีกฟาก น้ำตาจากเด็กหนุ่มวัย 19 ปี มันกำลังรินไหล หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความบอบช้ำ เมื่อมีไหล่ของพี่ๆเข้ามาปลอบ เขาก็ไม่อาจกลั้นความเสียใจไว้ได้อีกแล้ว
หลังเกมจบ มีหลายคนที่เข้าอกเข้าใจ ออกมายกย่องความกล้าหาญของ ซาก้า ที่บ้าบิ่นกล้าออกไปยิงจุดโทษคนสุดท้าย ทั้งๆที่สถานการณ์มันบีบหัวใจขนาดนั้น / หลายคนชื่นชม และ บอกว่าทำผลงานได้น่าประทับใจแล้วในทัวร์นาเมนต์นี้
แต่กระนั้น โลกของเรา เต็มไปด้วยคนใจร้าย เป็น สังคมแห่งการถับถม ใช้เพียงแค่ปลายนิ้ว ฆ่าคนได้ทั้งเป็น เพราะหลังจากที่ ซาก้า ยิงไม่เข้า ก็กลายเป็นที่รองรับอารมณ์ของพวก Toxic บนโลกโซเชี่ยล
- ซาก้า โดนโจมตีด้วยการเหยียดผิว และ ดูถูกเชื้อชาติ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกลุ่มคน ทรี ไลอ้อนส์ พันธุ์แท้
- ซาก้า เป็นเหยื่อทางอารมณ์ ด้วยการถูกคุกคาม รุนแรงถึงขั้นขู่ทำร้ายครอบครัว
- ถึงขั้นที่สมาคมฟุตบอลอังกฤษ จะเอาผิดทางกฎหมายกับคนที่เขียนข้อความคุกคาม
แค่ความผิดหวังจากการยิงจุดโทษไม่เข้า ก็บอบช้ำหัวใจมากพอแล้ว เขายังต้องมาเจอคำพูด จากแฟนบอลที่เขาทุ่มเทสุดชีวิต เพื่อหวังคว้าโทรฟี่มาฝากให้ได้
บางทีการเงียบของเขา ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึก ไม่ใช่ว่าเขาไม่ตอบโต้ แต่เขาเลือกที่จะเงียบ เพื่อหลบเลียแผลใจ และ ในช่วงเวลาเหล่านี้แหละครับ จะรู้เลยว่า ใครคือคนสำคัญ และ ใครที่รักเราจริง .. ซาก้า เอง ก็ไม่ต้องไปหาที่ไหน เพราะพี่ๆในทีมจะปลอมประโลมหัวใจได้เป็นอย่างดี
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน คือพี่ใหญ่ ที่เข้าใจดีว่า ความรู้สึกที่ถูกผู้คนด่าทอ เป็นเช่นไร
เพราะย้อนกลับไปวันที่ เฮนโด้ มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เขาถูกด่าไม่เว้นวัน ว่าไม่ดีกับการเล่นให้ หงส์แดง และ เกือบถูกขายไปอยู่กับ ฟูแล่ม แล้ว ยิ่งตอนก้าวขึ้นมาเป็นกัปตัน หงส์แดง แทนที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยิ่งโดนวิจารณ์ และ โดนเปรียบเทียบอย่างหนัก
ก่อนที่ เฮนเดอร์สัน จะพิสูจน์ตัวเอง ด้วยการพา ลิเวอร์พูล ชูถ้วยแชมป์มาครอง ดังนั้น กว่าคุณจะโตมา ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง คุณก็ต้องผ่านประสบการณ์อันเจ็บปวดเหล่านั้นมาก่อน
การซัดจุดโทษไม่เข้า ไม่ใช่จุดจบของชีวิต เพราะในอีกแง่ความรู้สึก ก็มีคนที่ให้กำลังใจ ซาก้า อยู่ไม่น้อย และ เชิดชูหัวใจเด็กวัย 19 ปี ที่กล้าออกมาทำหน้าที่แบบน้อยคนนักจะเลือกทำ
หลายๆครั้งโลกโลกนี้มันก็โหดร้าย สำหรับใครบางคน .. คนข้างๆจึงสำคัญ นี่คือเรื่องจริง
นับต่อจากนี้ เวลาจะเดินไปอย่างช้าๆ เมื่อ ซาก้า แข็งแกร่ง เขาจะกลับมาเป็นคนเดิม สิ่งที่ผิดพลาด มันจะเป็นประสบการณ์ ให้เราได้เรียนรู้ ได้แก้ไข เพื่อไม่ให้มันเกิดซ้ำขึ้นอีก
เวลาสำหรับ เจ้าหนูแห่งค่าย อาร์เซน่อล ยังมีอีกเยอะ จงฝึกฝน และ เดินหน้า และ ทิ้งความผิดพลาดไว้ข้างหลัง ตรงนั้นมีกำลังใจ ให้ไปอยู่ตรงนั้น และ ตรงนี้ก็ขอเป็นกำลังอีกแรงแด่น้อง บูกาโย่ ซาก้า หนุ่มวัย 19 ปี ที่กล้าหาญเกินใคร ..
ฮาย ฮาวดี้
