ผลการจับสลากที่เกิดขึ้นแน่นอนว่ามันก็มีทั้งผู้ที่ดู สมหวัง และ ผิดหวัง วันนี้สิ่งที่ "ขอบสนาม" อยากนำเสนอก็คือการพาทุกท่านไปเจาะลึกดูกันว่ามีใครกันบ้างที่เป็น ผู้ชนะ-ผู้แพ้ หลังการจับสลากแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022
ผู้ชนะ - อังกฤษ
ทัพ "สิงโตคำราม" ของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เคยไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศมาแล้วเมื่อ 4 ปีก่อนที่ รัสเซีย และในศึก ยูโร 2020 ที่ผ่านมาก็ไปไกลจุดสุดทางจนถึงรอบชิงชนะเลิศ มาคราวนี้พวกเขาก็ยังถูกมองว่าเป็นหนึ่งในตัวเต็งแชมป์ของทัวร์นาเมนต์นี้เช่นเดียว
ทีมชาติอังกฤษ ถูกจับสลากให้มาอยู่ในกลุ่ม บี และก็ได้รับการคาดหวังเอาไว้ว่าน่าจะจบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม โดยนัดแรกต้องดวลกับ อิหร่าน ที่ไม่เคยเจอมาก่อนในทัวร์นาเมนต์นี้ถ้าวัดถึงเรื่องศักยภาพและคุณภาพนักเตะค่อนข้างชัดเจนว่าพวกเขาเหนือกว่ามาก
ส่วนอีกหนึ่งโควนั้นจะเป็นของใคร จะเป็น ยูเครน ? หรือ บริทิช ดาร์บี้ แมตช์ กับ สกอตแลนด์ หรือว่า เวลส์ เราจะได้ทราบแน่ชัดก็ตอนเดือนมิถุนายนโน่นเลย แต่เมื่อเทียบกันแล้วกับ 3 ทีมนี้เรื่องของคุณภาพและเฮดทูเฮด อังกฤษ ข่มกว่ามิดเลย
ดูแล้ว สหรัฐอเมริกา น่าจะเป็นงานที่คู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดในรอบนี้ เพราะชื่อชั้นของพวกเขาก็จัดว่าเป็นระดับท็อปของโซนคอนคาเคฟ มีนักเตะมากพรสวรรค์หลายคน และในประวัติศาสตร์บนหน้าศึก ฟุตบอลโลก ย้อนกลับไป เวิลด์ คัพ 1950 พวกเขาก็เคยเชือด อังกฤษ มาแล้วครั้งหนึ่ง
ผู้แพ้ - กาตาร์
กาตาร์ ได้สิทธิ์รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก 2022 หนนี้ แต่หนทางสู่ความสำเร็จนั้นดูจะเป็นอะไรที่ลำบากยากเย็นแสนเข็ญสุดๆ เพราะว่าต้องเจอกับงานที่หนักๆ ทั้งนั้น โดยเกมเปิดสนามในวันที่ 21 พฤศจิกายน พวกขาต้องเจอกับตัวแทนจาก อเมริกาใต้ อย่าง เอกวาดอร์ ถ้าหากอยากจะลุ้นเข้าสู่รอบต่อไปนี่อาจเป็นเกมไฟต์บังคับที่ กาตาร์ ต้องเก็บ 3 แต้มให้จงได้
เพราะอีก 2 เกมที่เหลือพวกเขาต้องเจอกับงานที่หินยิ่งกว่านั่นก็คือการรับมือกับ เซเนกัล ที่ชุดนี้เต็มไปด้วยแข้งระดับชั้นนำอยู่เต็มทีมไม่ว่าจะเป็น ซาดิโอ มาเน่, อิดริสซ่า กวยเย่, คาลิดู คูลิบาลี่ และ เอดูอาร์ เมนดี้ รวมไปถึง ทีมชาติฮอลแลนด์ ของ หลุยส์ ฟาน กัล ที่มีขุมกำลังมากพรสวรรค์อยู่ทุกตำแหน่งไล่ตั้งประตูยันกองหน้าเลยทีเดียว
ผู้ชนะ - ฝรั่งเศส
ไม่เคยมีชาติไหนสามารถป้องกันแชมป์โลกไว้ได้นับตั้งแต่ ทีมชาติบราซิล เคยจารึกสถิติไว้เมื่อปี 1962 แต่ครั้งนี้ต้องบอกเลยว่า ทีมชาติฝรั่งเศส ของ ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องก์ มีโอกาสที่ดีที่จะทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงก็เป็นได้ด้วยศักยภาพทีมและขุมกำลังนักเตะชุดปัจจุบันที่เป็นต่างก็ค้าแข้งอยู่กับทีมยักษ์ใหญ่ทั้งนั้น ดูอย่างเส้นทางในรอบแบ่งกลุ่มก็เป็นจะเป็นใจให้กับพวกเขาไม่น้อย เพราะในกลุ่มของ ฝรั่งเศส นั้นไม่มีชาติยักษ์ใหญ่อยู่เลย
ฝรั่งเศส จะต้องเจอกับ เดนมาร์ก ในเกมนัดที่ 2 ซึ่งถูกมองว่าน่าจะเป็นเกมที่หนักที่สุดแล้ว และนัดสุดท้ายจะพบกับ ตูนีเซีย ส่วนเกมนัดแรกมันมีโอกาสที่พวกเขาจะได้เจอกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, เปรู หรือไม่ก็ ออสเตรเลีย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะถูกมองว่าเป็นตัวเต็งแชมป์ของกลุ่ม ดี
ผู้แพ้ - บราซิล
อย่างที่ทราบกันดีว่า ทีมชาติบราซิล คือชาติที่ได้โอกาสเถลิงบัลลงก์แชมป์โลกมากที่สุดบนหน้าประวัติศาสตร์ที่ 5 สมัย (ปี 1958, 1962, 1970, 1994 และ 2002) และในเมื่อตอนนี้พวกเขาได้ชื่อว่าเป็นทีมอันดับ 1 บนแรงกิ้งโลกจากทาง ฟีฟ่า ดังนั้นการครองตำแหน่งแชมป์ของกลุ่ม จี ก็เป็นสิ่งที่ทุกๆ คนมองว่ามันควรเกิดขึ้น
แต่ถ้าลองเหลือบชายตาไปมองถึงคู่แข่งในกลุ่มเดียวกันถึงจะไม่มีชาติระดับบิ๊กเนมเลย แต่ก็ถือว่าไม่ใช่งานที่ง่ายเพราะเกมแรกต้องเจอกับ เซอร์เบีย ที่ผลงานดีมากๆ ในรอบคัดเลือกที่ไม่แพ้ใครเลย ตามด้วย สวิตเซอร์แลนด์ ที่ความแข็งแกร่งก็เป็นประจักษ์แก่สายตาโลกจากการไม่แพ้ทีมแชมป์ ยูโร 2020 อย่าง อิตาลี ถึง 2 นัดพร้อมกับปาดหน้าคว้าโควต้าไป กาตาร์ แบบอัตโนมัติได้อีกด้วย
ส่วน แคเมอรูน ก็ถือเป็นหนึ่งในชาติที่แข็งแกร่งจากทวีปแอฟริกาถึงจะไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่ากับช่วงเวลาในอดีต แต่ยุคนี้ก็มีผู้เล่นฝีเท้าดีๆ หลายๆ คนที่โลดแล่นอยู่กับเหล่าทีมดังๆ ในยุโรป ต้องบอกเลยครั้งนี้ บราซิล เหนื่อยแน่ เพราะดูๆ แล้วกลุ่มของพวกเขามันใกล้เคียงมากๆ กับคำว่า "กรุ๊ป ออฟ เดธ"
ผู้ชนะ - เบลเยี่ยม
นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของ ทีมชาติเบลเยี่ยม ในยุคทองก็เป็นได้สำหรับการตามล่าความสำเร็จในระดับทัวร์นาเมนต์เมเจอร์ หลังต้องเสียบัลลังก์ตำแหน่งแรงกิ้งอันดับ 1 ของโลกให้กับ บราซิล จริงอยู่ที่พวกเขาขุมกำลังหลักๆ ของพวกเขายังเป็นหน้าเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็น โรเมลู ลูกากู, เควิน เดอ บรอยน์, อักเซล วิตเซล, เอแด็น อาซาร์, ติโบต์ กูร์กตัวส์ และอีกหลายๆ คน แต่ก็อย่าลืมนะว่าถ้าถัดจากนี้ไปอีก 2-4 ปีไม่ว่าจะเป็น ยูโร 2024 หรือ เวิลด์ คัพ 2026 พวกเขาเหล่านี้จะอายุเกิน 33 ปีกันหมด
พลพรรค "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" ถูกมองว่าเจอกับงานที่ไม่หนักเท่าไหร่ใน ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม หลังถูกจับอยู่ร่วมสายเดียวกับ โครเอเชีย, แคนาดา และ โมร็อคโก ด้วยขุมกำลัง ณ ปัจจุบันที่เล่นด้วยกันมานานติดต่อกันแล้วหลายทัวร์นาเมนต์ แน่นอนว่าเรื่องทีมเวิร์คจัดว่าแจ่ม บวกกับผลงานที่ยอดเยี่ยมในระดับสโมสรของหลายๆ คน เบลเยี่ยม ได้รับการคาดหมายว่ายังไงก็จะได้ไปต่อในรอบน็อคเอาท์แน่นอน
ผู้แพ้ - อุรุกวัย
หลังได้บทสรุปของการจับสลากแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022 ต้องบอกเลยว่าสถานการณ์ในกลุ่ม ซี มีเรื่องให้ถูกพูดถึงกันไม่ใช่น้อยเลยจริงๆ โดยเฉพาะ อุรุกวัย ที่เคยสร้างบาดแผลอันเจ็บปวดไว้ให้กับ กาน่า เมื่อปี 2010 ด้วยเหตุการณ์ "หัตถ์พระเจ้า" ของ หลุยส์ ซัวเรซ ตัดภาพกลับมาคราวนี้กับการเจอกันอีกครั้งในรอบ 12 ปีทางฝั่ง "ดาวดำ" คงเตรียมบัญชีแค้นแน่ๆ และแน่นอนว่านี่ก็คงเป็นเกมที่ทัพ "จอมโหด" คงจะรู้สึกกดดันไม่ใช่น้อย
นอกจากนี้ อุรุกวัย ที่นำทัพมาโดย หลุยส์ ซัวเรซ กับ เอดินสัน คาวานี่ ยังต้องเจอกับชาติที่แข็งแกร่งและเกมรุกสุดโหดอย่าง โปรตุเกส ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยนักเตะพรสวรรค์สูงทุกตำแหน่ง แถมยังมีดาวยิงจอมถล่มประตูซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่ด้วย
ส่วน เกาหลีใต้ อาจจะถูกมองว่าเป็นทีมที่ด้อยที่สุดในกลุ่มนี้แต่ชาวเอเชียขึ้นชื่ออยู่แล้วด้วยความใจสู้ หลังชนฝา และวิ่งสู้ฟัดตลอดทั้งเกม ด้วยพลังแห่งความพยายามถ้ายังจำกันได้ พวกเขาเคยล้ม เยอรมัน มาแล้วด้วยเมื่อ 4 ปีก่อน และในปีเดียวกันนั้นทัพ "โสมขาว" ของ ซน ฮึง-มิน ก็เคยกำชัยเหนือ อุรุกวัย มาได้ด้วยถึงแม้มันจะเป็นแค่เกมอุ่นเครื่องก็ตาม
HaMu Dos Santos
