logo-heading

ไม่ได้มีเพียง เจ้าบุญทุ่ม กับแค่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เท่านั้น เนื่องจาก เชลซี โผล่เข้ามา และ ยิ่งทำให้เรื่องราวนี้ ซับซ้อนซ่อนเงื่อนยิ่งขึ้นไปอีก

หลังจากมีรายงานว่า สิงห์บลูส์ ได้ติดต่อไปหา บาร์ซ่า เพื่อเจรจาคว้าตัว เดอ ยอง อย่างจริงจัง ทำเอาสาวก ปีศาจแดง เดือดดาลทันที เพราะพวกเขาตามจีบนักเตะรายนี้มาอย่างยาวนาน เป็นนักเตะคนเดียวที่ เอริค เทน ฮาก กุนซือใหญ่ ไม่มองใครเป็นแผนสำรองเอาไว้ และ หวังได้ตัวเข้ามายกระดับแผงมิดฟิลด์ แต่กลับจะโดนปาดไปเสียอย่างนั้น

สายตาของผม ก็ดันทะลึ่งไปเห็นคอมเมนท์ของแฟนบอลหลายๆคนในทำนองที่ว่า ถ้าหาก เดอ ยอง ย้ายไป เชลซี ..

"จะขอตามสาปแช่งบ้าง" / "ฝีเท้าเอ็งก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรขนาดนั้น" หรือ "ดีแล้ว เพราะไม่อยากได้คนไม่มีใจมาอยู่กับทีมหรอก"

ซึ่งแน่นอนการแสดงความคิดเห็นแบบนี้ ย่อมเกิดขึ้นได้ เพราะต่างคน ต่างก็มีความรู้สึก แต่คำถามคือ "เฟรงกี้ เดอ ยอง ผิดไหมครับ ถ้าหากเขาไม่เลือกย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ?"

เรื่องราวระหว่าง เดอ ยอง กับ แมนฯ ยูไนเต็ด มันคือโลกแห่งฟุตบอล แต่จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับ โลกแห่งความรักในชีวิตมากหรอกครับ ..

เปรียบเสมือน ปีศาจแดง เป็นผู้ชายท่านหนึ่ง ตกหลุมรักสาวสวยตรงสเป็คทุกอย่างแบบ เฟรงกี้ เดอ ยอง ซึ่งเขาพยายามทำทุกๆอย่างเพื่อให้เธอคนนั้นตกหลุมรัก โดยเฉพาะเรื่องชื่อเสียงเงินทอง ทาง แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เป็นสองรองใครอยู่แล้ว ยิ่งมี เอริค เทน ฮาก ที่เป็นคนเคยสนิทสนม ยิ่งทำให้ความรู้สึกของแฟนบอล พล้อยคิดเองเออเองไปว่า "เดี๋ยว เดอ ยอง ก็ต้องรักเราเข้าสักวัน"

อย่างไรก็ตาม ความจริงบนโลกใบนี้ ก็คือ หลายๆครั้ง "ความรักไม่ต้องพยายาม เพราะคนไม่รักยังไงก็ไม่รัก" ต่อให้ทำดีแค่ไหน เขาจะเห็นแค่เราเป็นคนดี ไม่ใช่เป็นคนรัก และ คนเราไม่ได้สมบูรณ์แบบ มันจะต้องมีสิ่งหนึ่งที่ขาดหายไป .. 

ใช่ครับ แมนฯ ยูไนเต็ด มีครบทุกอย่าง เท่าที่นักฟุตบอลคนหนึ่งต้องการ แต่กระนั้นพวกเขามีโปรไฟล์ไม่ตรงสเป็ค เดอ ยอง อยู่อย่างเดียว นั่นก็คือ "การไม่ได้ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก" ในซีซั่นหน้า ที่สำคัญภายในอีก 1-2 ปี นี้ ก็ไม่ได้การันตีด้วยซ้ำว่า ปีศาจแดง จะกลับไปติดท็อปโฟร์ เพราะในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีเหล่ายอดทีมเต็มไปหมด

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไม เดอ ยอง ถึงไม่ตกลงย้ายไปอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด สักที ทั้งๆที่ บาร์ซ่า ต้องการขายออกจากทีมแบบใจจะขาด เนื่องจากฝั่ง เจ้าบุญทุ่ม ต้องการลดภาระค่าใช้จ่าย รวมถึงยอดค่าเหนื่อยที่ยังคงติดค้างจากช่วงโรค โควิด-19 ระบาด

ต่อให้โดนขู่จะตัดออกจากทีมปรีซีซั่นก็แล้ว จะต้องยอมลดค่าเหนื่อย 50 เปอร์เซ็นต์ ก็แล้ว แม้กระทั่งโดนจับไปเล่นเซ็นเตอร์แบ็กก็แล้ว แต่ไม่ได้มีทีท่าเลยว่า เฟรงกี้ จะต้องการย้ายออกจาก บาร์ซ่า

"บาร์เซโลน่า คือความฝันเดียวของผมมาตั้งแต่วัยเด็ก ผมไม่เคยเสียใจกับการเลือกของตัวเอง แม้ในความจริงผมหวังอยากได้แชมป์มากกว่านี้ แต่ผมไม่เคยเสียใจกับการเลือกของตัวเอง" 

บทสัมภาษณ์นี้ มันแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกที่ชัดเจนเลยว่า เขาไม่ต้องการย้ายออกจากถิ่นคัมป์ นู เลยสักนิด เขาแสดงจุดยืนให้เห็นมาตั้งแต่แรกว่า บาร์เซโลน่า คือความฝันมาตั้งแต่เด็กๆ

ซึ่งจริงๆมันควรจบไปนานแล้ว แต่ทางฝั่ง บาร์ซ่า ก็คงยังแอบคิดเรื่องการปล่อย เดอ ยอง ไปเหมือนกัน เนื่องจากเวลาที่ ชาบี เอร์นานเดซ กุนซือใหญ่ ให้สัมภาษณ์ถึงอนาคตนักเตะรายนี้ ก็พยายามแยบๆเรื่องที่สโมสรมีปัญหาเรื่อง "ไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพลย์" อยู่ตลอด

ดังนั้นมีโอกาสเหมือนกันที่ บาร์ซ่า จะยังอยากปล่อยตัว เดอ ยอง ออกจากทีม เพราะค่าตัวที่ตั้งไว้ราวๆ 80-100 ล้านยูโร จะทำให้เศรษฐกิจภายในสโมสรคล่องตัวมากกว่าเดิมหลายเท่า

ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไม แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงไม่ปิดดีลสักที ก็เพราะ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แบบที่เคยบอกนั่นแหละครับ คือคำตอบที่ว่าทำไมสาวก ปีศาจแดง ยังได้แค่หวังลมๆแล้งๆ ยังมูฟออนเป็นวงกลม ไม่จบไม่สิ้น

เมื่อเป็นเช่นนั้น เชลซี ที่มีโปรไฟล์ หล่อ ดูดีไม่แพ้กัน ยื่นมือเข้ามา และ มีโอกาสที่จะคว้าตัว เฟรงกี้ เดอ ยอง ไปร่วมทีม เพราะพวกเขามีสถานะที่เหนือกว่า ปีศาจแดง เนื่องจากพวกเขาพร้อมพานักเตะรายนี้ ไปโม่แข้งบนเวที ยูซีแอล แบบที่เขาต้องการ

ล่าสุด เดวิด ออร์นสตีน ผู้สื่อข่าวน่าเชื่อถือเบอร์ต้นๆแห่งโลกลูกหนัง จาก "ดิ แอธเลติก" รายงานว่า เชลซี กำลังติดต่อไปหา บาร์ซ่า โดยตรง เพื่อปาดหน้าในการซิว เดอ ยอง โดยพร้อมทุ่มเงิน 85 ล้านยูโร หวังปิดดดีลให้ได้ ซึ่งก็เหลือแค่ให้นักเตะตัดสินใจว่าเอาจะยังไง อยากอยู่ บาร์ซ่า หรือ ทนแรงกดดันไม่ไหว

ถ้าสุดท้ายแล้ว เดอ ยอง เลือกไป เชลซี มากกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ถามว่าผิดไหม ? ไม่ผิดเลยครับ ถึงแม้จะสร้างความเจ็บปวดใจให้กับสาวก ปีศาจแดง มากเหลือเกิน เพราะ เดอ ยอง ได้แสดงจุดยืนมานานแล้วว่า เขาต้องการอะไร อนาคตของเขาฝากไว้ที่ไหน

ถ้าหาก บาร์เซโลน่า ต้องการจะขาย เดอ ยอง ก็คงเลือกไปสถานที่ที่เขาต้องการมากที่สุด หาก ยูซีแอล คือสิ่งที่โหยหา เชลซี คงเป็นสโมสรที่มอบสิ่งนั้นให้กับเขาได้

ส่วนกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็อาจจะต้องเจอบาดแผลที่ไม่มีวันหาย เพราะต่อให้จะทุ่มเทแค่ไหน แต่หัวใจของ เดอ ยอง ไม่เคยมองมาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เลยสักครั้ง เช่นกันครับ คนเราทำดีได้ดี แต่ไม่เคยได้รัก

และแฟนๆขอบสนามล่ะครับ คิดว่าสุดท้าย เดอ ยอง จะเลือกใคร

ฮาย ฮาวดี้-
 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline