ซึ่งเรื่องของความจอมพลังมันจำแนกไปได้ในหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น วิ่งเยอะ, แข็งแกร่ง หรือ ร่างกายที่มีกล้ามเนื้อมัดโต ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราจึงได้ทำการคัดสสรเหล่า 5 แข้งในยุคปัจจุบันที่อยู่ข่ายนักเตะจอมพลัง ซึ่งจะมีใครบ้าง ไปติดตามกันได้เลย
โจชัว คิมมิช (บาเยิร์น มิวนิค)
แข้งสารพัดประโยชน์ทีมชาติเยอรมันที่สามารถลงเล่นได้หลายตำแหน่ง จนกลายเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา แม้ด้วยรูปร่างอาจจะไม่ได้มีกล้ามมัดใหญ่ หรือซิกแพ็คแบบก้อนโต แต่ด้วยความเป็นหนึ่งในนักเตะที่พลังเหลือล้นทำให้เขาเองได้เข้ามาติดโผอยู่ในลิสต์ของเราด้วย
ในฤดูกาลนี้ คิมมิช ถูกใช้บริการในตำแหน่งของกองกลางตัวรับเป็นส่วนใหญ่ ทั้งที่เขาเองแจ้งเกิดจากตำแหน่งแบ็คขวามาก่อน ไม่แปลกที่แฟนบอลจะนึกไปถึงตำนานของทัพ "เสือใต้" และทีมชาติเยอรมันอย่าง ฟิลลิป ลาห์ม ที่จากฟูลแบ็คโยกมาเล่นในตำแหน่งกลางรับเช่นเดียวกัน
ซึ่งจุดเด่นของเขาคือการวิ่งเป็นผึ้งงานของทีม คอยตัดเกมคู่แข่ง และสามารถออกบอลเปิดเกมรุกให้กับทีมได้อีกด้วย ล่าสุดเจ้าตัวก็เพิ่งคว้ารางวัลนักเตะแห่งปีของเยอรมัน ประจำปี 2021 จากการโหวตของแฟนบอลที่เทคะแนนเสียงไปให้มากถึง 33.8% เอาชนะเพื่อนร่วมชาติทั้ง ไค ฮาเวิร์ตซ และ เลรอย ซาเน่ ไปแบบขาดลอย
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)
เรียนด้วยความเคารพเมื่อเอยถึงชื่อของ โม ซาลาก์ เราสามารถบรรจุเขาเข้าไปอยู่ในโผของนักเตะในหลากหลายประเภท ยกตัวอย่างพอเห็นภาพก็อย่างเช่น ดาวยิงยอดเยี่ยม, กองหน้ายอดเยี่ยม, นักเตะที่เลี้ยงบอลได้สุดสะเด่า หรือ ในลิสต์นี้อย่างนักเตะจอมพลัง
จอมพลังของ ซาลาห์ ในที่นี่คือการมีร่างกายที่แข็งแกร่ง สังเกตุได้จากเวลาครอบครองบอลยากนักที่ใครจะมาแบ่งบอลจากเท้าเขาไปได้ ด้วยพลังของตัวเอง บวกกับความหนาของร่างกายก็มักจะเอาตัวรอดได้แบบสบายๆ แถมบางครั้งสามารถแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าด้วยสกิลส่วนตัวจนหลุดเข้าไปทำประตู เหตุการณ์แบบนี้มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง
อีกอย่างที่จอมพลังยิ่งนักคือความฟิตของร่างกาย อย่างกรณีล่าสุดที่เจ้าตัวเพิ่งกลับมาจากการลงเล่นในศึกแอฟริกัน เนชั่น คัพ ที่เขาพา อียิปต์ กรุยทางไปถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ทว่าพลันจบนัดสุดท้ายก็บินตรงกลับอังกฤษทันที พร้อมสภาพร่างกายที่สามารถลงเล่นแบบต่อเนื่อง ไรซึ่งอาการอ่อนล้าแต่อย่างใด
ซึ่งสิ่งที่ร่ายมาทั้งหมดคือความยอดเยี่ยมของ ซาลาห์ หนึ่งในแข้งที่พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาได้เยี่ยมที่สุดในรอบหลายปีหลัง และกลายเป็นนนักเตะเบอร์ต้นๆ ของวงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (เชลซี)
อีกหนึ่งกองกลางที่ต้องเข้ามาติดอยู่ในลิสต์นี้อย่างแน่นอน เรื่องของความกำยำอาจต้องต้องตัดออกไป แต่ถ้าพูดถึงเรื่องของความแข็งแกร่งที่พร้อมวิ่งไปทั่วสนามนั้นก็คงต้องยกให้กับชายผู้นี้
