logo-heading

"Welcome to Thailand" ต้องขอใช้คำนี้ต้อนรับ "ราโดวาน เคอร์ซิซ" กุนซือคนล่าสุดที่เข้ามาพิสูจน์ฝีมือในเวทีไทยลีก กับทีม กิเลนผยอง โดยมีการเปิดตัวกันไปเรียบร้อยเมื่อวานนี้ (30 เม.ย.) แน่นอนว่าแฟนบอลเมืองทอง คงจะรู้สึกตื่นเต้นและอยากเห็นทีมกิเลนยุคใหม่ของกุนซือชาวเซิร์บรายนี้ว่าจะเด็ดดวงแค่ไหน

การมาของ ราโดวาน เคอร์ซิซ สู่รั้วเอสซีจี สเตเดี้ยม เขาไม่ใช่คนแรกที่เป็นกุนซือชาวเซิร์บของทีมกิเลนผยอง เพราะก่อนหน้านี้ก็มี สลาวิซ่า โยคาโนวิช หรือ "ยอคก้า" ผู้พาทีมคว้าแชมป์ไทยลีกไร้พ่ายปี 2012 และอีกคนคือ ดราแกน ทาลายิช กุนซือชาวโคแอต แต่มีเชื่อสายเซอร์เบีย เช่นกัน มองเผินๆ แบบแฟนบอลไทยทั่วไป หรือต่อให้เป็นคอบอลนอกตัวจริงก็อาจจะไม่ได้รู้จักหรือคุ้นชื่อของกุนซือคนใหม่เมืองทองฯ คนนี้เท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้ว โค้ชระดับอดีตคุมทีมชาติเซอร์เบีย มาคุมทีมไทยลีกถือว่าไม่ธรรมดา ยิงในแวดวงฟุตบอลเซอร์เบีย ถือเป็นโค้ชที่มีชื่อเสียงอยู่ไม่น้อย กระทั่งบรรดาโค้ชชาวเซอร์เบีย หลายๆ คนที่ทำงานอยู่ในเมืองไทย ก็ยังแปลกใจว่า "เมืองทองฯ ไปเอามาได้ยังไงแว้?" ขอต้อนรับ "ราโดวาน เคอร์ซิซ" กุนซือคนใหม่สู่สมรภูมิไทยลีก สำหรับผมเองก็ยอมรับตามตรงว่าไม่ได้รู้จัก หรือเคยได้ยินเชื่อเสียงเรียงนามอะไรมากนักหรอก แต่พอไปค้นหาดูประวัติการคุมทีมที่ผ่านๆ มา ก็ไม่ธรรมดาเลยนะครับ แต่ตอนที่คุมทีมในระดับสโมสรอาจจะไม่ได้คุมทีมที่มีชื่อเสียงมากนักอย่าง ยาวอร์ อิวานยิก้า กับ โบรัช คาซัค ในบ้านเกิด จากนั้นก็มาเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมชาติ ได้คุมทีม ยู 21 ก่อนจะมารักษาการและคุมทีมชาติเซอร์เบีย ชุดใหญ่ ในปี 2014 แต่ก็คุมไป 10 กว่านัด สุดท้ายก็แยกทางกันไปเมื่อปี 2016 ก่อนจะมารับงานที่เอสซีจี สเตเดี้ยม นี่ถือเป็นงานที่ท้าทายของกุนซือวัย 47 ปี มากๆ เพราะเป็นการคุมทีมนอกบ้านเกิดครั้งแรก อีกทั้งเป็นการกลับมาคุมทีมระดับสโมสรอีกครั้งในรอบกว่า 8 ปี เลยทีเดียว ในศึกไทยลีกทั้งในอดีตและปัจจุบัน มีโค้ชชาวเซอร์เบีย ทั้งเป็นชาวเซิร์บแบบเต็มตัว และพวกโค้ชที่มีเชื่อสาย ต่างมาคุมทีมในลีกไทยกันมากมาย อย่างอดีตที่ดังๆ และประสบความสำเร็จก็อย่าง สลาวิซ่า โยคาโนวิช กับ เมืองทอง, รันโก้ โปโปวิช กับ บุรีรัมย์ ส่วนที่ตอนนี้ยังคุมทีมอยู่ก็มีหลายคนอย่าง มิลอส โจซิค ของโคราช และ โบซิดาร์ บันโดวิช ของบุรีรัมย์ ขอต้อนรับ "ราโดวาน เคอร์ซิซ" กุนซือคนใหม่สู่สมรภูมิไทยลีก และเกมแรกที่ ราโดวาน เคอร์ซิซ จะลงคุมทีมกิเลนผยอง ก็โดนรับน้องด้วยซูเปอร์บิ๊กแมตชเลยจ้า ด้วยการนำทีมบุกไปเยือนถิ่นช้าง อารีน่า ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในศึกฟรายเดย์ไนท์ วันศุกร์ที่ 4 พ.ค.นี้ ถือเป็นเกมแรกที่โหดมากๆ ที่ เคอร์ซิซ จะได้พิสูจน์ฝีมือตัวเอง ราโดวาน เคอร์ซิซ มีเวลาคุมทีมเมืองทองเพียงแค่ 4 วันก่อนบุกไปเยือนบุรีรัมย์ แต่มันไม่มีอะไรน่าเสียหายกับผลการแข่งขัน เพราะถ้าแพ้กลับออกมาก็เสมอตัว เพราะเพิ่งมาคุมทีม เวลาปรับจูนอะไรให้เข้าที่มันน้อย แต่ถ้าเสมอได้หรือชนะกลับออกมานี่จะเป็นการเปิดตัวที่สุดยอด และเพอร์เฟกต์มากๆ อีกทั้งจะดูหล่อขึ้นมาเลย แต่มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือการเซ็นสัญญาครั้งนี้ของกุนซือเซอร์เบีย กับ เมืองทองฯ เป็นเพียงแค่สัญญาระยะสั้นเพียงแค่จบฤดูกาลนี้ แต่ก็มีออฟชั่นที่จะต่อเพิ่มได้ถ้าต่างฝ่ายต่างพอใจซึ่งกันและกัน ก็ถือว่าเป็นสัญญาที่แฟร์ทั้งสองฝ่าย เพราะปีนี้ก็ลองคุมทีมดูก่อน ถ้าปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตในเมืองไทย อยู่แล้วแฮปปี้ ผลงานดี ทั้งเมืองทองฯ และ เคอร์ซิซ เองก็คงอยากจะร่วมงานกันต่อ แต่ถ้าอยู่แล้วไม่มีความสุข ผลงานดิ่งลงเหว ก็แยกย้ายกันไป เพราะการจะทำสัญญาระยะยาวมันก็เสี่ยงเกินไป เพราะเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าไทยลีกเป็นอย่างไร คงต้องใช้เวลาศึกษาสักระยะหนึ่ง เช่นเดียวกับเมืองทองฯ ก็ยังไม่รู้ว่ากุนซือที่เลือกจิ้มมานี้จะเวิร์คและเข้ากับทีมได้หรือเปล่า การเซ็นสัญญาระยะสั้นก็ถือว่าวินๆ ทั้งคู่ แต่ถ้าดูจากบรรดากุนซือเซอร์เบียที่มาหากินในเมืองไทย ส่วนใหญ่จะทำผลงานได้น่าพอใจ เรื่องการใช้ชีวิตในเมืองไทย ยิ่งเมืองหลวงแบบนี้ด้วยแล้ว ยิ่งไม่มีปัญหาใหญ่ ดูง่ายๆ อย่าง มิโลวาน ราเยวัช ลุงแกแฮปปี้มากกับชีวิตในไทยแลนด์ ขอต้อนรับ "ราโดวาน เคอร์ซิซ" กุนซือคนใหม่สู่สมรภูมิไทยลีก ท้ายที่สุดแล้วก็คงไม่มีใครที่จะบอกได้ว่า ราโดวาน เคอร์ซิซ จะใช่คนที่เอสซีจี เมืองทองฯ ตามหาหรือไม่ จะเกาถูกที่คันหรือเปล่า ก็คงต้องให้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ดูจากความตั้งใจ แววตา และการนำทีมงานมาแบบครบทีมแบบนี้ เชื่อเลยว่า เราน่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของทีมกิเลนผยอง โดยเฉพาะเลกสอง น่าจะมีอะไรใหม่ๆ เข้ามาสู่ทีม

ชิชาริเต่า

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline