แม้ก่อนหน้านี้อนาคตของเขาอาจจะยังไม่แน่นอนเท่าไหร่นัก เพราะด้วยปัจจัยต่างๆ ทั้งเรื่องของผลงานทีมที่ไม่ได้ไปลุยศึก แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นหน้า รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือมาอยู่ในมือของ เอริค เทน ฮาก
ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราเลยจะมาทำการวิเคราะห์สถานการณ์ของดาวเตะผู้นี้กันว่าทำไมถึงถูกจับไปเชื่อมโยงกับการย้ายทีมบ่อยครั้งนัก และอนาคตของเขาจะลงเอยในรูปแบบไหน
ข่าวลือย้ายทีม
ย้อนกลับไปประเด็นดังกล่าวเริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่ฤดูกาล 2021-22 ยังไม่รูดม่านปิดฉากลง เหตุผลสำคัญมาจากผลงานของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ต้องยอมรับว่าช่วงหลังนั้นย่ำแย่เหลือเกิน จนหลุดวงโคจร และพลาดตั๋วไปลุยบอลถ้วยใหญ่ของยุโรปในฤดูกาลหน้า
ว่าแล้วเหล่าบรรดาสื่อต่างๆ ก็โหมกระแสว่า โรนัลโด้ พร้อมที่จะโยกย้ายเปลี่ยนแปลงสโมสรในช่วงซัมเมอร์นี้ แม้จะยังคงมีสัญญากับทัพ "ปีศาจแดง" อีกหนึ่งปีก็ตาม ถึงขั้นมีสื่อระบุว่าดาวเตะทีมชาติโปรตุเกสได้สั่งให้เอเยนต์ของเขาติดต่อไปหาสโมสรใหญ่ทีมหนึ่งในการเจรจาหวังย้ายไปโกยความสำเร็จในช่วงท้ายของบั้นปลายอาชีพการค้าแข้ง
ฉะนั้นไม่แปลกที่สื่อหลายเจ้าจะจับชื่อของ โรนัลโด้ ไปเชื่อมโยงกับมหาเศรษฐีแห่งฝรั่งเศสอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เพราะด้วยตอนนั้นสถานการณ์ของ เปแอสเช เองก็ไม่แน่นอนทั้งอนาคตของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ หรือข่าวการย้ายทีมของ เนย์มาร์
แต่ทว่าท้ายที่สุดข่าวนี้ไม่เคยมีอะไรอยู่ในกอไผ่กลายเป็นข่าวโคมลอยที่ถูกเขียนขึ้นมาเองจากสื่อหลายๆ สำนัก จนแฟนบอลต่างวิจารณ์ถึงประเด็นนี้กันไปต่างๆ นานา
ยังอยู่ในแผนของ เทน ฮาก
หนึ่งในประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงมากที่สุดคือการเข้ามาคุมทัพ "ปีศาจแดง" ของ เทน ฮาก เนื่องด้วยสถานการณ์ ณ ตอนนั้นนายใหญ่ชาวเนเธอร์แลนด์เองก็ต้องการสร้างทีมใหม่ของเขาขึ้นมา เพื่อบูรณะซ่อมแซมให้ทีมกลับมาเล่นมีทรง และก้าวไปข้างหน้า หาใช่เดินวนเป็นวงกลมเหมือนฤดูกาลที่เพิ่งผ่านมา
ฉะนั้นสื่อเลยเล่นประเด็นดังกล่าวว่า เทน ฮาก จะไม่เข้า โรนัลโด้ ไว้ในแผนทำทีมของตนเอง ก่อนที่เจ้าตัวจะออกมาประกาศชัดผ่านสื่อว่า โรนัลโด้ ยังคงเป็นนักเตะตัวหลักของทีม และอยากร่วมงานกับซูปเปอร์สตาร์รายนี้เป็นอย่างมาก
