เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ลูคัส ซิลวา ได้แชร์ภาพที่น่าตกใจลงบนโลกโซเชี่ยลมีเดียโดยเป็นรูปรอยเย็บบนใบหน้าจากการโดนแฟนบอล อินเตอร์นาซิอองนาล เขวี้ยงโทรศัพท์ใส่ พร้อมกับเขียนแคปชั่นสั้นๆ ว่า "อีกหนึ่งเรื่องเศร้าในเส้นทางลูกหนังของเรา" มีอุปสรรคมากมายเกิดขึ้นบนเส้นทางค้าแข้งของ ลูคัส ซิลวา และมันก็เป็นตัวที่ฉุดให้เขาไปไม่ถึงฝันในการแจ้งเกิดกับ เรอัล มาดริด และในปัจจุบัน ลูคัส ซิลวา ก็เป็นได้แค่นักเตะของ เกรมิโอ ทีมในลีกรองของ บราซิล
สำหรับ ลูคัส ซิลวา เป็นดาวรุ่งที่แจ้งเกิดมาจากสโมสร ครูเซโร่ ในบ้านเกิดที่ บราซิล ก่อนจะได้ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในปี 2013 ในช่วงวัยราวๆ 19-20 ปี มีส่วนสำคัญอย่างมากในการพาทีมคว้าแชมป์ บราซิล ซีรี่ เอ 2 สมัยติดต่อกัน และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะได้รับเสียงโหวตให้เป็นมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดของ บราซิล ในปี 2014
นักฟุตบอลทุกคนบนโลกต่างก็มีความใฝ่ฝันในการได้โอกาสค้าแข้งกับหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง เรอัล มาดริด และก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสมหวัง แต่สำหรับ ลูคัส ซิลวา ฝันของเขาเป็นจริงเมื่อช่วงเดือนมกราคมปี 2015 เพราะทาง "ราชันชุดขาว" ได้จัดการคว้าตัวเขามาร่วมทีมด้วยสัญญา 5 ปีครึ่งโดยมีค่าตัว 14 ล้านยูโร
"ผมมีความสุขและรู้สึกทะเยอทะยานมากๆ ผมย้ายมา เรอัล มาดริด ก็เพื่อเรียนรู้และเหนือสิ่งอื่นใดก็เพื่อช่วยให้ทีมคว้าความสำเร็จ ผมรู้สึกดีและพร้อมที่จะให้เกียรติเสื้อตัวนี้ซึ่งเป็นสโมสรที่ดีที่สุดในโลก ผมชอบ เรอัล มาดริด มาตั้งแต่ยังเด็กแล้ว ผมมีความสุขที่ได้อยู่ในเมืองๆ นี้"
คนที่เป็นกุนซือ ณ ตอนนั้นก็คือ คาร์โล อันเชล็อตติ แกชื่อชอบและประทับใจในแววและฝีเท้าของเด็กคนนี้ และก็มั่นใจมากๆ ว่า "เด็กคนนี้จะเป็นอนาคตของทีมได้แน่" โดยในช่วงกุมภาพันธ์ 2015 นายใหญ่ชาวอิตาเลี่ยน ได้ส่ง ลูคัส ซิลวา ประเดิมสนามในเกม ลา ลีกา ที่เอาชนะ เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า 2-0 ซึ่งลงมาเป็นตัวสำรองแทนที่ อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้ ตามด้วยการประเดิมในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ได้ลงเล่นเต็มๆ 90 นาทีในนัดที่เอาชนะ ชาลเก้ 04 ไป 2-0
แต่ด้วยความที่อายุยังน้อยและด้อยประสบการณ์ทาง เรอัล มาดริด ก็ได้จัดการส่งตัว ลูคัส ซิลวา ไปฟาร์มเก็บเลเวลกับ โอลิมปิก มาร์กเซย แบบยืมตัวในฤดูกาล 2015-16 และนับตั้งแต่นั้นปัญหาต่างๆ มันก็เกิดขึ้น เพราะ ลูคัส ซิลวา ไม่สามารถก้าวขึ้นไปยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมได้ ถึงช่วงต้นปี 2016 จะมีข้อเสนอจาก อันเดอร์เลชท์ ยื่นเข้ามาขอยืมตัว แต่เจ้าตัวก็เลือกที่จะปฏิเสธและสู้ชีวิตกับ "โอแอ็ม" ต่อไป แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
ฤดูกาล 2016-17 โชคชะตาของ ลูคัส ซิลวา มีอันต้องพเนจรอีกครั้ง เพราะเขาไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของ ซีเนดีน ซีดาน ว่ากันว่าทาง สปอร์ติ้ง ลิสบอน นั้นต้องการยืมตัวไปใช้งาน 1 ปี แต่ถึงกระนั้นดีลดังกล่าวก็ไม่เกิดขึ้น ในในระหว่างการตรวจร่างกายกลับพบว่า ลูคัส ซิลวา นั้นมีปัญหาเกี่ยวกับการเต้นของหัวใจ
จากความผิดหวังในครั้งนั้นทำให้ ลูคัส ซิลวา จิตตกไม่น้อยและรู้สึกท้อใจสุดๆ จนเจ้าตัวได้ออกมาโอดครวญพร้อมกับเปรยๆ ถึงการแขวนสตั๊ดบนโลกโซเชี่ยลว่า "ช่วงอาชีพของผมใกล้จบแล้ว ผมจะเก็บความเชื่อทั้งหมดเอาไว้"
ทางการแพทย์ระบุเอาไว้ว่าอาการของ ลูคัส ซิลวา นั้นไม่ใช่อาการในระยะยาวและสามารถรักษาได้ และนั่นก็ทำให้เขากลับมามีกำลังใจในเส้นทางนักฟุตบอลอีกครั้ง แต่ข่าวร้ายก็คือทาง เรอัล มาดริด นั้นไม่มั่นใจที่จะให้โอกาสเขากับการเป็นแข้งในทีมชุดใหญ่
มกราคม 2017 นั่นก็ทำให้ ลูคัส ซิลวา ต้องย้ายทีมอีกครั้งโดยเป็นการกลับไปอยู่กับทีมเก่า ครูเซโร่ แบบยืมตัวด้วยสัญญา 2 ปีครึ่ง และนั่นก็เป็นระยะเวลาที่สัญญาปัจจุบันกับ เรอัล มาดริด จะสิ้นสุดลงพอดี เท่ากับว่าหลังจากนั้นเขาสามารถย้ายไปอยู่กับทีมไหนก็ได้แบบไม่มีค่าตัว
"ผมหวังว่าจะได้โอกาสมากกว่านี้ที่ มาดริด แต่มันก็ไม่มีทางเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามผมก็ยังมองว่านั่นคือประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ผมได้เรียนรู้อะไรมากมาย ด้วยสัญญาที่เหลืออยู่ไม่นานเราทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้เจรจาข้อตกลงเรื่องแยกทางกัน ผมถูกมองว่าเป็นมิดฟิลด์ดาวรุ่งที่ดีที่สุดในบราซิลตอนย้ายมาใหม่ๆ แน่นอนว่าผมคาดหวังว่ามันจะดีกว่านี้ที่ มาดริด แต่ผมไม่รู้สึกเสียใจอะไรและก็คิดถึงแค่โอกาสต่อๆ ไปเท่านั้น"
การกลับมาอยู่กับ ครูเซโร่ อีกครั้งก็ทำให้เจ้า ลูคัส ซิลวา กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งกับการได้โอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่อง โดยตลอด 2 ปรครึ้งได้ลงเล่นไป 82 เกม และช่วยให้ทีมรักเถลิงบัลลังก์แชมป์ โคปา โด บราซิล 2 สมัย และ คัมเปโอนาโต้ มิเนโร่ อีก 2 สมัยด้วยกัน ก่อนที่ มกราคม ปี 2020 ลูคัส ซิลวา ได้พบกับความท้าทายครั้งใหม่นั่นก็คือการย้ายไปค้าแข้งกับ เกรมิโอ อีกหนึ่งสโมสรดังของ บราซิล
"ผมภูมิใจมากๆ ที่ได้ยอมรับความท้าทายครั้งใหม่ในการสวมเสื้อที่ยอดเยี่ยมของ บราซิล ขอขอบคุณสำหรับความมั่นใจที่คุณมอบให้ และแน่นอนว่าผมจะไม่มีทางสูญเสียความมุ่งมั่น ผมจะทุ่มเทและตั้งใจทำงานอย่างหนัก"
ลูคัส ซิลวา ทำผลงานได้ดีและได้โอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องซึ่งปีแรกเขาสามารถพาทีมจบอันดับ 6 และไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึก โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส แต่ช่วงเวลาที่ดีของ ลูคัส ซิลวา ก็อยู่ได้ไม่นานนัก เพราะในปีต่อหรือฤดูกาล 2021 ทางต้นสังกัด เกรมิโอ เกิดปัญหาภายในมากมายทั้งเรื่องการบริหารและการเงินจนส่งผลต่อฟอร์มการเล่ร และท้ายที่สุดใครจะไปเชื่อว่าหนึ่งในทีมใหญ่ของ บราซิล จะต้องตกชั้นไปเล่นในลีกรอง ซีรี่ บี
หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นบนเส้นทางอาชีพของ ลูคัส ซิลวา แน่นอนว่ามันไม่ได้สิ่งที่เขาต้องการ แต่ถ้าเกิดพี่แกสามารถช่วยให้ เกรมิโอ้ ตีตั๋วกลับไปโลดแล่นบนลีกสูงสุดของ บราซิล ได้อีกครั้งก็จะถือเป็นเรื่องที่ดีเยี่ยม และมันก็จะทำให้เขาได้รับการยกย่องจากหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโซนอมริกาใต้ เมื่อคิดๆ ดูแล้วก็ไม่ใช่ช่วงอาชีพที่เลวร้ายเท่าไหร่ ขอแค่ไม่ย่อท้อและสู้ต่อไปแค่นั้น โดยในวัย 29 ปีก็ยังไม่ถือว่าสายถ้าหากเขาจะกลับมาเป็นนักเตะซูเปอร์สตาร์อย่างที่ใฝ่ฝัน
HaMu Dos Santos
