logo-heading

ทว่าหลังจากนั้นเกมรุกก็ไม่คมกันไปดื้อๆ มีโอกาสมากมายแต่จบสกอร์ไม่ได้ ดังนั้นเมื่อนำลูกเดียว อะไรก็เกิดขึ้นได้ 

ซึ่งทางฝั่ง สาลิกาดง ก็เปิดเกมสู้เต็มที่ ไล่เพรสซิ่งใส่ หงส์แดง แบบไม่พักเหมือนกัน เพื่อนวัดไปเลยว่าจะสู้กับยอดทีมไหวมั้ย โดยมีโอกาสให้ เดอะ ค็อป หวาดเสียวอยู่เหมือนกัน ยังดีที่เกมรับ ลิเวอร์พูล ยังช่วยกันเช็คไลน์ล้ำหน้าไว้ได้ตลอด และ สุดท้ายก็รักษาสกอร์เก็บ 3 คะแนนไปได้ เกมนี้มีหลายประเด็นต้องพูดถึงกัน ดังนั้นมาติดตามไปพร้อมๆกันครับ

- แฟน หงส์แดง มีเสียว
คล็อปป์ เลือก โรเตชั่น 5 ตำแหน่ง

เมื่อรายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของ ลิเวอร์พูล ถูกเผยแพร่ผ่านทางโลกโซเชี่ยล เชื่อว่าแฟนบอลคงมีอุทานในใจกันเบาๆ เนื่องจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ พักตัวหลักถึง 5 คน อาทิ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลคันตาร่า และ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เป็นต้น โดยเลือกโรเตชั่นให้ตัวสำรองได้ลงมาสัมผัสบ้าง 

ซึ่งตำแหน่งที่หลายคนเป็นกังวล คงหนีไม่พ้น โจ โกเมซ ที่ได้ลงเล่นเป็น แบ็กขวา เนื่องด้วย เทรนท์ เป็นปัจจัยสำคัญในการขึ้นเกมรุกของทีม และ ทำแอสซิสต์ให้ทีมมากมาย ดังนั้นการที่ โกเมซ ลงมานั้น จะช่วยเติมเต็มตรงจุดนี้ได้หรือไม่ เพราะมันเป็นเกมสำคัญที่ห้ามพลาดเด็ดขาด ยิ่งต้องมาบุกเยือน นิวคาสเซิ่ล ที่ชนะมา 4 นัดรวดก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม การโรเตชั่นนักเตะครั้งนี้ เพื่อพักตัวหลักไว้ดวลกับ บียาร์เรอัล ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัด 2 ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อทีมมากนัก เพราะเกมรุกยังคงไหลลื่น ครองบอลได้มากกว่า หาช่องเจาะเข้าทำใส่ สาลิกาดง ได้มากมายหลายครั้ง เพียงแค่จบสกอร์กันไม่เฉียบคมเท่านั้น

ส่วนเกมรับที่หลายคนกังวลกับ โจ โกเมซ ก็ต้องบอกว่าเกมนี้เขาสอบผ่านเลยครับ สามารถตามประกบพวกตัวรุก นิวคาสเซิ่ล ได้ดี, ถึงแม้ไม่ค่อยได้ลงสนาม แต่การเช็คไลน์ล้ำหน้ากับเพื่อนๆก็ไม่มีเหม่อ โดยมีพี่ๆในทีม คอยยืนประคองไว้ได้ เพราะรู้ดีว่าทางฝั่งของเขา จะต้องโดนเล่นงานอย่างหนัก แถมยังมีช็อตเติมขึ้นไปช่วยเกมรุก จนเกือบได้แอสซิสต์ด้วย แต่ ซาดิโอ มาเน่ ยิงออกอย่างเหลือเชื่อ

หากใครไม่ได้ดูเกมการแข่งขัน อาจบอกว่าการส่งตัวสำรองย่อมมีผล เพราะชนะแค่ลูกเดียว แต่ต้องบอกว่าคนที่ได้รับโอกาสลงสนามลงมา ก็ไม่ได้ทำอะไรแย่เลย ทุกคนช่วยกันให้ทีมเก็บ 3 คะแนน พร้อมกับเก็บคลีนชีตได้อีกด้วย

- เกอิต้า ร่างทอง

นับตั้งแต่ที่ เกอิต้า ย้ายจาก ไลป์ซิก มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เมื่อ 4 ปีก่อน พร้อมกับสานต่อเบอร์ตำนาน หมายเลข 8 ของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด นี่ถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขาในสีเสื้อ หงส์แดง เลยก็ว่าได้ เพราะได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีอาการบาดเจ็บใดๆมารบกวนอีกแล้ว

ฤดูกาล 2019-20 ได้ลงเล่นในลีกแค่ 18 นัด
ฤดูกาล 2020-21 ได้ลงเล่นในลีกแค่ 10 นัด

แต่ฤดูกาล 2021-22 เกอิต้า ลงสนามในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปแล้ว 19 นัด พร้อมได้รับเลือกเป็นตัวจริงในเกมสำคัญมากมาย ทั้งนัดชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 หรือ นัดบุกถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5-0 เนื่องด้วยในแผงมิดฟิลด์ที่ คล็อปป์ มีนั้น เกอิต้า ถือเป็นคนที่มีสกิลเกมรุกได้ดีที่สุดคนหนึ่ง เติมเข้าไปช่วยในกรอบเขตโทษได้บ่อยๆ

และ เกอิต้า ก็ตอบแทนความไว้วางใจของ คล็อปป์ ด้วยการทำประตูชัยให้กับทีม มันเป็นการยิงด้วยความมั่นใจ เพราะไม่ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อได้บอลตรงหน้าปากประตู จากการไหลของ ดิโอโก โชต้า ก่อนจะโชว์ความนิ่ง ไม่จ่ายให้เพื่อน หลอกแตะหลบผู้รักษาประตู และ ยิงลอดช่องนักเตะ นิวคาสเซิ่ล เข้าไป

จากสถิติเวลาที่ เกอิต้า ยิงประตูเมื่อไหร่ ลิเวอร์พูล ชนะทุกนัดในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ นอกจาก นิวคาสเซิ่ล จะเป็นเหยื่ออันโอชะแล้ว ยังมี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ คริสตัล พาเลซ อีกด้วย โดยจากผลงานนัดนี้ ไม่แน่ว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ อาจจะเลือกเขาลงสนามเป็นตัวจริง เกมไปเยือน บียาร์เรอัล ก็เป็นได้

- เอ็ดดี้ ฮาว ทำทีม นิวคาสเซิ่ล ดูดีมีชาติตระกูล

ย้อนกลับไปในช่วงที่ เอ็ดดี้ ฮาว เข้ามารับเผือกร้อนคุมทีม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด โดยมีภารกิจเดียวคือต้องดิ้นรนหนีตกชั้นให้ได้ เนื่องจากตอนนั้นทีมเคยร่วงไปจมบ๊วย มีคะแนนตามโซนปลอดภัยอยู่ 6 คะแนน นับเป็นเรื่องยากมาก ด้วยฟอร์มการเล่นก่อนหน้านั้น ทำให้เขาและทีมงาน ต้องใช้ตังค์จากบอร์ดบริหารเพื่อเสริมทีมให้แข็งแกร่ง

จากปลายเดือนพฤศจิกายน ที่เริ่มงานอย่างเต็มตัว มาจนถึงวันนี้ จากทีมส่อแววตกชั้น ขยับพุ่งพรวดมาอยู่อันดับ 10 ของตาราง มีโอกาสที่จะจบแบบเลขตัวเดียวด้วยซ้ำ โดยเม็ดเงิน 85 ล้านปอนด์ ที่ใช้จ่ายซื้อตัว คีแรน ทริปเปียร์, บรูโน่ กิมาไรส์, คริส วู้ด และ แดน เบิร์น นับว่าคุ้มค่าเหลือเกิน ต่อให้ไม่ใช่ตัวท็อปของยุโรป ทว่าแต่ละคนมันเกาถูกที่คัน ดึงมาแล้วเห็นผลทันที

อย่างในเกมที่เจอกับ ลิเวอร์พูล ด้วยความที่ นิวคาสเซิ่ล ไม่ต้องไปดิ้นรนหนีตกชั้นแล้ว ทำให้ เอ็ดดี้ ฮาว กล้าใช้ระบบที่ขอต่อกรกับ หงส์แดง ดูสักตั้ง เหมือนขอท้าชกรุ่นใหญ่ว่าทีมพวกเราจะสู้ได้ขนาดไหน โดยเฉพาะการไล่บีบเพรสซิ่งตั้งแต่แดนหน้า เพื่อทำลายเกม  "Build Up" จากแดนหลังของ ลิเวอร์พูล

ช่วงครึ่งแรก นิวคาสเซิ่ล ครองบอลได้ไม่เยอะ แต่ครึ่งหลังบอกเลยว่าพวกเขาทำได้ดี ออกมาเล่นอย่างดุดัน ทำให้กองกลาง ลิเวอร์พูล ปั่นป่วน ถึงขั้นที่ คล็อปป์ ต้องเปลี่ยนเอา ติอาโก้ กับ ฟาบินโญ่ ลงสนามลงมา เพื่อมาช่วยเก็บบอลตรงมิดฟิลด์ เลยทีเดียว

ถึงแม้ สาลิกาดง จะไม่มีโอกาสเยอะ แต่ก็มีจังหวะเสียวๆให้ ลิเวอร์พูล ลุ้นเยี่ยวเหนียวเหมือนกัน ถึงขั้นที่แอบไปเห็นแฟนบอลทีมอื่นชื่นชมเลยว่า สู้ได้ดีกว่าบางทีม ตอนเจอกับ ลิเวอร์พูล ด้วยซ้ำ เพราะ ฮาว ทำให้ นิวคาสเซิ่ล ดูเป็นทีมเล่นฟุตบอลสวยงาม ไม่เน้นตั้งรับอย่างเดียว ไม่ใช่ลูกโยนยาวมั่วซั่ว พร้อมมีจังหวะที่พร้อมจ่ายตามช่องตลอดเวลา ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ฮาว ถึงทำทีมได้ก้าวกระโดดมากกว่านี้ เชื่อว่าอนาคตเมื่ออะไรลงตัวมากกว่านี้ พวกเขาจะเป็นทีมที่น่ากลัวเหลือเกิน

- ความสำคัญของ เจมส์ มิลเนอร์

ด้วยวัย 36 ปี ไม่ได้มีความเร็วเหมือนสมัยหนุ่มๆ ทำให้ เจมส์ มิลเนอร์ มีสถานะเป็นตัวสำรอง แต่กระนั้นถึงแม้จะต้องนั่งอยู่ข้างสนามเป็นส่วนใหญ่ แต่ความสำคัญ ท่านรอง ภายในทีมไม่ได้ลดลงไปเลยแม้แต่น้อย แคร์แร็คเตอร์, บทบาท และ ประสบการณ์ ยังสำคัญเสมอ

อย่างเกมนี้ มิลเนอร์ ทำให้เห็นแล้วว่าเขาสำคัญมากเพียงใด เพราะในวันที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ จำเป็นต้องพักตัวหลัก เพื่อไม่ให้สภาพร่างกายล้าเกินไป ทาง มิลเนอร์ ก็เป็นคนที่ลงมาช่วยทีมได้อย่างไร้รอยต่อ ใช้ความเก๋า, ลูกบู๋บุ๋น และ งัดประสบการณ์ออกมาช่วยทีมได้เสมอ พร้อมกับมีส่วนกับการทำให้ทีมได้ประตูด้วย

ช่วงท้ายเกม มิลเนอร์ ถูกจับภาพเหมือนกำลังนั่งร้องไห้อยู่ตรงซุ้มม้านั่งสำรอง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแฟนบอล นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมเก่า ลุกปรบมือให้ ตอนโดนเปลี่ยนออก หรือ อาจมีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้น อารมณ์แบบอยากเล่นต่อ แต่ไม่ว่าเขาจะร้องไห้ด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ผลงาน มิลเนอร์ ยังประจักษ์ชัดเจน โดยถูกเลือกให้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ เพราะเป็นพลังงานสำคัญให้กับแผงมิดฟิลด์ของทีม ทั้งคอยตัดเกม และ เชื่อมเกมด้วย

เชื่อว่าแฟนบอล ลิเวอร์พูล ต้องการให้เขาอยู่กับทีมต่อไปอย่างแน่นอน อย่างน้อยสัญญา ปีต่อปี ก็ไม่น่าเกลียดเลยสักนิด ต่อให้จะอายุล่วงเลยมาถึง 36 ปี แต่เขายังรักษาสภาพร่างกายไว้ได้ดีมาก และ ความสำคัญต่อ ลิเวอร์พูล อย่างที่บอกครับ มันแผ่อิทธิพลไปทั้งในและนอกสนาม

ฮาย ฮาวดี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline