ประเด็นหลังเกม ผีแดง บุกรัวประตูสอย 3 แต้มจากรัง เบรนท์ฟอร์ด
กลับมาคว้าชัยชนะในเกมลีกได้อีกครั้งสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายหลังบุกไปเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด ได้ 1-3 เมื่อค่ำคืน (19 ม.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งในเกมนี้มีเรื่องราวให้พูดถึงมากมาย
ถ้าใครตื่นมาดูแค่ผลการแข่งขันอาจคิดว่าเป็นฝั่ง "ปีศาจแดง" เดินหน้าบุกเข้าใส่ แต่ความจริงหาใช่แบบนั้น เพราะพวกเขาก็เกือบโดนสอยประตูอยู่หลายครั้งเหมือนกัน
ว่าแล้วในเกมตลอด 90 นาที มีประเด็น หรือเหตุการณ์อะไรน่าสนใจบ้าง ขอบสนาม ของเราได้หยิบยกมารวบรวมไว้ให้หมดแล้ว
การจัดทัพ
การจัดทัพวันนี้ของ ราล์ฟ รังนิค ข่าวดีคงเป็นการคัมแบ็คของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่สลัดอาการบาดเจ็บกลับมาลงสนามได้อีกครั้งภายหลังหายหน้าไปในช่วง 2 เกมหลังสุด ส่วนตำแหน่งอื่นๆ เจ้าหนู แอนโธนี อีลันก้า ยังคงได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่อง ภายหลังทำผลงานได้น่าประทับใจในเกมล่าสุด ส่วนเกมรุกคนอื่นๆ ประกอบไปด้วย เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นานเดส และ เฟร็ด พร้อมปรับโฉมมายืนในระบบ 4-3-3
เกมรับเกมนี้เลือกที่จะดร็อป แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เป็นตัวสำรอง เนื่องด้วยจากคาดการณ์ของสื่อว่าปราการหลังกัปตันทีมยังมีสภาพร่างกายที่ยังไม่ฟิตสมบูรณ์แบบ 100% ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ก็ตามคาดฟูลแบ็คใช้บริการของ อเล็กซ์ เตลลิส, ดิโอโก้ ดาโลต์ คู่เซ็นเตอร์เป็น ราฟาเอล วาราน จับคู่กับ วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ โดยมี สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ คอยปัดกวาดอยู่หน้าแผงกองหลัง
หลวงพี่เด เหนี่ยวจริงๆ
มองตามรูปเกมที่ปรากฎออกมาถ้าครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มี ดาบิด เด เคอา ยืนเฝ้าที่หว่างเสาไม่แน่พวกเขาอาจตามหลังไปก่อนก็เป็นได้ แต่เนื่องด้วยผลงานที่กำลังขึ้นหม้อแบบสุดๆ ของนายด่านเลือดกระทิงดุทำให้สามารถงัดผลงานที่ยอดเยี่ยมออกมาได้ เซฟเป็นพัลวันนับนิ้วดูมีช็อตสำคัญๆ 3 ครั้งเป็นอย่างน้อย
ซึ่งนี่แหละคือจุดเปลี่ยนของเกมอย่างแท้จริง เพราะถ้า เบรนท์ฟอร์ด สามารถช่วงชิงจังหวะขึ้นนำไปได้ก่อนรูปโฉมของเกมคงพลิกไปอีกในแบบนึงทันที และบางทีนั้นอาจทำให้ทัพ "ปีศาจแดง" พุ่งชนความหายนะอีกครั้ง เพราะว่ากันตามจริงแม้ครึ่งแรกจะเป็นพวกเขาครองบอลได้ตามคำสั่งของนายใหญ่ แต่ก็ไม่มีจังหวะทีเด็ดทีขาดในเกมรุกที่แสดงความอันตรายออกมาได้เลย
ฉะนั้นแล้วการมีผู้รักษาประตูที่ไว้ได้แบบ "หลวงพี่เด" นั้นสามารถช่วงกำหนดทิศทางผลการแข่งขันได้จริงๆ และอีกอย่างคงมีไม่มากที่ทีมสามารถกระทุ้งคู่แข่งได้ถึง 3 ประตู แต่นายด่านผู้นี้ได้รับคำชื่นชมพลางถูกยกย่องให้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของสื่อในหลายๆ สำนัก
อีลันก้า นับหนึ่งยุค รังนิค
ถ้าจะถามหาดาวรุ่งที่ดูเหมือนจะถูกชะตากับ รังนิค มากที่สุดคงหนีไม่พ้นเจ้าหนู แอนโธนี อีลันก้า อย่างแน่นอน เพราะนับตั้งแต่นายใหญ่ชาวเยอรมันเข้ามาทำทีมเด็กหนุ่มวัย 19 ปี ก็ได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องนับเฉพาะเกมลีกนี่ก็เป็นแมตช์ที่ 4 เข้าให้แล้ว
ซึ่งเหตุผลที่ รังนิค เลือกใช้งานเขาก็เพราะประทับใจในการฝึกซ้อม ที่สำคัญคือการทำงานอย่างหนักของเด็กคนนี้ พร้อมเชื่อฟังคำแนะนำและปรับใช้กับตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่แปลกที่ในช่วงเวลาไม่กี่เดือนจะแปรสภาพกลายเป็นหนึ่งในขุมกำลังคนสำคัญของทีมชุดใหญ่ไปแล้ว ว่าแล้ว อีลันก้า ก็เริ่มปรับตัว และตอบแทนความไว้ใจได้มากขึ้นเรื่อยๆ
จากตอนแรกที่ดูตื่นสนามไปหน่อยไม่ค่อยมีความโดดเด่นอะไรมากนัก ก็เริ่มปรับตัว และสร้างประโยชน์ให้ทีมจนเกิดภาพที่ชัดเจนมากขึ้นนับตั้งแต่เกมที่พบกับ วิลล่า เมื่อสุดสัปดาหก์ จนกระทั่งเกมล่าสุดที่สามารถทำประตูแรกในยุคเจ้านายคนใหม่ได้สำเร็จ ซึ่งนั้นกลายเป็นประตูที่ปลุกปีศาจให้กลับมามีความมั่นใจอย่างแท้จริง ก่อยที่จะรัวเพิ่มอีก 2 ตุง
ทั้งนี้ประตูล่าสุดถือว่าเป็นการสอยประตูในทีมชุดใหญ่ของทัพ "ปีศาจแดง" ตุงที่ 2 ภายหลังเปิดซิงประตูแรกในเกมนัดสุดท้ายของซีซั่นที่ผ่านมาภายหลัง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มอบโอกาให้กับเขา ก่อนตอบแทนด้วยการสอยประตูใส่ วูลฟ์แฮมป์ตัน เป็นรางวัลตอบแทน
พี่โด้ งอนเล็กน้อย
อีกหนึ่งช็อตที่กลายเป็นไฮไลท์ของเกมนี้คือจังหวะการเปลี่ยนตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ออกจากสนามในช่วงนาทีที่ 71 ซี่งปฎิกิริยาของพี่แกชัดเจนว่าออกอาการเซ็ง และงอนไม่ใช่น้อย จนถึงขั้น รังนิค ต้องลงไปนั่งเพื่ออธิบายถึงเหตุ และผลในการเลือกตัดสินใจเปลี่ยนตัวพี่ใหญ่อย่างเขาออกจากสนาม
ซึ่งมองในอีกมุมถือว่านายใหญ่ชาวเยอรมันมีความใจกล้า แสดงให้เห็นว่าทุกคนมีความเท่าเทียมและต้องทำเพื่อทีมมากกว่าผลประโยชน์ของตัวเอง ว่าแล้วหลังจบเกม รังนิค ก็ได้ออกมาแถลงไขถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า
"ผมแฮปปี้ที่มีเขาอยู่ในเกมวันนี้ ผมบอกเขาไปว่าเรานำอยู่ 2-0 และต้องเรียนรู้จากเกมที่ วิลล่า พาร์ค เราต้องตั้งรับ และมันสำคัญที่เราต้องเล่นกองหลัง 5 คน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก"
"ฟังนะ คริสเตียโน่ คุณอายุ 36 ปีอยู่ในสภาพที่ดี แต่เมื่อเป็นเฮดโค้ช คุณจะเห็นมันผ่านแว่นตาของเฮดโค้ช ซึ่งงานของผมคือการตัดสินใจเพื่อประโยชน์สูงสุดของทีมและสโมสร และผมหวังว่าเขาจะเห็นมันในแบบเดียวกัน"
บรูโน่ กลับเข้าฝัก
สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยคือในฤดูกาลผลงานส่วนตัวของ บรูโน่ แฟร์นานเดส ดูดร็อปลงไปจากซีซั่นก่อนๆ มากพอสมควร ถ้าพูดถึงยอดการทำประตู หรือ แอสซิสต์ มันลดหายไปมากกว่าครึ่งจากสิ่งที่เขาเคยทำได้ รวมไปถึงสิ่งที่เขาเคยทำได้ได้เป็นอย่างดีในเรื่องของการจ่ายบอลก็ดูเหมือนประสิทธิภาพตรงนี้จะดูด้อยลงไป
แต่ทว่ากับ 2 เกมล่าสุดดูเหมือนแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้เห็น บรูโน่ คนเดิมกลับมาแล้ว เนื่องด้วย 2 ประตู 2 แอสซิสต์ ที่ทำได้นั้นน่าจะเรียกความมั่นใจให้กับดาวเตะชาวโปรตุเกสไม่ใช่น้อย ภายหลังเงียบหายในเรื่องของการมีส่วนร่วมกับประตูไปนานพอสมควร ทำให้ยอดรวมในเกมพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ของเจ้าตัวทำไปแล้ว 7 ประตู กับ 5 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 20 นัด
จากนี้แฟนบอล "เร้ด เดวิลล์" ก็คงจะหวังว่า บรูโน่ จะสามารถรักษมาตรฐาน และกลับมาเป็นเพชรฆาตรในการทำประตู และแอสซิสต์งามๆ ให้เพื่อนร่วมทีมได้อีกครั้ง เพราะนอกจาก เด เคอา ที่คอยกำหนดทิศทางของทีมแล้ว อีกคนคงเป็น บรูโน่ นี่แหละที่ถ้าเกมไหนเขามีส่วนร่วมกับเกมรุกเยอะโอกาสที่ทีมจะผลิตประตูได้มันก็ย่อมเยอะไปด้วย พร้อมเพิ่มโอกาสที่จะคว้าชัยชนะเพิ่มไปอีกเป็นเท่าตัว
- Paolinho -
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม