logo-heading

5. เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

ถือว่าคงเซอร์ไพรส์หลายคน เพราะตลาดนี้ดูเผิน ๆ เหมือน ขุนค้อน จะไม่ได้เสริมอะไรมากนัก แต่รู้ไหมครับว่าจริง ๆ แล้วพวกเขาใช้เงินซื้อนักเตะในตลาดซัมเมอร์นี้ มากเป็นอันดับ 3 ของสโมสรยุโรปเลย ด้วยเงินกว่า 180 ล้านยูโร

โดยตัวชูโรงจะเป็นการคว้าตัว ลูคัส ปาเกต้า กลางรุกตัวเก่งของ ลียง มาร่วมทัพด้วยค่าตัวกว่า 42 ล้านยูโร, การดึงตัว จานลูก้า สคามัคคา กองหน้าสายโหม่งของ ซาสซูโอโล่ มาด้วยเงิน 36 ล้านยูโร และการเซ็นคว้า นาอิฟ อเกิร์ด เซ็นเตอร์ตัวเก่งของ แรนส์ ด้วยค่าตัว 35 ล้านยูโร

นอกจากนี้ยังมีการเสริมแข้งในระดับค่าตัว 10-20 ล้านยูโรอีกหลายราย ทั้ง แม็กเวล กอร์เน็ต ปีกจาก เบิร์นลี่ย์, เอแมร์สัน แบ็คซ้ายจาก เชลซี และ ธิโล เคห์เรอร์ กับ อาลฟงส์ อาเรออล่า จาก เปแอสเช พอไล่ดูแล้วไม่แปลกเลยครับ ว่าทำไม เวสต์แฮม ถึงเป็นหนึ่งในทีมนักช็อปของตลาดนี้

4. บาร์เซโลน่า

จากทีมที่ดูมีปัญหาเรื่องการเงินมากที่สุดทีมหนึ่ง แต่สามารถเสริมทัพได้อย่างน่าสนใจ ด้วยการใช้คันโยกหยิบยกเงินบางส่วนในอนาคตมาใช้ ผนวกกับภาพลักษณ์-เกียรติประวัติสโมสร ทำให้ เจ้าบุญทุ่ม สามารถเป็นหนึ่งในนักช็อปที่ดูดีมีทรงของตลาดนี้ได้

ไล่ตั้งแต่การเซ็นของดีแต่ฟรีอย่าง อันเดรียส คริสเตนเซ่น และ ฟร้องค์ เคสซี่, ต่อด้วยการทุ่ม 58 ล้านยูโรคว้า ราฟินญ่า, ถัดมาด้วยการเซ็นหนึ่งในบิ๊กเนมที่สุดที่ย้ายในซัมเมอร์นี้อย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ มาด้วยเงิน 45 ล้านยูโร

แถมก็ยังไม่หยุด โชว์ปาด เชลซี สอย ฌูลส์ กุนเด้ แนวรับ เซบีย่า มาด้วยค่าตัว 50 ล้านยูโร ก่อนจะปิดตลาดด้วยการเซ็นฟรี เอ็คตอร์ เบเยริน และสุดท้าย มาร์กอส อลอนโซ่ ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ได้จากการขาย โอบาเมยอง ต้องบอกว่าพวกเขาใช้เงินค่อนข้างเยอะและเสี่ยงจริง ๆ แต่คุ้ม-ไม่คุ้มผลงานเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ

3. น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

อย่างที่บอกตอนต้น ว่าทีมนักช็อปสำหรับเรานอกจากเรื่องเงินแล้ว เรายังดูถึงจำนวนนักเตะที่เสริมด้วย ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีทีมไหนในตลาดนี้เหนือไปกว่า ทัพเจ้าป่า แล้ว หลังจากพวกเขาปิดตลาดด้วยการซื้อนักเตะมากถึง 21 ราย

คือซื้อเพิ่มอีกคนก็เท่ากับได้ตัวจริงอีก 2 ทีมแล้ว ซึ่งถือเป็นจำนวนที่บ้าคลั่งมาก ๆ แทบไม่เคยพบเคยเจอ โดยตัวที่ซื้อของพวกเขาก็ไม่ได้มีราคาแพงมากนัก แพงสุดจะเป็น มอร์แกน กิ๊บบ์ซ-ไวท์ กลางรุกจาก วูล์ฟส์ ที่ราคา 29 ล้านยูโร

ส่วนคนอื่นที่น่าสนใจก็จะเป็น เอ็มมานูเอล เดนนิส แนวรุกตัวเก่ง วัตฟอร์ด ได้มาไม่แพง 14 ล้านยูโร หรือจะสองดาวรุ่ง ลิเวอร์พูล อย่าง เนโก้ วิลเลี่ยมส์ และ ไตโว อโวนิยี่ ที่ตกคนละ 20 ล้านยูโร

และส่วนในราคาไม่เกิน 10 ล้านหรือยืมตัว ก็มีน่าสนใจอย่าง เจสซี่ ลินการ์ด, ดีน เฮนเดอร์สัน หรือจะ เลนัน โลดี้ แบ็คซ้ายจาก แอตฯ มาดริด แม้ค่าตัวแต่ละคนจะไม่เยอะ แต่รวม ๆ แล้วก็มากถึง 161 ล้านยูโร มากเป็นอันดับ 4 ของสโมสรยุโรปเลย ไม่น่าเชื่อนะครับว่าทีมน้องใหม่อย่าง ฟอเรสต์ จะกลายเป็นนักช็อปถึงเบอร์นี้ได้

 

2. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

จากข้อมูลเมื่อช่วงไม่กี่วันก่อน ที่ระบุว่า ปีศาจแดง คือทีมที่ใช้เงินซื้อนักเตะมากที่สุดในรอบทศวรรษ มาตลาดนี้แน่นอนยังไม่ทิ้งลายครับ พวกเขาเป็นหนึ่งในทีมที่จับจ่ายเสริมทัพมากที่สุดในยุโรป ด้วยเงินเกือบ 240 ล้านยูโร

โดยตัวชูโรงหลัก ๆ แน่นอนมี 3 คน เริ่มจาก อันโตนี่ ปีกศิษย์เก่า เทน ฮาก ด้วยค่าตัว 95 ล้านยูโร แพงสุดเหนือทุกคนในตลาดนี้ ถัดมาของทีมเป็น กาเซมิโร่ กลางรับระดับเวิร์ดคลาส ค่าตัวก็เวิร์ลคลาสเช่นกัน กว่า 70 ล้านยูโร แพงเป็นอันดับ 5 ของซัมเมอร์นี้

และตัวแพงคนสุดท้าย ลิซารโดร มาร์ติเนซ อีกศิษย์เก่า อาแจ็กซ์ ด้วยค่าตัวกว่า 57 ล้านยูโร ส่วนที่เหลือก็จะเป็น ไทเรลล์ มาลาเซีย 15 ล้านยูโร, เซ็นฟรี คริสเตียน อีริคเซ็น และปิดท้ายตลาดด้วยการยืมตัว มาร์ติน ดูบราฟก้า มารับบทบาทนายด่านมือสอง

ต้องยอมรับครับว่าแม้ ตระกูลเกลเซอร์ จะเป็นปลิงคอยดูดเลือดสโมสร แต่ ยูไนเต็ด เองก็ใช้เงินมาไม่น้อยเหมือนกันในรอบ 10 ปีหลัง รวมถึงตลาดนี้ เพราะฉะนั้นหากผลงานเกิดมีการสะดุดผิดพลาด เราก็จะเอาแต่โทษบอร์ดบริหารเป็นหลักอย่างเดียวไม่ได้แล้วล่ะครับ เพราะเสริมให้หนักจริง ๆ

 

1. เชลซี

นักช็อปอันดับหนึ่งเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ทัพสิงห์บลูส์ เพราะพวกเขาคือทีมที่ใช้เงินซื้อนักเตะมากที่สุดเหนือทุกทีมในตลาดซัมเมอร์นี้ ด้วยตัวเลขเกือบแตะ 280 ล้านยูโร ถือว่าเปิดตลาดแรกของเจ้าใหม่อย่าง เสี่ย ท็อดด์ โบห์ลี่ ได้อย่างน่าสนใจ

ไล่ตั้งแต่การคว้าตัว คาลิดู คูลิบาลี่ ด้วยค่าเงิน 38 ล้านยูโร, ต่อด้วย ราฮีม สเตอร์ลิ่ง 56 ล้านยูโร, มาร์ค กูกูรูย่า 65 ล้านยูโร ถือเป็นแบ็คซ้ายที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ต่อด้วยแพงขึ้นไปอีก เวสลี่ย์ โฟฟาน่า 80 ล้านยูโร แพงเป็นอันดับสองในตลาดนี้

ก่อนจะปิดท้ายตลาดด้วยการยื่นเงิน 12 ล้านยูโรบวก อลอนโซ่ แลกเอา โอบาเมยอง มาแก้ปัญหากองหน้า กับยืมตัว เดนิส ซากาเรีย กลางรับจาก ยูเวนตุส มาใช้งาน 

และพวกเขายังมีการเสริมดาวรุ่งทั้ง คาร์นี่ย์ ชูคคัวมาก้า ด้วยเงิน 18 ล้านยูโร กับ กาเบรียล สโลนิน่า ด้วยเงิน 9 ล้านยูโร จึงจะเห็นได้เลยว่าแม้จะหมดจากยุค เสี่ยหมี ไป แต่ เชลซี ก็ยังโชคดีได้เจ้าของใหม่เป็นสายทุ่มเหมือนกันครับ แต่ต้องรอดูตลาดถัด ๆ ไปด้วยนะ ว่าจะยังทุ่มแบบนี้ต่อไปไหม


และนี่คือ 5 ทีมนักช็อปประจำตลาดซัมเมอร์ 2022 สำหรับเรา โดยท้ายนี้มีหนึ่งในเกร็ดข้อมูลที่น่าสนใจ นั่นคือเรื่องที่ตลาดนี้ สโมสร พรีเมียร์ลีก ใช้เงินรวมเกินมากถึง 1,900 ล้านปอนด์

ในขณะที่ลีก เอิง, ลาลีกา, บุนเดสลีกา และ เซเรีย อา มารวมกันนั้นได้อยู่ที่ 1,970 ล้านปอนด์ คือพรีเมียร์ลีก ๆ เดียวก็แทบจะใช้เงินเท่ากับทุกลีกแล้ว ต้องบอกว่าไม่แปลกว่าทำไมจากโผ 5 นักช็อปของเรา จึงมีทีมจาก พรีเมียร์ลีก มาถึง 4 สโมสร แม้ช็อปเก่งแถมเงินเยอะเจรง ๆ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline