หลังเกม แมนยูฯ โชว์ฟอร์มสุดแจ่ม ไล่ถลุง เบรนท์ฟอร์ด ไปสามดอก

ซึ่งจะว่าไปนี่คือหนึ่งในรอบหลายๆ เกมที่พลพรรคทัพ "ปีศาจแดง" ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนได้ผลการแข่งขันที่น่าชมเชย อีกทั้งยังเป็นการกลับมาคว้า 3 แต้มอีกครั้งในรอบ 3 เกม

ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราก็ได้ทำการรวบรวมประเด็นต่างๆ ที่น่าสนใจจากเกมนัดดังกล่าวมาให้ทุกท่านได้ชมกันแล้ว ซึ่งจะมีอะไรบ้างไปติดตามกันได้เลย

การจัดทัพ

ต้องบอกก่อนว่าเกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีปัญหานักเตะได้รับบาดเจ็บหลายคนโดยเฉพาะเกมรับที่ขาดทั้ง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และ ลุค ชอว์ แต่ทว่าข่าวดีคือการได้ เฟร็ด กับ เอดินสัน คาวานี่ กลับมาเป็นตัวเลือกให้กับทีมอีกครั้ง

ซึ่งการจัดทัพในเกมวันนี้ก็ถือว่ามีเซอร์ไพรส์เล็กๆ เมื่อ "ลุงราล์ฟ" บรรจงส่ง ฆวน มาต้า ลงสนามเป็นตัวจริงนัดแรกในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ แถมพลิกโผซ้ำดอกสองคือการให้ดาวเตะชาวสเปนลงเล่นในบทบาทของเพลย์เมคเกอร์เลย พร้อมขยับเอา บรูโน่ แฟร์นานเดส ออกไปยืนเป็นตัวด้านข้างทางฝั่งซ้ายแทน ขณะที่ทางฝั่งขวาเป็นหน้าที่ของเจ้าหนู แอนโธนี อีแลงก้า หน้าเป้าใช้งานของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ส่วนฟากทีมเยือนที่ผลงานร้อนแรงแบบสุดๆ ก็ขนนักเตะชุดที่ดีที่สุดในการลงสนามนำมาโดย คริสเตียน อิริคเซ่น, คริสเตียน นอร์การ์ด, อิวาน โทนี่ย์ หรือ ไบรอัน เอ็มบูโม

ผลงานสุดแจ่มของ มาต้า

อย่างที่กล่าวไปว่านี่คือเกมแรกที่ ฆวน มาต้า ได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในศึกพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ ย้อนกลับไป 4 เกมที่ลงสนามในลีกล้วนเป็นตัวสำรองทั้งสิ้น แถมมีเวลาในสนามรวมกันเพียง 59 นาที เท่านั้น

ซึ่งด้วยบทบาทของ มาต้า ในเกมนี้คือลงเล่นในตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์คอยสร้างสรรค์เกมอยู่หลังกองหน้า ว่าแล้วพี่แกก็โชว์ความเป็น "คลาส" ของลูกหนังออกมาได้แบบโคตรไฉไล อย่างน้อยก็ให้น้องๆ ในทีมได้เห็นว่าแม้จะอายุเยอะแล้วแต่ความทุ่มเท และความกระหายไม่เคยลดน้อยถอยลงไปสักนิด

ฉะนั้นมันเลยทำให้เกมนี้ของ ยูไนเต็ด จึงไหลลื่นไม่ใช่น้อย เนื่องด้วย มาต้า เองคอยวิ่งหาช่อง คอยเล่นกับเพื่อน และไม่มากจังหวะจนเกินไป พูดง่ายๆ คือได้บอลมาก็ง่ายออกไป ไม่ต้องไปหวงบอลเล่นให้มากจังหวะจนเสียการครอบครอง

แน่นอนว่าเมื่อมีคนที่คอยป้อน คอยจ่ายมันก็ทำให้เพื่อนเล่นง่ายตามไปด้วย และยิ่งเป็นการเพิ่มอัตราความแม่นยำในการจ่ายบอลไปอีก เสียดายเพียงอย่างเดียวที่เขาไม่มีประตูส่งท้ายในโอลด์ แทรฟฟอร์ด 

แต่อย่างน้อยนี่คือบทพิสูจน์แล้วว่า มาต้า บนหลักไมล์ 34 ปี ในเกมนี้สร้างคุณประโยชน์ และยกระดับของทีมให้สูงเพิ่มขึ้นได้จริงๆ

ความเก๋าของแข้งวัย 30+

นอกจาก มาต้า ที่โชว์ให้เห็นถึงศักยภาพแล้ว นี่คงเป็นอีกเกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ได้เหล่านักเตะอายุ 30+ โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนกลายเป็นกระดูกสันหลังพาทีมคว้าชัยในเกมนี้

เนมานย่า มาติซ กับบทบาทตัวคอยดักจังหวะทำลายเกมรุกของคู่แข่ง ซึ่งเป็นวันที่เขาเฉิดฉายมากพอสมควร แทบไม่มีจังหวะผิดพลาดให้เห็น แถมยังคอยกำหนดทิศทางของทีม บอลช้า หรือเร็ว ขึ้นอยู่กับปลายสตั๊ดของเจ้าตัว แต่ทว่าด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้นการยืนระยะให้ครบ 90 นาทีในทุกเกมมันคงยาก ว่าแล้วนัดนี้จึงอยู่ในสนามได้ราว 70 นาที ก่อนจะเป็น เฟร็ด ได้ลงมาเคาะสนิมบ้าง

ส่วนในรายของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เราทราบกันดีถึงคุณภาพของดาวยิงรายนี้ ก่อนที่นัดนี้จะบวกเพิ่มได้อีกหนึ่งตุง ทำให้ยอดรวมในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ขึ้นไปอยู่ที่ 18 ประตู รั้งอันดับ 3 ในชาร์ตดาวซัลโว

เกมสุดท้ายในบ้านของหลายแข้ง

นี่คือการลงเล่นในโอลด์ แทรฟฟอร์ด นัดสุดท้ายของซีซั่น 2021-22 สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะ 2 เกมที่เหลือนั้นคือการบุกไปเยือน ไบร์ทตัน และปิดท้ายที่รังของ คริสตัล พาเลซ

ทำให้เกมนี้คือการส่งท้ายแข้งหลายๆ คนที่กำลังจะโบกมือลาหลังจบซีซั่นนี้ไม่ว่าจะเป็น ฆวน มาต้า, เอดินสัน คาวานี่ หรือ เนมานย่า มาติซ ซึ่งเราจะเห็นว่าเกมนี้ รังนิค  เองก็เหมือนรู้งานในการเลือกส่งทั้ง มาต้า และ มาติซ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ก่อนที่เปลี่ยน คาวานี่ ลงสนามไปอีกคนในช่วง 15 นาทีสุดท้ายของเกม

ซึ่งนอกจากแข้งที่กล่าวมายังมี ปอล ป็อกบา กับ เจสซี่ ลินการ์ด ที่สัญญาใกล้หมด และยังไม่มีการจรดปากกาขยายกันออกไป ทำให้นี่อาจเป็นความรู้สึกสุดท้ายในรังเหย้าแห่งนี้ในฐานะแข้งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เป็นได้

คลีนชีตของ ปีศาจแดง

กลายเป็นภาพหายากมากพอสมควรกับการเก็บคลีนชีตของ แมนฯ ยูไนเต็ด แม้ภาพจำส่วนใหญ่จะเป็นช็อตที่ ดาบิด เด เคอา โชว์ซูปเปอร์เซฟ แต่ทว่าก็ต้องยอมรับว่านายด่านรายนี้ก็ไม่อาจพาทีมรอดพ้นการเสียประตูได้ทั้งหมด

ย้อนกลับไปคลีนชีตเกมล่าสุดของทัพ "ปีศาจแดง" เกิดขึ้นในเกมที่เปิดบ้านเสมอกับ วัตฟอร์ด 0-0 เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนั้นอีก 8 เกม พวกเขาไม่อาจเก็บสถิติดังกล่าวได้เลย อีกทั้งยังโดนถลุงไปมากถึง 18 ประตู ด้วยกัน

รวมแล้วหลังผ่านไป 34 นัด ยูไนเต็ด เก็บคลีนชีตไปได้เพียง 8 เกมเท่านั้น ซึ่งในเหล่าทีมท็อปซิกซ์พวกเขามีสถิติน้อยที่สุด ทั้งที่ เด เคอา สามารถงัดฟอร์มการเซฟประตูมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลีกที่จำนวน 125 ครั้ง 

นอกจากผลงานในสนามที่ยอดเยี่ยมแล้ว อีกหนึ่งประเด็นที่น่าพอใจสำหรับ ยูไนเต็ด ในเกมนี้คือการไม่เสียประตูให้คู่แข่งนี่แหละครับ
 

- Paolinho -