logo-heading

ลิโอเนล เมสซี่ ลงเอยเป็นนักเตะใหม่ของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เรียบร้อย ทิ้งผลงานกับ บาร์เซโลน่า ไว้เป็นความทรงจำ แต่กระนั้นการย้ายทีมครั้งนี้ของซูเปอร์สตาร์ระดับโลก มันกลับมีเงื่อนงำซ้ำซ้อนเกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องราวที่ทำให้ เมสซี่ ไม่สามารถอยู่กับ เจ้าบุญทุ่ม ได้ต่อ จะแซ่บขนาดไหน มาติดตามรับชมกันเลยครับ

- ทนาย บาร์ซ่า พยายามขวาง ปารีส ไม่ให้เซ็น เมสซี่

อารมณ์เหมือน ขี้แพ้ชวนตี เพราะหลังจากที่ บาร์เซโลน่า ไม่สามารถต่อสัญญากับ ลิโอเนล เมสซี่ ได้ ก็พยายามจะสร้างปัญหาก่อกวนไม่ให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้ตัวซูเปอร์สตาร์รายนี้ไปร่วมทีมเช่นกัน ขอเป็นขวากหนามทิ่มแทงหัวใจ เป็นที่ทราบกันดี หลังจาก เมสซี่ ต้องจำใจประกาศอำลา บาร์เซโลน่า ทั้งที่ยังรัก เต็ง 1 ที่จะได้ตัวไปครอบครองก็หนีไม่พ้น เปแอสเช ที่พร้อมเปย์ค่าเหนื่อยให้แบบ อยู่กินอย่างราชา 35 ล้านยูโร ต่อซีซั่น เพื่อหวังให้นักเตะรายนี้ นำพา ปารีส เถลิงแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองสักที แต่ด้วยพิษรักแรงหึง คนรักเก่าอย่าง บาร์ซ่า จะยืนดูอยู่เฉยๆเห็น เมสซี่ ไปจู๋จี๋กับคนรักใหม่ได้อย่างไร จึงมีกระแสที่ ฆวน บลังโก้ ทนายความฝั่ง บาร์เซโลนา ได้ยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรป ขัดขวางไม่ให้ ปารีส เซ็นสัญญา เมสซี่ โดยอ้างว่า ผิดกฎการเงิน ตามที่ ฆวน บลังโก้ ได้ระบุไว้ว่า เปแอสเช ละเมิดกฎควบคุมการเงิน ของ ยูฟ่า ในขั้นร้ายแรง เพราะในฤดูกาล 2019-20 รายได้ 99 เปอร์เซ็นต์ของ ปารีส ถูกใช้ไปกับการจ่ายค่าเหนื่อยนักเตะ ขณะที่ บาร์ซ่า ใช้จ่ายไปเพียง 54 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ซึ่งมันทำให้ธุรกิจด้านฟุตบอลเกิดความเหลื่อมล้ำ อย่างไรก็ตาม การยื่นฟ้องครั้งนี้ ไม่เป็นผลอะไรสักนิด และ เป็นเพียงแค่ความหวังลมๆแล้งๆต่อแฟนบอล บาร์เซโลน่า ว่าอาจมีโอกาสที่ เมสซี่ จะอยู่กับทีมต่อไป เพราะตอนนี้ เลโอ ได้กลายร่างเป็นนักเตะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เต็มตัวแล้ว

- ทัวร์ลง ลา ลีกา หรือ โจน ลาปอร์ต้า ?

