logo-heading

"เดอะ แบก" กลายเป็นคำสั้นๆ ที่สามารถสื่อความหมายออกมาได้เป็นอย่างดี และเมื่อเอามาอยู่ในโลกของฟุตบอลยิ่งเป็นคำพูดที่บ่งบอกชัดเจนถึงนักเตะคนสำคัญของทีมนั้นๆ ที่เป็นกำลังสำคัญพาทีมรอดพ้นจากหายนะ หรือคว้าชัยชนะได้อยู่บ่อยครั้ง

แน่นอนว่าแม้กีฬาลูกหนังจะเล่นเป็นทีม แต่ทว่ามันก็ไม่อาจปฎิเสธได้ว่าคนหนึ่งคนสามารถทรงอิทธิพล และกำหนดชะตาชีวิตของทีมได้เหมือนกัน ว่าแล้ววันนี้ ขอบสนาม ของเราจะพาทุกท่านไปชม 5 นักเตะที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น "เดอะ แบก" ของทีม ซึ่งจะมีใครเข้ามาติดโผบ้าง ไปติดตามกันได้เลย

จิโอวานนี่ ซิเมโอเน่ (เวโรน่า)

หลังแทบหัก! 5 แข้งที่เป็น 'เดอะ แบก' จนทีมไม่อาจขาดได้ หัวหอกวัย 26 ปี ลูกชายของยอดกุนซืออย่าง ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ที่ปัจจุบันถูก เวโรน่า ทีมในศึกกัลโช่ เซเรียอา อิตาลี ดึงตัวไปร่วมทีมในสัญญายืมตัวจาก กายารี่ แม้ชื่อชั้นอาจจะยังไม่ค่อยได้รับความสนใจมากเท่าไหร่นัก แต่ทว่าด้วยผลงานของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย และกลายเป็นดาวยิงคนสำคัญที่ทีมไม่อาจขาดได้ไปแล้ว ที่จริงชื่อเสียงของเขาเริ่มทำให้แฟนบอลรู้จักเป็นวงกว้างมากขึ้นเมื่อช่วงที่ย้ายไปค้าแข้งกับ เจนัว เมื่อซีซั่น 2016-17 ซีซั่นแรกกับทีมเจ้าตัวซัดไปถึง 13 ประตู จากการลงสนาม 36 เกม ก่อนย้ายไปซบอก ฟิออเรนติน่า ซึ่งผลงานโดยรวมก็ถือว่าสอบผ่านเลยทีเดียว แต่ทว่าสิ่งที่เขายังคงไม่อาจทำได้คือการรักษามาตรฐานของตัวเอง ซึ่งจะว่าไปมันก็เหมือนตัวฉุดรั้งการพัฒนาไปข้างหน้าของเจ้าตัวอยู่เหมือนกัน แต่กับฤดูกาลนี้การได้ย้ายไปร่วมทัพ เวโรน่า ทำให้ ซิเมโอเน่ ได้มีโอกาสเค้นฟอร์มเก่งของเขาออกมาอีกครั้ง แม้ช่วงออกสตาร์ทจะตีนบอดซัดประตูไม่ได้ติดต่อกันมากถึง 4 นัด แต่ทว่าหลังจากเปิดซิงประตูแรกได้ทุกอย่างก็เหมือนถูกปลดล็อก ก่อนจะมาสร้างชื่อได้อีกครั้งในเกมที่เหมาคนเดียว 4 ประตู นัดเปิดบ้านถล่มเอาชนะ ลาซิโอ 4-1 เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รวมแล้วซีซั่น 2021-22 ดาวยิงผู้นี้ซัดประตูให้ เวโรน่า ไปแล้ว 8 ประตู พ่วงด้วย 3 แอสซิสต์ รั้งเป็นรองดาวซัลโวของลีกอยู่ในตอนนี้ และจำนวนเกือบครึ่งที่ทีมยิงได้ต้องมีชื่อของ จิโอวานนี่ ซิเมโอเน่  เข้าไปมีส่วนร่วมด้วยอยู่เสมอ

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (บาเยิร์น มิวนิค)

หลังแทบหัก! 5 แข้งที่เป็น 'เดอะ แบก' จนทีมไม่อาจขาดได้ ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าชื่อของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่มีประสิทธิภาพในเรื่องของการทำประตูที่สุดโลกลูกหนังคนหนึ่งเลยก็ว่า เพราะด้วยสถิติตัวเลขต่างๆ และผลงานในสนามมันสามารถบ่งบอก และเป็นเครื่องการันตีความยอดเยี่ยมได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันแม้ "เลวี่" อายุจะเข้าสู่วัย 33 ปี แล้ว แต่ทว่ามาตรฐานของเขานั้นไม่ได้ต่ำลงเลยแม้แต่น้อย เขาสามารถยึดผลงาน และยืนระยะการถล่มประตูคู่แข่งแบบนี้มานานหลายปีแล้ว แน่นอนว่าส่วนหนึ่งที่เกื้อหนุนให้เขามีผลงานที่กระฉูดแตกแบบนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับเพื่อนร่วมทีมที่คอยสนับสนุนตัวเขา ฉะนั้นแล้วคำว่า "เดอะ แบก" ในเรื่องการทำประตูคงจะไม่มากเกินไปจะที่มอบให้กับเขาไปครอบครอง เพราะถ้านับตั้งแต่ฤดูกาล 2016-16 เป็นต้นมา ชื่อของ เลวานดอฟสกี้ การันตีประตูให้กับทีมได้อย่างน้อยๆ 40 ตุงมาโดยตลอด และเคยพุ่งกระฉูดแตกไปแตะถึงหลัก 55 ประตูเมื่อฤดูกาล 2019-20 อีกด้วย ซึ่งในซีซั่นดังกล่าวทัพ "เสือใต้" สามารถซิวถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก มาครองได้อีกด้วย และถ้าจะมีอะไรผิดพลาดคงเป็นตัวของ เลวาน เอง ที่ไม่ได้รับรางวัล บังลง ดอร์ เนื่องด้วยไม่ได้มีการจัดพิธีมอบรางวัล และกับฤดูกาลปัจจุบันความร้อนแรงของชายผู้นี้ยังคงไม่ลดละ เพราะเจ้าตัวกระหน่ำซัดไปแล้ว 22 ประตู จากการลงสนาม 16 นัดในทุกรายการ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดของนักเตะจาก 5 ลีกใหญ่ยุโรปในตอนนี้  นี่แหละบทพิสูจน์ชั้นยอดของผู้ที่ดูแลร่างกายตัวเองเป็นอย่างดี มันจึงส่งผลให้ในสนามผลงานของเขายังคงจับต้องได้ และยืนระยะได้อย่างยาวนาน พร้อมเป็นความหวังของทีมต่อไป

โจนาธาน เดวิส (ลีลล์)

หลังแทบหัก! 5 แข้งที่เป็น 'เดอะ แบก' จนทีมไม่อาจขาดได้ ดาวยิงวัย 21 ปี ที่ถือว่ายังคงเป็นดาวรุ่งที่กำลังพุ่งแรงอยู่ในศึกลีก เอิง กับ ลีลล์ ในตอนนี้ ซึ่งเจ้าตัวเพิ่งย้ายมาร่วมทีมเมื่อช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ทว่าก็สามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของฝรั่งเศสมาครองได้ทันที ด้วยสถิติซัดไป 13 ประตู ในเกมลีกเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ก่อนที่จะยังคงต่อยอดความร้อนแรงส่วนตัวมาจนถึงปัจจุบัน ในซีซั่น 2021-22 พวกเขาจะเสียแข้งตัวหลักของออกไปหลายราย แต่ทว่ากับ โจนาธาน เดวิส เขายังคงยืนเป็นกองหน้าตัวหลักของทีมตามเดิม แม้ผลงานโดยรวมของสโมสรจะไม่ค่อยไฉไลมากเท่าไหร่นักรั้งอันดับ 12 ของตารางคะแนน  แต่กับดาวยิงทีมชาติแคนาดาเจ้าตัวซัดไปแล้วถึง 8 ตุงในเกมลีก นำเป็นดาวซัลโวของลีก เอิง ลีกฟุตบอลที่อุดมไปด้วยแข้งระดับซูเปอร์สตาร์ไม่ว่าจะเป็น เนย์มาร์, คีเลียน เอ็มบัปเป้ หรือ ลิโอเนล เมสซี่  ซึ่งสิ่งที่สามารถยืนยันได้ว่า เดวิส คือกองหน้าคนสำคัญที่คอยแบกทีมอยู่นั้นคือการทำประตูสำคัญๆ พาทีมคว้าชัย ไม่ว่าจะเป็นเกมยิงประตูชัยเหนือ มงต์เปลลิเยร์ หรือเหมาคนเดียว 2 ประตู ในเกมที่เอาชนะ สตารส์บูร์ก และ โอลิมปิก มาร์กเซย บอกได้เลยว่าถ้า ลีลล์ ไม่มีดาวยิงรายนี้พวกเขาอาจจะทำคะแนนหล่นหายไปมากกว่านี้ก็เป็นได้

คาริม เบนเซม่า (เรอัล มาดริด)

