logo-heading

ในที่สุดแจ็ค กรีลิช ก็ได้กลายร่างเป็นขุนพลคนใหม่ของ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวระดับสถิติของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และในระดับประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ 100 ล้านปอนด์

เมื่อการย้ายทีมของพ่อค้าแข้งฝีเท้าจัดจ้านคนนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว วันนี้สิ่งที่ "ขอบสนาม" อยากนำเสนอก็คือ การพาทุกท่านไปวิเคราะห์เจาะลึกกันว่า "แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะได้ประโยชน์อะไรบ้างจากการเซ็นสัญญา แจ็ค กรีลิช" ถ้าเกิดพร้อมแล้วไปชมกันเลย

จุดเด่น

แจ็ค กรีลิช เป็นนักเตะที่ขึ้นชื่อลือชาอยู่แล้วในเรื่องของการเป็นเพลย์เมคเกอร์ที่ครบเครื่องสมบูรณ์แบบที่สุดคนหนึ่งในโลกลูกหนังยุคปัจจุบัน แน่นอนว่าจุดเด่นของเขาก็คือการเคลื่อนที่ไปทั่วสนามและเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างสรรค์เกมและสร้างจังหวะให้เพื่อนร่วมทีม โดยปีที่ผ่านมา แจ็ค กรีลิช เป็นผู้เล่นที่ทำแอสซิสต์ที่มากที่สุดอันดับ 3 ที่ 10 ครั้งเป็นรองแค่ แฮร์รี่ เคน, บรูโน่ แฟร์นานเดส และ เควิน เดอ บรอยน์ เท่านั้น ส่วนเรื่องของการสร้างโอกาส หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Created Chances แจ็ค กรีลิช คนนี้ก็สร้างสถิติเอาไว้ที่ 81 ครั้งซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของ พรีเมียร์ลีก เช่นกัน เป็นรองแค่ บรูโน่ แฟร์นานเดส และ เมสัน เมาท์ เท่านั้น ดูแล้วปีนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ น่ากลัวและมีความอันตรายขึ้นเยอะเลย การได้ แจ็ค กรีลิช มาผนึกกำลังกับ เควิน เดอ บรอยน์ เพื่อผลิตเกมรุก คุณลองนึกภาพตามสิว่ามันจะโหดขนาดไหน บางที 2 คนนี้อาจกลายเป็นคู่หูดูโอ้ที่น่ากลัวที่สุดในฤดูกาลนี้ก็เป็นได้

ความสารพัดประโยชน์

นอกจากบทบาทการเป็นผู้เล่นเบอร์ 10 ที่โดดเด่นในเรื่องการสร้างสรรค์เกมแล้ว ด้วยความสารพัดประโยชน์ของ แจ็ค กรีลิช พี่แกสามารถขยับไปยืนเป็นปีกก็ได้เหมือนกัน เขาเป็นนักเตะที่มีความคล่องตัวสูง ไปกับบอลได้ดีและไหลลื่น อีกทั้งยังซอกแซกไปได้ได้ทุกมุม ไปไหนมาไหนได้ทุกแห่งหน กล้าเล่น ไม่กลัวตาย เรียกได้ว่าเป็นนักเตะที่สามารถสร้างความแตกต่างได้ขนาดแท้ ขนาดโคตรตำนานอย่าง รอย คีน อย่างพูดเองเลยว่า นี่มัน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ชัดๆ  อย่างไรก็ตามบทบาทของ แจ็ค กรีลิช ดูเหมือนจะไปทับตำแหน่งผู้เล่น แมนฯ ซิตี้ อยู่หลายคน อย่างปีกก็มีพวก ฟิล โฟเด้น หรือ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ส่วนตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์หรือมิดฟิลด์ตัวรุกที่เคยขับเคลื่อนเกมไปทั่วสนามสำหรับ เป็ป กวาร์ดิโอล่า แล้วยังไงเบอร์ 1 ก็ยังคงเป็น เควิน เดอบรอยน์ ดังนั้นบางทีเราอาจได้เห็น แจ็ค กรีลิช ในบทบาทใหม่กับ แมนฯ ซิตี้ ก็เป็นได้ เมื่อพูดถึง ฟอลส์ ไนน์ นี่คือระบบแผนที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ใช้บ่อยมากๆ โดยเฉพาะยามที่ไม่มี เซร์คิโอ อเกวโร่ และตอนนี้พี่บ่าวก็ได้ย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า แล้วด้วย แน่นอนว่าตัวของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เองก็กำลังตามหาคนที่จะเป็นตัวตายตัวแทนอยู่ ซึ่งตัวของ แจ็ค กรีลิช เองก็ดูมีคุณสมบัติที่คู่ควรอยู่เหมือนกัน เขาเป็นนักเตะที่ก็บบอลไว้กับตัวได้ดี มีทักษะการเคาะและเล่นบอลในที่แคบ สามารถเชื่อมเกมเพื่อทำทางให้เพื่อนๆ ได้ซึ่งนี่ถือว่าตรงกับสเป็กและแนวทางของ เป๊ป เด๊ะๆ เลย อีกหนึ่งเหตุผลที่เขาดูเหมาะกับระบบ ฟอลส์ ไนน์ ก็คือ ความอิสระในการเคลื่อนที่ แจ็ค กรีลิช เป็นนักตะที่ดูดตีน (จากศัตรู) ได้ดี ว่ากันว่าผู้ชายคนนี้คือผู้เล่นที่เรียกฟาวล์ได้มากที่สุดในศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ดังนั้นก็เท่ากับว่า การฉีกหนีตัวประกบ การหันเหความสนใจจากแนวรับคู่แข่ง ตลอดจนการวิ่งหาช่องหรือเปิดช่องให้เพื่อนเข้าทำมันจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อทีม

ประสบการณ์ใน พรีเมียร์ลีก

นักเตะที่เก่งๆ กลับทีมอื่นแต่ดันโชคร้ายมาดับชีวิตกับทีมใหญ่ๆ มันก็มีตัวอย่างดีๆ ให้เห็นถมเถไป แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นกับชายคนนี้ที่ชื่อ แจ็ค กรีลิช ปัจจัยหลักๆ ก็น่าจะเป็นเพราะพี่แกคุ้นเคยเป็นอย่างที่กับสไตล์ของฟุตบอลอังกฤษ และก็มีประสบการณ์บนสังเวียน พรีเมียร์ลีก มาแบบโชกโชน การอยู่กับ แอสตัน วิลล่า ที่ถูกมองว่าเป็นมวยรองยามเจอกับทีมใหญ่ๆ ในทุกๆ ครั้ง นี่คือแรงขับเคลื่อนและความทะเยอทะยานชั้นดีที่ความกดดันไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย พูดง่ายๆ ก็คือเรื่องของการปรับตัวน่าจะไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เองก็มีนักเตะที่เคยร่วมงานและผนึกกำลังกันมาแล้วหลายคนในแคมป์ ทีมชาติอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็น ฟิล โฟเด้น, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, จอห์น สโตนส์ รวมถึง ไคล์ วอล์คเกอร์ เรียกได้ว่าเรื่องรู้ฝีมือรู้ฝีเท้ากันดีอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องการสร้างคอนเนคชั่นระหว่างกันไม่น่าใช่ปัญหาอะไรเลย

นักเตะซูเปอร์สตาร์

ที่ผ่านมา แจ็ค กรีลิช ไม่เคยสัมผัสกับการค้าแข้งให้ทีมใหญ่มาก่อน เพราะอยู่กับ แอสตัน วิลล่า แค่เพียงทีมเดียวเท่านั้น แต่ถ้าจะพูดถึงการก้าวขึ้นไปเป็นแข้งระดับซูเปอร์สตาร์ขอบอกเลยว่า แจ็ค กรีลิช คนนี้ได้เปล่งแสงออร่ามาตั้งนานแล้ว โดยมีผลงานในสนามที่ไดรับการยอมรับ และความสนใจจากเหล่าบรรดาทีมชั้นนำมากมายซึ่งเป็นบทพิสูจน์ของเรื่องนี้ ขนาดแฟนบอลทีมอื่นเองก็ยังคลั่งไคล้และรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ยลโฉมการวาดลวดลายของผู้คนนี้ การย้ายมา แมนฯ ซิตี้ ในครั้งนี้นอกจากประโยชน์ต่างๆ ที่เกิดในสนามแล้วอีกสิ่งที่ แจ็ค กรีลิช จะสร้างอิมแพ็คขนานใหญ่ให้กับ "เรือใบสีฟ้า" นั่นก็คือเรื่องของภาพลักษณ์ คาแร็คเตอร์และความป็อบปูลาร์ซึ่งจะนำมาซึ่งรายได้จากช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขายเสื้อและการดึงดูดสปอนเซอร์ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วถ้าเทียบกับค่าตัวที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หว่านลงไปมากมายมหาศาลถึง 100 ล้านปอนด์ บางทีมันอาจจะดูถูกเกินไปด้วยซ้ำ

HaMu Dos Santos 

แมนฯ ซิตี้ จะได้อะไรบ้างจาก แจ็ค กรีลิช ???

logoline