ย้อนความกลับไปตอนที่ บาร์เซโลน่า แถลงแยงทางกับ ลิโอเนล เมสซี่ และ ตัวนักเตะออกมาเปิดใจถึงความพยายามที่จะต่อสัญญากับทีมแล้ว ทั้งยอมทำตามเงื่อนไขของสโมสร และ ลดค่าเหนื่อยลงมา 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ทิ้งท้ายไว้ว่า "มันเป็นไปไม่ได้ เพราะกฎของ ลา ลีกา สเปน" รวมถึงสมัย โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ทิ้งมรดกขี้เอาไว้ ให้บอร์ดชุดใหม่ ตามล้างตามเช็ด จากนั้นทัวร์ก็เริ่มไปลงใส่ ฆาเบียร์ เตบาส ประธาน ลา ลีกา สเปน ว่าเป็นตัวการทำให้ ลิโอเนล เมสซี่ ต้องย้าย เพราะไม่ยอมอะลุ้มอล่วยให้ เมสซี่ ต่อสัญญา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ส่งสัญญาณมาว่าน่าจะมีช่องว่างให้ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนติน่า ต่อสัญญาได้  ดูได้จากปฏิกิริยาของ โจน ลาปอร์ต้า ที่อัพเดตเรื่องสัญญา เมสซี่ ทุกวัน ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาด เพราะขนาด เมสซี่ และ ครอบครัว ยังไปพักผ่อนกันแบบสบายใจที่เกาะอิบิซ่า แต่สุดท้าย ลา ลีกา กลับปฏิเสธ เนื่องจากมันผิดกฎการเงิน และ เกรงกลัวว่าจะเป็นเคสตัวอย่าง เดี๋ยวหลายๆทีมยกมาอ้าง หากเกิดเหตุการณ์นี้ในอนาคต เรื่องราวเหมือนว่า ลา ลีกา ต้องรับกรรมเป็นแพะรับบาป หลายๆคนสาปแช่งให้สปอนเซอร์ถอนตัวไปให้หมด แต่กลายเป็นว่าเรื่องนี้อาจ "โอละพ่อ" เพราะเหมือนว่าตอนนี้ทัวร์เริ่มกลับมาลงที่ โจน ลาปอร์ต้า เพราะอาจเป็นตัวการทำให้ เมสซี่ ไม่สามารถต่อสัญญากับทีมได้ เพราะมีการขุดคุ้ยว่า เตบาส ได้เสนอช่องทางกับ โจน ลาปอร์ต้า ในการต่อสัญญากับ เมสซี่ ให้แล้ว หลังจาก ลา ลีกา ตกลงขายหุ้น 10% ให้กับ  "CVC Capital Partners" บริษัทเงินทุนยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา คิดเป็นมูลค่า 2,700 ล้านยูโร ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวจะถูกแบ่ง 90% ไปให้แต่ละสโมสรได้นำไปใช้ เพื่อลดภาระและปัญหาทางการเงิน ที่เกิดขึ้นในช่วงโควิด-19 ซึ่งเรื่องนี้ บาร์ซ่า กับ เรอัล มาดริด ไม่ได้ยินยอม ถึงขั้นที่ เตบาส นัดดินเนอร์พูดคุยกับ ลาปอร์ต้า เจรจาเพื่อให้ บาร์ซ่า ยอมรับเงิน 270 ล้านยูโร พร้อมกับยื่นข้อเสนอว่าหาก บาร์ซ่า ยอมรับเงื่อนไขนี้ ทาง ลา ลีกา จะอนุญาตให้สามารถลงทะเบียน ลิโอเนล เมสซี่ นั่นเป็นช่องทางเดียวที่ เจ้าบุญทุ่ม มีโอกาสที่จะเก็บตัวซูเปอร์สตาร์รายนี้ให้อยู่กับทีมต่อไป อย่างไรก็ตาม ลาปอร์ต้า กลับเลือกปฏิเสธ ไม่รับข้อเสนอของทาง เตบาส เพราะมันต้องแลกมากับการสูญเสียรายได้ 800 ล้านยูโร จากลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดเป็นระยะเวลา 50 ปี ดังนั้น ลาปอร์ต้า จึงมองว่าเงินที่จะได้มา 270 ล้านยูโร ตอนนี้ ไม่คุ้มค่า หากมองแบบในระยะยาว เมื่อข่าวนี้แพร่งพรายออกไป ลาปอร์ต้า โดนทัวร์เละเทะ เพราะได้ปฏิเสธหนทางเดียวที่จะต่อสัญญากับ เมสซี่ ออกไปแล้ว ทั้งที่เป็นคนชูนโยบายว่าจะทำทุกเพื่อรั้ง เมสซี่ ซึ่งตามรายงานระบุไว้ว่าต่อให้เพดานค่าจ้างเกินกำหนด แต่มันมีวิธีที่ บาร์ซ่า จะต่อสัญญากับ เมสซี่ ได้สำเร็จ คือมาจากการช่วยเหลือของ ลา ลีกา แต่ ลาปอร์ต้า กลับทิ้งมันไป แม้เจ้าตัวจะพยายามปฏิเสธ ทว่าทาง ฆาเบียร์ เตบาส ยืนกรานอีกครั้งว่าคือเรื่องจริง แต่ไม่ว่าฝั่งไหน จะพูดจริง หรือ โกหก ก็คงไม่ทันแล้วล่ะครับ เพราะต่อให้ตีกันให้ตาย ก็ทำอะไรไม่ทันแล้ว เพราะ ลิโอเนล เมสซี่ เซ็นสัญญาเปิดตัวกับ เปแอสเช เป็นเวลา 2 ปี พร้อมกับสวมเบอร์ 30 เรียบร้อยแล้ว

- มีผู้ชักใยเบื้องหลัง ?

จากภาพของ เมสซี่ ที่โบกมือทักทายแฟนบอล ปารีเซียง พร้อมใบหน้ายิ้มแย้ม ใส่เสื้อแบบรู้งาน ที่สกรีนข้างหน้าว่า "ปารีส" แต่หากตัดภาพมาที่ประเทศสเปน กำลังมีดราม่าฟัดกันไม่เลิกว่า สาเหตุที่ ลาปอร์ต้า ตัดสินใจไม่รับข้อเสนอของ CVC นั้นมีผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังนั่นก็คือ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร เรอัล มาดริด คนที่แฉเรื่องนี้คือ เยาเม่ โยปิส อดีตหนึ่งในคณะกรรมการของ ลาปอร์ต้า โดยระบุว่า เปเรซ ได้ฝาก เฟร์ราน เรเบร์เตร์  ซีอีโอคนใหม่ บาร์ซ่า ไปบอกกับ ลาปอร์ต้า ว่าให้ปฏิเสธข้อเสนอ CVC จาก ฆาเบียร์ เตบาส โดยพยายามนำเหตุผลแง่ลบของ CVC ว่า มีแต่ข้อเสีย ไม่มีข้อดี พร้อมกับหยิบยกเรื่องโปรเจ็คต์ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก มากล่าวอ้าง ถึงขั้นที่ เฟร์ราน เรเบร์เตร์ ขู่จะลาออกจากตำแหน่งทันที หาก ลาปอร์ต้า ยอมไปรับข้อเสนอเงิน 270 ล้านยูโร ทำให้ ลาปอร์ต้า อยู่ในสถานการณ์ กลืนไม่เข้า คายไม่ออก เพราะถ้าเลือกรับเงินของ ลา ลีกา ที่เซ็นกับ CVC ทีมงานบริหารก็จะลาออก เมื่อโดนกดดันและโน้มน้าวอย่างหนัก ทาง ลาปอร์ต้า เหมือนถูกบีบให้เปลี่ยนความคิด โดยเลือกอนาคตของสโมสร และ เลือกไม่ต่อสัญญากับ เมสซี่ ซึ่ง เยาเม่ โยปิส ก็ได้ฝากประโยคเด็ดไว้ด้วยว่า "บาร์ซ่า ยังมีทางเลือกในการต่อสัญญากับ เมสซี่ เพราะนี่คือมรดกสำคัญของสโมสร แต่คุณกลับช่วยให้ ปารีส แข็งแกร่งขึ้น และ ทำให้ คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ ย้ายไป มาดริด ง่ายขึ้นด้วย นี่คือแผนที่สมบูรณ์แบบที่ เปเรซ วางเอาไว้ ซึ่ง ลาปอร์ต้า จะถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ว่าคุณคือประธานสโมสรที่ปล่อยให้ เมสซี่ ออกจากทีม" เรียกว่าตอนนี้ เป็นการสาวไส้ และ แฉเบื้องหลังกันเละเทะเลยล่ะครับว่า คนที่ทำให้ ลิโอเนล เมสซี่ ต้องย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า เป็นเพราะใคร ซึ่งดูแล้ว ลาปอร์ต้า น่าจะงานเข้ามากที่สุด

- ทำไม เมสซี่ ไม่ลดค่าเหนื่อย หรือ เล่นให้กับ บาร์เซโลน่า แบบฟรีๆ

ประเด็นนี้เรื่องส่วนตัวล้วนๆเลยครับพี่น้อง เข้าใจหัวอกสาวก เจ้าบุญทุ่ม เป็นอย่างดี ว่าการที่คุณต้องเสีย ซูเปอร์สตาร์เบอร์ 1 ของทีม ออกไป มันรู้สึกอย่างไร แต่กับคำถามที่ว่าทำไม ลิโอเนล เมสซี่ ไม่ลดค่าจ้างให้มันถูกกว่านี้ หรือ ยอมไม่รับค่าเหนื่อยไปเลย เพราะจะได้เซ็นสัญญาลงทะเบียนกับ บาร์ซ่า" ได้อีกครั้ง ขอตอบตรงนี้ว่า กฎหมายแรงงานของประเทศสเปน ห้ามจ้างงานฟรีๆ อารมณ์เหมือนบ้านเราต้องมีค่าแรงขั้นต่ำประมาณ 300 บาท ต่อวัน ฉะนั้นลงเล่นแบบไม่รับค่าเหนื่อย เป็นไปไม่ได้แล้วในจุดนี้ ส่วนเรื่องลดค่าเหนื่อยลงมาให้ถูกลงไปอีก คุณต้องเข้าใจคำว่า "The Best" กันก่อน เมสซี่ คือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน ดังนั้นคำว่าดีที่สุด ก็ต้องได้รับเกียรติมากที่สุด จะไปลดค่าเหนื่อยให้เหลือแค่ 50,000-60,000 ยูโร ต่อวีค ก็เป็นการดูแคลนกันเกินไป อีกทั้ง และ ย้ำอีกครั้งว่า บาร์เซโลน่า มีอัตราเพดานค่าจ้างสูงถึง 110 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตามกฎของ ลา ลีกา สเปน กำหนดไว้ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นแทบไม่มีช่องว่างให้ เมสซี่ อยู่เลย เพราะค่าเหนื่อยของนักเตะ บาร์ซ่า หลายคนสูงมาก ต่อให้ขายผู้เล่นที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมออกไปก็ตาม ยิ่ง ลาปอร์ต้า ไม่ยอมรับข้อเสนอ CVC ทุกอย่างก็เป็นอันจบสิ้น

- เปเรซ ไม่อยู่เฉย

และหลังจากที่ ฟลอเรนติโน่ เปเนซ อยู่เฉยๆ ไม่ได้ออกมาข้างหน้า ปล่อยให้โดนพาดพิงถึงตามหน้าสื่อ ทำให้ เปเรซ อดรนทนไม่ไหว ล่าสุดเขาได้เตรียมทางทีมงานทนายของตัวเอง เพื่อจัดการยื่นฟ้อง ลา ลีกา กับ CVC ที่โบ้ยเรื่องการที่ลีกต้องเสีย เมสซี่ ไปมาทางเขา มันก็เลยเป็นเรื่องราวใหญ่โต ในขณะที่ เมสซี่ นั้นย้ายไป เปแอสเช เป็นที่เรียบร้อย เส้นทางของเขาที่สเปน ได้ปิดฉากลง แต่ว่าเรื่องราววุ่นวาย เบื้องลึกของการย้ายทีมครั้งนี้มันยังไม่จบ และเราอาจจะได้เห็นเรื่องลับ ๆ แฉกันเพิ่มเติมก็ได้ ต้องติดตามกันเลยล่ะครับ

ฮาย ฮาวดี้

 
logoline