หลังแทบหัก! 5 แข้งที่เป็น 'เดอะ แบก' จนทีมไม่อาจขาดได้ อีกหนึ่งดาวยิงที่ผลงานร้อนแรงอย่างต่อเนื่องซัดประตูกระจุยกระจายมากที่สุดคนหนึ่งในตอนนี้ ผลงานกระหน่ำ 13 ประตู จาก 14 เกมในฤดูกาลนี้คือหลักฐานชั้นยอดในความยอดเยี่ยมของดาวยิงชาวฝรั่งเศสผู้นี้ สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยคือนับตั้งแต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เก็บกระเป๋าย้ายออกไปจากทัพ "ราชันชุดขาว" เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2018 ผลงานของ เบนเซม่า ก็ดีขึ้นแบบเรื่อยๆ พร้อมสถาปนาตัวเองให้กลายเป็นดาวยิงหมายเลข 1 ของทีมได้สำเร็จ เพราะด้วยจำนวนประตูที่ไล่เรียงใน 3 ซีซั่นหลังสุดอยู่ที่ 30, 27 และ 30 มันก็เพียงพอต่อการเป็น "เดอะ แบก" คนใหม่ของทีมอย่างมากที่สุด แม้ปัจจุบัน "เบนซ์" จะมีอายุที่มากถึง 33 ปี แล้ว แต่ทว่าสิ่งที่ได้ทดแทนเข้ามาคือประสบการณ์, ความนิ่ง และ ความเก๋า ที่ทำให้เขามีความเยือกเย็นมากพอในการสังหารประตูคู่แข่ง อีกทั้งก็เริ่มได้คู่ขาคนใหม่อย่าง วินิซิอุส จูเนียร์ ที่ยังเด็ก และสดเข้ามาคอยประสานงาน ทำให้ผลงานของเขาสามารถจับต้องได้เหมือนกับในตอนนี้ ฉะนั้นด้วยขุมกำลังของ เรอัล มาดริด ในตอนนี้ ไม่แปลกที่แฟนบอลของพวกเขาจะภาวนาให้ เบนเซม่า อย่าได้มีอาการบาดเจ็บเข้ามารบกวนเลย เพราะต้องยอมรับจากใจจริงว่าถ้าขาดเขาไป "ราชันชุดขาว" คงระส่ำ และผลิตสกอร์ได้น้อยลงจากเดิมมากกว่าครึ่งอย่างแน่นอน

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (แมนฯ ยูไนเต็ด)

หลังแทบหัก! 5 แข้งที่เป็น 'เดอะ แบก' จนทีมไม่อาจขาดได้ เดินทางมาถึงคนสุดท้ายที่คงขาดเขาในลิสต์รายชื่อนี้คงเป็นไปไม่ได้ และยิ่งกับสถานการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในตอนนี้ต้องยอมรับว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือ "เดอะ แบก" ของทีมอย่างแท้จริง เพราะทุกคะแนนที่ทีมทำได้ในตอนนี้โดยเฉพาะในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก ล้วนมาจากความสามารถของเขาจริงๆ แม้จะมีเสียงวิจารณ์ถาโถมถึงการเข้ามาของเข้าที่ทำให้ระบบของทีมเสียไป แต่ทว่าด้วยความเป็น "ไอ้เจ็ตโด้" ในวัย 36 ปี จะให้ลงไปวิ่งไล่เหมือนครั้งยังหนุ่มก็คงจะไม่ไหว ฉะนั้นหน้าที่หลักของเขาคือการยิงประตู ซึ่งเขาสามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้เป็นอย่างดี หลักฐานชิ้นสำคัญคือการกระหน่ำประตูในช่วงที่ผ่านๆ มา ประตูชัยเหนือ บียาร์เรอัล, ซัดชัยท้ายเกมใส่ อตาลันต้า และล่าสุดเหมา 2 พาทีมเก็บ 1 คะแนนในเกมดวล อตาลันต้า รวมไปถึงสถิติการสอยตาข่ายคู่แข่ง 12 นัดที่เจ้าตัวลงเล่นภายใต้เครื่องแบบตรา “ปีศาจแดง” นับตั้งแต่ย้ายกลับมาก็กระหน่ำไปได้ถึง 9 ตุง  ฉะนั้นด้วยผลงานแบบนี้บทบาท "เดอะ แบก" ควรที่จะบรรจงใส่กรอบเลี่ยมทองให้กับเขาด้วยซ้ำ เพราะมันไม่ใช่เพียงเซฟคะแนนช่วยทีม แต่มันยังเป็นการเซฟเก้าอี้ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ให้อยู่ในตำแหน่งจวบจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ด้วย

- Paolinho -

logoline