"แน่นอนเขาจะยังคงอยู่กับทีมต่อไป และเขาจะนำประตูมาให้เราได้อย่างมากมาย" นี่คือคำตอบจากปาก เทน ฮาก เพื่อเป็นการดับเทียนข่าวลือปล่อยตัว โรนัลโด้ ออกจากทีม
ส่วนทางฝั่ง โรนัลโด้ ที่โดนสื่อลากไปเชื่อมโยงการย้ายทีมต่างๆ นานา ก็ออกมากล่าวต้อนรับนายใหญ่คนใหม่ว่า "สิ่งที่ผมรู้เกี่ยวกับเขาคือการทำงานที่ยอดเยี่ยมให้กับ อาแจ็กซ์ เขาเป็นโค้ชที่มีประสบการณ์ แต่เราต้องให้เวลาเขา สิ่งต่าง ๆ จำเป็นต้องเปลี่ยนตามวิธีที่เขาต้องการ"
"ผมหวังว่าเราจะประสบความสำเร็จ แน่นอน เพราะถ้าคุณประสบความสำเร็จ ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จเช่นกัน ผมขออวยพรให้เขาทำได้ดีที่สุด เรามีความสุข และตื่นเต้น ไม่เพียงแต่ในฐานะนักเตะ แต่แฟนบอลก็เช่นกัน ผมขออวยพรให้เขาโชคดี และเชื่อว่าปีหน้าเราจะคว้าแชมป์ให้ได้"
เป็นอันว่าประโยคของทั้ง 2 คนแทบจะปิดประตูการย้ายทีมไปได้เลย เพราะต่างฝ่ายต่างอยากร่วมงานกันเพื่อสร้างทีมขึ้นมาใหม่อีกครั้งในฤดูกาลหน้า แต่ทว่าขึ้นชื่อว่า โรนัลโด้ ก็ไม่วายมีข่าวลือต่างๆ ออกมาให้แฟนบอลได้เสพกันอยู่เรื่อยๆ
กลับมาลืออีกรอบ ก่อนหายเข้ากลีบเมฆ
อย่างที่บอกไปว่าแม้ทั้งตัวของนักเตะ และกุนซือจะออกมาประกาศชัดดับเทียนข่าวลือต่างๆ ด้วยตนเอง แต่ก็ไม่พ้นกระแสข่าวที่ถูกโหมเรื่องการย้ายทีมอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้เป็นการเล่นประเด็นกับ 2 ทีมใหญ่ของยุโรป ในห้วงเวลาที่ห่างกันเพียงไม่กี่วัน
ย้อนกลับเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน โรนัลโด้ ถูกจับไปเชื่อมโยงกับ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยโทษฐานที่ว่าทัพ "เสือใต้" มีแววที่จะเสียกองหน้าคนสำคัญอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ออกไปจากทีม ทำให้สโมสรอาจจะต้องมองหากองหน้าคนใหม่ ก่อนที่จะกลายเป็น โรนัลโด้ ที่ถูกดึงเข้าไปอยู่ในลิสต์เสริมทัพนี้ด้วย
แต่ทว่าข่าวที่ออกมายังไม่ทันพ้นข้ามคืน ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช ผู้อำนวยการกีฬาของทัพ "เสือใต้" ก็ออกมายันชัดว่าทีมไม่ได้สนใจในตัวนักเตะรายนี้เลยสักนิด แม้จะยอมรับในเรื่องของคุณภาพ และการเป็นนักเตะระดับท็อปของวงการ
"คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นผู้เล่นระดับท็อปซึ่งมีเส้นทางอาชีพที่สุดยอด อย่างไรก็ตามเรื่องราวกับ บาเยิร์น มิวนิค นั้นไม่ใช่ความจริง พวกข่าวลือที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่เป็นความจริงเลยสักนิดเดียว"
หลังจากข่าวดังกล่าวถูกปัดไปเป็นที่เรียบร้อย ก็เกิดกระแสใหญ่ขึ้นอีกครั้งคราวนี้เป็น เชลซี ที่ถูกจับมาเชื่อมโยงด้วย และถูกโหมด้วยสื่อใหญ่หลายสำนักทั้ง ดิ แอธเลติก หรือ เทเลกราฟ ยิ่งโหมให้ประเด็นนี้น่าสนใจมากกว่าเดิม
ประเด็นนี้ถูกรายงานข่าวออกมาว่า ทอด โบห์ลี เจ้าของใหม่ของทัพ "สิงห์บลูส์" ที่ควบตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาของสโมสร ได้เข้าเจรจากับ จอร์จ เมนเดส เอเยนต์ส่วนตัวของ โรนัลโด้ ซึ่งนี่คือจุดที่ทวีคูณข่าวดังกล่าวให้ร้อนแรงมากกว่าเดิม
โอเคแหละครับมองในเรื่องของอายุของ โรนัลโด้ คงไม่เหมาะแก่การนำมาเพื่อสร้างอนาคตของสโมสร แต่ทว่าในด้านธุรกิจแน่นอนว่าชื่อของ CR7 ย่อมขายได้ และเป็นการเพิ่มมูลค่าของสโมสรให้เพิ่มมากขึ้นไปอีก ส่วนอีกประเด็นที่ถูกเชื่อมโยงคือ แชมเปี้ยนส์ลีก เพราะถ้าเขาย้ายมาเล่นในลอนดอนจะยังคงได้ลงเล่นในถ้วยใหญ่ที่คุ้นเคย ไม่ใช่ ยูโรปา ลีก โรนัลโด้ เองคงไม่อภิรมย์เท่าไหร่นัก
ซึ่งเรื่องราวนี้ก็เริ่มๆ เงียบหายไปตามกาลเวลาไม่ได้มีสื่อเจ้าไหนตามเกาะติด และรายงานถึงความคืบหน้าออกมา แต่กระนั้นถ้ามองในอีกมุมการเข้าพบ จอร์จ เมนเดส ของ ทอด โบห์ลี อาจเป็นการพูดคุยถึงนักเตะในสังกัดรายอื่นๆ หรือเปล่า แต่เพียงว่าชื่อของ โรนัลโด้ อาจเป็นเบอร์ใหญ่ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงก็เป็นได้
อนาคตหลังจากนี้
นี่คงจะเป็นประเด็นที่ตอบยากที่สุด เพราะไม่อาจมีใครรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง บวกกับอายุของ โรนัลโด้ ที่ปัจจุบัน 37 ปี ยิ่งไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าเจ้าตัวจะไปปิดฉากชีวิตลูกหนังกับสโมสรใด จะเป็นทีมใหญ่เพื่อคว้าความสำเร็จขบวนสุดท้าย หรือย้ายกลับไปบ้านเกิดลงเล่นกับ สปอร์ตติ้ง ลิสบอน ที่ประธานสโมสรก็ออกมายอมรับเองว่าอยากได้กลับไปเช่นกัน
แต่ถ้าจะวิเคราะห์กันในช่วงระยะเวลาต่อจากนี้อีกสัก 1 ฤดูกาล ตามสัญญาที่ยังคงมีอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เชื่อว่า โรนัลโด้ น่าจะอยู่จนครบสัญญากับทีม เพื่ออย่างน้อยจะได้ลงเล่นคว้าความสำเร็จ และลบภาพจำร้ายๆ สำหรับการรีเทิร์นกลับมาในครั้งนี้ให้จงได้
แต่ทว่าหลังจากนั้นก็ต้องมาพิจารณากันอีกครั้งว่าอนาคตของเขาจะไปได้ทิศทางไหน ขยายสัญญากับ "ปีศาจแดง" ออกไปไหม หรือออกเดินทางตามวิถีฟุตบอลที่เขาเผชิญมาตลอดอาชีพการค้าแข้ง
ซึ่งไม่ว่าจะออกมาในทิศทางไหนด้วยชื่อของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย่อมได้รับความสนใจ และสั่นสะเทือนวงการอย่างแน่นอน
- Paolinho -