Top 10 : เหล่าแข้ง พรีเมียร์ลีก ค่าเหนื่อยแพงสุด (ฉบับอัพเดทล่าสุด)

วันนี้มาดูกันที่เรื่องเงินๆ ทองๆ กันบ้างสำหรับเหล่าบรรดาพ่อค้าแข้งบนสังเวียน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้รับค่าเหนื่อยแพงที่สุด จะมีใครบ้างนั้นไปติดตามคอนเทนต์จากทางเรา "ขอบสนาม" ได้เลยครับ

ปอล ป็อกบา

นับตั้งแต่ย้ายจาก ยูเวนตุส กลับมาพิสูจน์ตัวเองในสีเสื้อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2016 จนถึงตอนนี้ชื่อของ ปอล ป็อกบา ก็ยังคงติด 1 ใน Top 10 ของพ่อค้าแข้งที่รับค่าเหนื่อยแพงที่สุดบนสังเวียน พรีเมียร์ลีก ที่ 290,000 ปอนด์ตอสัปดาห์ โดยตลอด 6 ฤดูกาลกับ "ปีศาจแดง" ก็มีทั้งเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายกับ ปอล ป็อกบา ไม่ว่าจะทั้งดีและไม่ดีกับการลงเล่นไป 200 กว่านัด เรียกได้เป็นนักเตะที่มีเรื่องให้พูดถึงอยู่ตลอดเวลาจริงๆ  เช่นเดียวกับตอนนี้ที่อนาคตของ ป็อกบา กำลังเป็นเครื่องหมายคำถามว่าจะอยู่หรือไปจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กันแน่ ? เมื่อสัญญาปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในช่วงซัมเมอร์นี้ และก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ให้ทราบ มิหนำซ้ำเอเยนต์ส่วนตัวอย่าง มิโน ไรโอล่า ก็แสดงท่าทีอยู่ตลอดว่าอยากให้ ป็อกบา ย้ายออกจากรั้ว โรงละครแห่งความฝัน ท่ามกลางความสนใจจากหลายทีมดังไม่ว่าจะเป็น ยูเวนตุส, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ เรอัล มาดริด แต่ถ้าหากว่าเขาต่อสัญญา ดีไม่ดีอันดับอาจจะขยับไปที่ 1 เลยก็ได้ 

เอ็นโกโล่ ก็องเต้

ถึงอายุอายามจะก้าวเข้าสู่เลขสามแล้วแต่เรื่องของคุณภาพและศักยภาพฝีเท้าไม่ได้ตกลงเลยแม้แต่น้อยสำหรับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เขายังคงเป็นนักเตะที่สร้างปัญหาและสร้างความกดดันให้กับคู่แข่งได้มากมายมหาศาลกับการวิ่งไล่เพรสซิ่งไปทั่วสนาม บีบพื้นที่ให้ศัตรูเล่นยากและเสียจังหวะอยู่ตลอดเวลา เรื่องของการตัดบอลหรือเข้าสกัดก็ยังคงหวังผลได้ดีและชินตาเหมือนเดิมซึ่งมันก็สมเหตุสมผลดีกับการที่พี่แกได้ชื่อว่าเป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดในโลกลูกหนัง ณ ตอนนี้ การมีกับไม่มี ก็องเต้ ในสนามมันส่งผลมากๆ โดยเฉพาะช่วง 1-2 ปีหลังที่เจอปัญหาอาการบาดเจ็บตามรุมเร้า สังเกตได้เลยว่าประสิทธิภาพเกมตรงกลางและเกมรับของ เชลซี ยวบลงไปแบบเห็นได้ชัด แน่นอนว่าจนถึงตอนนี้ชื่อของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ก็ยังคงเป็นเป้าหมายของเหล่าบรรดาทีมยักษ์ใหญ่กับสัญญาที่เหลืออีกแค่ 1 ปี แต่ดูแล้วนักเตะประเภท แรร์ ไอเท็ม แบบเขา เชลซี คงไม่ยอมเสียให้ใครง่ายๆ แน่ พวกเขาพร้อมอยู่แล้วที่จะให้สัญญาฉบับใหม่ แต่ก็ต้องดูว่าเงื่อนไขจะเป็นยังไง เรื่องของค่าเหนื่อยจะอัพให้มากกว่าเดิมที่รับอยู่ 290,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์รึเปล่ากับนักเตะที่อายุ 30 ปีแล้ว ?

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง 

การย้ายมาอยู่กับทีมระดับเศรษฐีอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยิ่งอยู่ในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นับเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยยกระดับให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กลายเป็นนักเตะที่ดีและอันตรายที่สุดคนหนึ่งบนสังเวียน พรีเมียร์ลีก ถึงจะมีเสียงวิจารณ์อยู่ไม่น้อยตอนย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล โดยเฉพาะเรื่องความหิวเงินและหิวความสำเร็จ แต่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเขาคู่ควรกับค่าเหนื่อยที่รับอยู่ 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์กับการเป็นขุมกำลังสำคัญที่พา "เรือใบสีฟ้า" กอบโกยความสำเร็จได้มากมายในยุคนี้ อย่างไรก็ตามเรื่องอนาคตของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ก็เป็นสิ่งที่กำลังถูกพูดถึงเหมือนกันกับบทบาทที่ลดน้อยลงในปีนี้จากการเซ็นสัญญา แจ็ค กรีลิช มาร่วมทีม รวมไปถึงแนวรุกคนอื่นๆ ที่ผลงานก็ดูดีและเข้าตาเช่นกัน จนถึงขั้นออกมาตัดพ้อว่าอยากย้ายออกจากทีมเลยทีเดียว ถึงตอนนี้จะกลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีและได้โอกาสจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อีกครั้ง แต่เดี๋ยวซัมเมอร์นี้ก็ต้องมาดูกันอีกทีว่า สเตอร์ลิ่ง จะตัดสินใจยังไง ? จะอยู่หรือไปจากทีมกันแน่ ?

โรเมลู ลูกากู

โรเมลู ลูกากู ได้รับการยกย่องว่าเป็นกองหน้าที่ดีที่สุดคนหนึ่งในโลกลูกหนังยุคปัจจุบันจากผลงานการระเบิดสกอร์ไว้กับ อินเตอร์ มิลาน ที่แตะหลัก 30 ประตูต่อซีซั่น และนั่นก็ทำให้พี่แกได้กลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งบนสังเวียน พรีเมียร์ลีก กับ เชลซี ทีมเก่าด้วยค่าตัวจำนวนมหาศาลและเป็นหนึ่งในนักเตะที่รับค่าเหนื่อยแพงที่สุดของลีกที่ 325,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และที่สโมสรกล้าทุ่มทุนไปขนาดก็หมายมั่นปั้นมือมากๆ ว่าปีนี้ทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" ต้องหยิบแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาครองให้จงได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นกลับเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามเมื่อ ลูกากู ต้องเจอกับปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงาน ไหนจะมีช่วงที่ติดเชื้อ โควิด-19 อีก มิหนำซ้ำก่อนหน้านี้ก็เพิ่งก่อเรื่องเอาไว้ที่ออกมาเปิดใจว่าไม่มีความสุขกับชีวิตที่ เชลซี ไม่ชอบแท็คติกและสไตล์การทำทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล และยังคิดถึง อินเตอร์ มิลาน เล่นทำเอาทัวร์ลงกันยกใหญ่ในโลกโซเชี่ยล ถึงตอนนี้เรื่องดังกล่าวจะจบไปแล้วแต่ ลูกากู ก็ผลงานไม่ดีขึ้นแถมโดนวิพากษ์วิจารณ์อีกเรื่องความไม่ทุ่มเทจนเป็นส่วนให้ เชลซี ทำแต้มหล่นกระจายในช่วงนี้

ราฟาเอล วาราน

ราฟาเอล วาราน กลายเป็นผู้เล่นกองหลังที่รับค่าเหนื่อยแพงที่สุดบนหน้าประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ 340,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เมื่อตัดสินใจย้ายจาก เรอัล มาดริด มาเฝ้าหลังบ้านให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยค่าตัว 43 ล้านปอนด์ สร้างความดี๊ด๊าให้กับเหล่าบรรดาสาวก "เร้ด เดวิลส์" อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว และก็ทำผลงานได้ค่อนข้างดีเลยด้วย มีความแข็งแกร่ง เข้าบอลไว อ่านเกมขาด และมีความคล่องตัวในระดับสูง แต่น่าเสียดายที่ปีแรกของเขากับ แมนฯ ยูไนเต็ด โชคชะตามันไม่ได้ดูสวยหรูอย่างที่คิด นอกจากผลงานอันน่าผิดหวังของทีมแล้วตัวของ ราฟาเอล วาราน ยังต้องเจอกับพิษปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นอีกงานซ้ำอีกต่างหากทั้งที่ขาหนีบและแฮมสตริง ต้องพักรักษาตัวรวมกันไปราวๆ 65 วัน ชวดลงเล่นให้ "ปีศาจแดง" ไปทั้งหมด 13 นัดด้วยกัน

จาดอน ซานโช่ 

นี่คือนักเตะที่แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งความหวังเอาไว้สูงมากๆ สำหรับ จาดอน ซานโช่ เมื่อดูจากโปรไฟล์ที่พี่แกสร้างไว้ในระดับ มาสเตอร์ พีซ กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่โดดเด่นและครบเครื่องในการเล่นเกมบุก ด้วยทักษะและพรสวรรค์ในระดับสูง มีการสร้างสรรค์โอกาสที่มากมาย ตลอดจนเรื่องสถิติการพังประตูที่ได้ไม่แพ้ผู้เล่นตำแหน่งกองหน้า การลงเล่นไป 137 นัด ยิงได้ 50 ประตู และกดไปอีก 66 แอสซิสต์ไม่มีเด็กอายุ 20 คนไหนสามารถทำได้สุดยอดขนาดนี้ และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะตามจีบอยู่นานหลายปีจนสุดท้ายก็ได้ตัวมาครองในค่าตัว 73 ล้านปอนด์ พร้อมประเคนค่าเหนื่อยให้ในระดับ 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม เพราะจนถึงตอนนี้ จาดอน ซานโช่ ยังคงปรับตัวไม่ได้ เล่นแบบกล้าๆ กลัวๆ จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายว่านี่คือหนึ่งในดีลสุดพังของ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะจนถึงตอนนี้ จาดอน ซานโช่ เพิ่งจะได้ลงเล่นไปแค่ 23 นัด เป็นตัวสำรองมากกว่าตัวจริง และทำไปแค่ 2 ประตูเท่านั้น

ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอยอง

ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอยอง คืออีกหนึ่งกองหน้าที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นระดับเพชรฆาตอีกคนเมื่อดูจากสถิติการพังประตูที่ถล่มทลายแตะหลัก 30 ประตูอัพตั้งแต่สมัยอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เช่นเดียวกับตอนย้ายมารับใช้ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ถ้าไม่นับครึ่งฤดูกาลแรกขอบอกเลยว่าหลังจากนั้น 2 ซีซั่นพี่แกมีค่าเฉลี่ยซัลโวในระดับ 30 ประตูต่อซีซั่น กลายเป็นความเบอร์ 1 ของทีมก่อนจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมคนใหม่ของ "เดอะ กันเนอร์ส" แทนที่ กรานิต ชาก้า ตั้งแต่อดีตจนถึงปลอกแขนกัปตันทีม อาร์เซน่อล เหมือนจะเป็นอาถรรพ์คำสาปสำหรับทุกๆ คน ไม่เว้นแม้แต่ โอบาเมอยอง เพราะนั่นคือช่วงที่พี่แกต่อสัญญาใหม่และได้รับค่าเหนื่อยสุดแพงที่ 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ก่อนจะเกิดเรื่องราวขึ้นมากมายโดยเฉพาะเรื่องความประพฤติที่ผิดวินัยในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นมาซ้อมสาย, ชอบไปสังสรรค์ปาร์ตี้ ทำผิดมาตรการการป้องกัน โควิด-19 ก็บ่อย จนเป็นเหตุให้สโมสรต้องสั่งริบปลอกแขนกัปตันทีมในที่สุด และด้วยฟอร์มที่ตกลงไปอย่างน่าใจหายมันก็ทำให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอยอง กลายเป็นนักเตะที่ อาร์เซน่อล ไม่ได้โหยหาอีกต่อไป

ดาบิด เด เคอา

นี่คือผู้เล่นที่รับค่าเหนื่อยแพงที่สุดเป็นเบอร์ต้นๆ ของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สำหรับ ดาบิด เด เคอา ที่ 375,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่ไม่น้อยเกี่ยวกับผลงานส่วนตัวของเขา มีช็อตเหวอ มีช็อตพลาดง่ายๆ บ่อยครั้ง ดูอย่างฤดูกาลก่อนที่พี่แกเสียไป 32 ประตู และเก็บได้ 9 คลีนชีทจากการลงเฝ้าเสา 26 นัดในลีก จนเกิดกระแสวิจารณ์ว่ามันหมดเวลาแล้วสำหรับเขา และ แมนฯ ยูไนเต็ด ควรเปิดทางและผลักดันน้อง ดีน เฮนเดอร์สัน ขึ้นมาได้แล้ว อย่างไรก็ตามฤดูกาล 2021-22 ดาบิด เด เคอา กลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้ง แต่มันก็ค่อนข้างสวนทางกับผลงานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เสียไปแล้ว 29 ประตูจากการลงเล่น 20 นัด และเพิ่งจะเก็บได้แค่ 4 คลีนชีทเท่านั้น ตอนนี้รั้งอยู่ที่ 7 มีแต้มตามหลัง แมนฯ ซิตี้ อยู่ 24 คะแนน แน่นอนว่าความหวังในการลุ้นแชมป์นี้ได้หมดลงไปเรียบร้อยแล้ว แต่จริงๆ ก็ต้องยอมรับว่าถ้าเกิดปีนี้ไม่ได้ ดาบิด เด เคอา เชื่อได้เลยว่า "ปีศาจแดง" น่าจะมีโอกาสโดนมากกว่านี้อีก 

เควิน เดอ บรอยน์

เควิน เดอ บรอยน์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่ต่างจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ของ ลิเวอร์พูล เมื่อพูดถึงความครบเครื่องสมบูรณ์แบบ ทักษะและพรสวรรค์ในระดับสูง รวมไปถึงการเป็นผู้เล่นที่สามารถตัดสินเกม และสร้างความแตกต่างหรือสิ่งมหัศจรรย์ได้อยู่ตลอด ด้วยความที่พี่แกได้ชื่อว่าเป็นนักเตะระดับท็อป มีผลงานที่คงเส้นคงวามาโดยตลอดดังนั้นการได้รับค่าเหนื่อยในระดับ 400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์จึงไม่ใช่เรื่องที่ชวนให้รู้สึกเซอร์ไพรส์แต่อย่างใด ถึงจะมีปัญหาอากาารบาดเจ็บตามรังคงานอยู่ตลอดแต่นั่นก็ไม่เคยหยุดหรือฉุดให้ศักยภาพฝีเท้าของ เควิน เดอ บรอยน์ ตกลงเลยแม้แต่น้อย เขายังคงเป็นกำลังสำคัญในการล่าความสำเร็จของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จนถึงตอนนี้ ล่าสุดก็เพิ่งซัดประตูชัยอย่างงามพาทีมเชือด เชลซี ไป 1-0 พร้อมกับครองตำแหน่งจ่าฝูงยาวๆ และมีแต้มทิ้งอันดับ 2 อย่าง ลิเวอร์พูล ถึง 11 แต้มเลยทีเดียวนับว่ามีโอกาสสูงมากในการป้องกันแชมป์ในซีซั่นนี้

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้มอบของขวัญสุดเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนบอล "เร้ด เดวิลส์" เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมากับการพา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับมาค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นคำรบที่ 2 พร้อมกับประเคนค่าเหนื่อยให้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่ 485,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และถึงแม้จะอายุจะปาเข้าไป 36 แล้วแต่ก็ยังได้ชื่อว่าผู้เล่นประเภทเครื่องจักรถล่มประตูเหมือนเคยกับการซัลโวไปแล้ว 14 ประตูจากการลงเล่น 21 นัด ด้วยความที่ เจ้าของโค้ดเนม CR7 ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกลูกหนังยุคปัจจุบัน การกลับมาของเขาทุกๆ คนคาดหวังว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะต้องมีถ้วยแชมป์อย่างแน่นอน แต่ในความเป็นจริงมันไม่ง่ายขนาดนั้น ถึงตัวของ โรนัลโด้ จะผลงานดี ยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง แต่ภาพรวมผลงานของ "ปีศาจแดง" กลับไม่ได้ปังอย่างที่ควรจะเป็น เผลอๆ อาจดูแย่กว่าปีก่อนๆ ด้วยซ้ำไป มันก็เลยมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่ไม่น้อยว่าการพา โรนัลโด้ กลับมาเหมือนจะเป็นการทำลายความสมดุลของทีม อย่างไรก็ตามฤดูกาลนี้ยังอีกยาวไกลถึงความหวังในการลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก จะดูหมดไปแล้ว แต่ในรายการสำคัญอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ยังอยู่ในเส้นทางที่ดีอยู่ ยิ่ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ค่อนข้างถูกโฉลกกับรายการนี้ด้วย ดังนั้นมันก็ยังมีความหวังที่เราจะได้เห็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชูถ้วยโทรฟี่ใบนี้ในซีซั่น 2021-22 ก็เป็นได้

HaMu Dos Santos