ลักษณะการเล่นของ ก็องเต้ เชื่อว่าแฟนบอลหลายๆ คนคงน่าจะได้ยลโฉมกันมาพอสมควรแล้ว สไตล์ของเขาเป็นพวกมิดฟิลด์ตัวตัดเกมโดยเฉพาะ อีกทั้งยังหาตำแหน่งอยู่ถูกที่ถูกเวลาโดยตลอด จนบางทีก็สร้างความหงุดหงิดให้กับคู่แข่งได้อยู่บ่อยครั้ง ไม่รู้พี่แกมีแม่เหล็กติดไว้ที่สตั๊ดหรือเปล่่าถึงสามารถเรียกบอลมาหาได้ตัวแทบจะตลอด
ส่วนในเรื่องของพลังถ้าเปรียบเทียบให้พอเห็นภาพคงไม่ต่างจากกองกลางแปดปอดวิ่งแบบไม่มีหมด 90 นาที หรือ 120 นาที ไม่สามารถทำอะรไความฟิตของเขาได้เลย แถมที่สำคัญคืออาการบาดเจ็บก็ไม่ค่อยแวะเวียนมาเกาะกินเขามากสักเท่าไหร่ด้วย
อดาม่า ตราโอเร่ (วูลฟ์แฮมป์ตัน)
ถ้าพูดถึงเรื่องของความแข็งแกร่ง ความจอมพลังต่างๆ ถ้าไร้ชื่อผู้ชายคนนี้คงรู้สึกผิดมหันต์ เพราะยังไงเสียเพียงแค่กล้ามเนื้อของเขาทั้งบริเวณต้นแขน และต้นขา มันก็บ่งบอกได้แล้วว่าปีกรายนี้แข็งแกร่งทั่วแผ่นมากขนาดไหน
จากเดิมนี่คือนักเตะผอมแห้งคนหนึ่งของวงการ ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของ บาร์เซโลน่า ก่อนแยกย้ายออกไปหาโอกาส จนกระทั่งมาแจ้งเกิดอีกครั้งในรูปแบบที่ให้แฟนบอลจดจำโดยเฉพาะกล้ามมัดโต รวมไปถึงเบบี้ออยที่บรรจงชโลมไปทั่วทั้งแขน
ซึ่งเจ้าตัวเคยออกมาบอกว่าไอ้ที่เราเห็นกล้ามมัดโตๆ นั้นมันไม่เกิดจากการเล่นเวทอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่เป็นกรรมพันธุ์ที่เขาได้มาบวกกับการออกกำลังกายให้ถูกจุดมันเลยจึงออกมาอย่างที่เราๆ ได้ยลโฉมกัน และปัจจุบันการย้ายสู่ทัพ "อาซูลกราน่า" ของเขาก็ยิ่งช่วยให้เฉิดฉายมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงได้โชว์ผลงานให้แฟนบอลได้จดจำมากกว่าแค่กล้ามเนื้อของเขาเพียงอย่างเดียว
อัลลัน แซงต์-แม็กซิแม็ง (นิวคาสเซิ่ล)
มาสู่คนสุดท้ายในโผนักเตะจอมพลังปิดท้ายกันที่ อัลลัน แซงต์-แม็กซิแม็ง ซึ่งถ้าพูดกันถึงชื่อชั้นของนักเตะ และสโมสรอาจจะไม่ได้โด่งดังเท่านักเตะคนอื่นๆ ที่กล่าวมา แต่ทว่าสิ่งที่ต้องยอมรับคือความแข็งแกร่งของเจ้าหมอนี้ไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน
แซงต์-แม็กซิแมง สถาปนาตัวเองกลายเป็นหัวใจในเกมรุกของทัพ "สาลิกาดง" โดยเฉพาะเป็นขุมกำลังในเกมรุกของทีม อาจจะไม่ได้ทำประตูในทุกๆ เกม หรือสามารถพาทีมเก็บชัยชนะะได้เป็นกอบเป็นกำ แต่สิ่งที่ต้องยอมรับคือเขานี่แหละคือตัวปั่นป่วน และมักเป็นจุดเริ่มต้นประตูของ นิวคาสเซิ่ล อยู่ในหลายๆ ครั้ง
ยกตัวอย่างให้เห็นเกมที่ นิวคาสเซิ่ล ต้องโคจรมาเจอกับทีมใหญ่ๆ แน่นอนว่าพวกเขาต้องเป็นฝ่ายตั้งรับเสียส่วนใหญ่ ฉะนั้นการที่มี แซงต์-แม็กซิแมง ที่มีสปีดความเร็ว และแข็งแกร่ง มักจะถูกจับไปยืนอยู่แดนบนคอยใช้ความแข็งแกร่ง และพลังที่เยอะพอตัว ในการหวังพึ่งพาสำหรับจังหวะสวนกลับ
ซึ่งที่ผ่านมาเขาเองก็ทำมันได้อย่างยอดเยี่ยม อย่างน้อยๆ ก็เป็นการขู่แนวรับคู่แข่งว่าห้ามประมาทในตัวเขาแม้แต่วินาทีเดียว
- Paolinho -