ฤดูกาล 2021-22 ที่เพิ่งจบไปไปถามความเห็นแฟนๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ร้อยทั้งร้อยก็จะได้คำตอบกลับมาว่า "นี่คือฤดูกาลที่ห่วยแตกและล้มเหลวสุดๆ นับตั้งแต่หมดยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน " พวกเขาเสียประตูในลีกเยอะที่สุดที่ 57 ประตูนับตั้งแต่ ดิวิชั่น 1 เปลี่ยนชื่อมาเป็น พรีเมียร์ลีก เมื่อปี 1992 ไม่ได้สัมผัสกับกับถ้วยแชมป์ใดๆ เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน แม้แต่โควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ไม่สามารถคว้าไว้ได้
ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เหล่าบรรดาแฟนบอลจะคิดต่อต้านและออกมาประท้วงผู้ที่เป็นเจ้าของทีมนั่นก็คือ ตระกูลเกลเซอร์ ถ้าจะถามว่าทำไมเหล่าสาวก "ปีศาจแดง" ถึงจงเกลียดจงชัง ตระกูลเกลเซอร์ นักหนา เหตุผลมันก็สั้นๆ นิดเดียวและก็เข้าใจได้ง่าย นั่นก็คือการให้ความสำคัญกับเรื่องผลลัพธ์ทางการตลาด รายได้ กำไร มากกว่าเรื่องฟุตบอล ไม่ได้เหมือนกับ โรมัน อบราโมวิช ของ เชลซี หรือ ชีค มานซูร์ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ต่างก็แพสชั่นในเรื่องเกมลูกหนัง
การประท้วงของแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด มันเลยเถิดจนกลายเป็นการจลาจลที่เข้าไปปั่นป่วนถึงในสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถ้ายังจำกันได้นั่นทำให้ศึก แดงเดือด ที่ต้องเจอกับ ลิเวอร์พูล ต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด สร้างความเดือดร้อนให้กับทุกฝ่ายจนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมาย แต่จากสิ่งที่เกิดขึ้นมันก็เข้าใจได้ดีว่าทำไมพวกเขาถึงทำกันแบบนั้น
การเตรียมความพร้อมสำหรับการสู้ศึกในฤดูกาลใหม่แน่นอนว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ผู้จัดการทีมคนใหม่ที่จะลงบัญชาทัพทวงความยิ่งใหญ่กลับมา แต่มันก็ไม่ได้มีน้ำหนักมากพอที่จะจุะประกายแห่งความหวังให้กับแฟนๆ เพราะเมื่อตัดภาพกลับมาที่ปัจจุบัน "ปีศาจแดง" ต้องเสียนักเตะฟรีๆ ไปหลายคนที่หมดสัญญาแยกทางไปแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถปิดดีลนักเตะใหม่ได้เลยแม้แต่คนเดียวทั้งที่มีข่าวพัวพันกันเป็นสิบ
ในขณะที่พวกคู่แข่งต่างเริ่มทยอยเสริมทัพแบบไม่มีพักโดยเฉพาะคู่อริอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ดาวยิงตัวท็อปอย่าง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ส่วนทาง ลิเวอร์พูล ก็ได้หัวหอกฝีเท้าดีอย่าง ดาร์วิน นูนเญซ ทั้งๆ ที่ 2 คนนี้ก็เป็นเป้าหมายในการเสริมทัพของ แมนฯ ยูไนเต็ด เช่นกัน
ส่วนไอ้พวก เฟรงกี้ เดอ ยอง ตอนนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ส่วนเจ้า เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ที่เหมือนจะย้ายตาม เทน ฮาก มาก็ดูเหมือนจะปฏิเสธข้อเสนอและขออยู่กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ต่อไป ส่วน คริสเตียน อีริคเซ่น ก็เหมือนจะอยากใช้ชีวิตใน ลอนดอน ต่อไป พอเจอแบบนี้แล้วในฐานะแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ถ้าคุณจะรู้สึกท้อแท้และสิ้นหวังจนอาจจะเป็นโรคซึมเศร้ามันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ดี
แน่นอนว่าเมื่อมันยังไม่มีอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันล่าสุดกลุ่มแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ราวๆ 10 กว่าชีวิตในกลุ่มที่ชื่อ "The 1958 Supporters Group" ได้ไปรวมตัวกับที่ผับในท้องถิ่นที่ เชสเชียร์ เพื่อเตรียมทำการประท้วงอีกครั้งโดยคราวนี้มีพิกัดเป้าหมายอยู่ที่บ้านของ ริชาร์ด อาร์โนลด์ ซีอีโอคนใหม่ที่ได้ขึ้นมาแทนที่ เอ็ด วู้ดเวิร์ด
สื่อหลายสำนักในอังกฤษต่างก็ตีแผ่เรื่องราวนี้ออกไปในวงกว้าง เพราะทาง ริชาร์ด อาร์โนลด์ กลับสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการบุกไปลุยเดี่ยวเข้าไปในผับดังกล่าวเพื่อเปิดอก ทำความเข้าใจ และเผยเรื่องราวในแคมป์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับแฟนบอลกลุ่มดังกล่าวพร้อมกับเลี้ยงเครื่องดื่มให้กับทุกคน และในระหว่างที่ทุกคนสนทนาคุยกันก็มีแฟนบอลหลายรายที่อัดคลิปวิดีโอเอาไว้
หนึ่งในแฟนบอลของ "The 1958 Supporters Group" ได้กล่าวว่า "เราไม่ได้ต้องการทำให้ ริชาร์ด อาร์โนลด์ ดูเป็นฮีโร่ แต่เราให้ความเคารพที่เขามาหาเราและพูดคุยหลายๆ สิ่ง และเขาก็บอกว่าความล้มเหลวของ เกลเซอร์ ตลอด 17 ปีนั้นไม่ใช่ความผิดของเขา เพราะเขาเพิ่งจะมาทำงานได้ไม่นาน"
"เขาพูดว่า แล้วยังไงล่ะ กลุ่ม 58 ถ้าพวกคุณรัก แมนฯ ยูไนเต็ด การประท้วงมันไม่ได่ช่วยอะไรเลย"
ขณะเดียวกันนั้น ริชาร์ด อาร์โนลด์ ก็ยังมีการพูดถึงการใช้เงินจำนวนมหาศาลด้วยว่า "เราใช้เงินไปเป็นพันๆ ล้านปอนด์เพื่อเสริมทัพนักเตะ เราใช้เงินไปมากกว่าทุกๆ ทีมในยุโรป ผมไม่โอเคเลยกับจุดที่เรายืนอยู่ ผมไม่สบายใจ ผมกังวลว่าเราจะแก้ไขปัญหานี้ยังไง สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเราแม่งผลาญเงินไปมากมายจริงๆ"
"ลองไปที่สนามซ้อมแล้วชี้ให้ดูหน่อยว่าเงิน 1 พันล้านปอนด์อยู่ตรงไหน เราทำแบบนั้นไม่ได้เลย เพราะในอดีตที่ผ่านมาผมใช้เงินได้ไม่ดีเลย ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อปกป้อง โจเอล เกลเซอร์ เขาต้องปกป้องตัวเอง แต่พวกคุณยอมสละเวลามาที่นี่และบอกให้เรารู้ถึงความเห็นของคุณ ผมให้ความเคารพ และเราก็ผลาญเงินไปเยอะจริงๆ นั่นแหละ"
"ซัมเมอร์นี้เรามีเงินให้ผู้จัดการทีมคนใหม่ได้ใช้ และให้ผู้อำนวยการกีฬาอย่าง จอห์น เมอร์ทัฟ ใช้จ่ายด้วย โดยในอนาคตเราจะลงทุนสร้างสนามใหม่และขยายสนามซ้อมให้ใหญ่มากขึ้น ตอนนี้เราต้องมีเงินมากกว่านี้ เพราะในโลกนี้ไม่มีสโมสรไหนที่มีเงินสร้างสนามใหม่ คุณต้องกู้หรือไม่ก็ต้องลงทุน"
"คุณอาจไม่ชอบเจ้าของทีมคนปัจจุบัน ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้ แต่ถ้าคุณอยากให้คนอื่นเข้ามา พวกเขาต้องเข้ามาและพูดว่าโอเค แฟนบอลรักสโมสรและก็รักทีม ส่วนปีที่ผ่านมามันคือฝันร้าย ผมเกลียดทุกๆ นาทีของมันจริงๆ"
ส่วนเรื่องการปิดดีล เฟรงกี้ เดอ ยอง ที่แฟนๆ ต่างกำลังรอคอย ริชาร์ด อาร์โนลด์ ก็ได้พูดถึงว่า "ในฐานะสโมสรเรากำลังทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อได้การบรรลุข้อตกลงนั้นสำเร็จ ผมพยายามมาหลายวันแล้ว เงินเรามี แต่มันก็มีบางอย่างที่ขวางทางอยู่ซึ่งผมเองก็พูดไม่ได้ ตอนนี้ทีมงานของเราก็อยู่ที่ บาร์เซโลน่า เพื่อปิดดีล เฟรงกี้ เดอ ยอง"
นี่ก็เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มแฟนบอลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับคนที่เป็นซีอีโออย่าง ริชาร์ด อาร์โนลด์ กับการเปิดอกรับฟังความคิดเห็นและรับทราบถึงสถานการณ์ของกันและกัน ถึงแม้การพบเจอกันในครั้งนี้จะไม่สามารถหยุดยั้งการก่อประท้วงของแฟนๆ ได้ แต่ก็ถือเป็นภาพและโมเมนต์ดีๆ ที่น่าจดจำ ส่วนเรื่องราวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างนับจากนี้ก็คงต้องติดตามกันต่อไป
HaMu Dos Santos
