ซึ่งเอาจริงๆ ทรงบอลของ ปีศาจแดง ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรนะครับ อาจจะมีขาดๆเกินไปหลายครั้ง หรือ จะมีใครบ้างคนที่เล่นขัดใจแฟนบอลไปบ้าง
แต่กระนั้นการพ่ายแพ้ของ แมนฯ ยูไนเต็ด มันเกิดจากลูกโทษปัญหา ซึ่งน่าจะเป็น บอล ทู แฮนด์ มากกว่าตั้งใจทำแฮนด์บอล ในจังหวะที่ ลิซานโดร มาร์ติเนซ กองหลัง ปีศาจแดง วิ่งปรี่เข้าไปบล็อกลูกยิง ดาบิด ซิลบา เอาเป็นว่าไม่อยากพูดพร่ำทำเพลงให้มากความ ไปดูประเด็นที่ตามมาหลังจบเกมนี้กันดีกว่า ว่ามีอะไรน่าสนใจเกิดขึ้นบ้าง
- แมนฯ ยูไนเต็ด ดวงแตก โดนจุดโทษแบบงงๆ
ทำเอาสาวก เร้ด เดวิลส์ หัวร้อนกันทั้งบางเลยครับ เมื่อ มาร์โก ดิ เบลโล่ ผู้ตัดสินในสนาม ตัดสินใจแจกจุดโทษให้กับ เรอัล โซเซียดาด แบบงงๆ จากจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา ยิงไปโดนแขน ลิซานโดร มาร์ติเนซ ในกรอบเขตโทษ แน่นอนว่าถ้าบอลโดนแขน ก็ต้องจุดโทษใช่ไหมล่ะครับ ?
แต่กระนั้นจากภาพช้าที่เห็น ซิลบา ยิงไปโดนหัวเข่า ก่อนที่บอลมันจะกระดอนขึ้นไปโดนแขนของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่วิ่งเอาตัวเข้ามาบล็อค แบบไม่ได้ตั้งใจ อีกทั้งแขนของ มาร์ติเนซ ก็ไม่ได้กางแบบน่าเกลียด พูดง่ายๆก็คือน่าจะเป็น บอล ดู แฮนด์ มากกว่า ซึ่งแน่นอนพวกนักเตะ ปีศาจแดง ก็ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินนี้ พยามเข้าไปประท้วง สิงห์เชิ๊ตดำ ว่าบอลมันแฉลบหัวเข่า
อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสิน คุยกับเจ้าหน้าที่ VAR อยู่สักพัก แบบไม่ขอเดินไปดูจอข้างสนาม ก่อนจะยืนยันให้จุดโทษกับ โซเซียดาด ตามเดิม ชนิดที่แฟนบอล ปีศาจแดง ด่าเหี้ยกันทั้งบาง เพราะมองมุมไหนก็ไม่น่าได้จุดโทษ ซึ่งกรรมการอาจมองว่ามือไม่ชิดลำตัว อาจมีผล และ มันก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว สุดท้ายกลายเป็นประตูของทีมเยือน โดย บราอิส เมนเดซ สังหารด้วยซ้ายเข้าไปไม่พลาด
- ยูโรปา ลีก ครั้งแรกของ พี่โด้
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะต้องลงวาดลวดลายบนเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หนแรก, เรอัล มาดริด และ ยูเวนตุส ฉะนั้นการลงเล่นในศึก ยูโรปา ลีก หนนี้ เป็นภาพที่ต้องจารึกไว้บนหน้าพงศาวดารลูกหนัง
4 เกมหลังในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ของ ซีอาร์ 7 มีชื่ออยู่บนม้านั่งสำรอง และ มักได้ลงสนามในช่วงครึ่งหลัง แต่ เกมเจอกับ เรอัล โซเซียดาด เขาได้รับโอกาสลงเล่นเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริง ตามคาด โดย เอริค เทน ฮาก เลือกพัก มาร์คัช แรชฟอร์ด ซึ่งไม่มีชื่ออยู่ในทีมเกมนี้
อย่างไรก็ตาม การลงเล่นเป็นตัวจริงของ โรนัลโด้ ก็ยังไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไรให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากนัก โอกาสจบสกอร์หนะมี แต่ว่าก็ยิงทิ้งยิงขว้างบ้าง ยิงติดบล็อคบ้าง บอลผ่านหน้าไปบ้าง ซึ่งมันก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกันนะครับว่า เจ้าของฉายา "เครื่องจักรถล่มประตู" มักยิงคู่แข่งเป็นว่าเล่น ทว่าซีซั่นนี้ พี่โด้ ยังไม่สามารถเบิกสกอร์แรกของตัวเองในสีเสื้อ ปีศาจแดง ได้เลย แม้จะลงเล่นไปแล้ว 297 นาที จาก 7 นัด
- คุโบะ ของดีจัดๆ
ยอมรับตามตรงว่า เพิ่งมีโอกาสได้ดู ทาเคฟุสะ คุโบะ แบบเต็มๆ 90 นาที ซึ่งอยากรู้ว่าเจ้าหนูเลือดซามูไร มันของดีขนาดไหน ทำไม เรอัล มาดริด ถึงเคยซื้อมาร่วมทีม และ ปล่อยตัวมาให้กับ เรอัล โซเซียดาด ซึ่งก็เป็นสโมสรชั้นนำจาก ลา ลีกา สเปน เพราะถ้าไม่เก่งจริง ไม่ได้มาโชว์ของลีกใหญ่ยุโรป แน่นอน
ช่วงครึ่งหลังต้องบอกเลยว่า คุโบะ มีส่วนร่วมช่วยทีมในเกมรุกมากเหลือเกิน ตอนที่ คุโบะ อยู่ฝั่งซ้ายของสนาม ปั่นป่วนแนวรับ ปีศาจแดง ได้ดีจริงๆ ทั้งทักษะการไปกับบอล กับเปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษ นับว่ามีลุ้นอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเจอหน้าไหน พร้อมจะลากจี้เข้าใส่แบบไม่เกรงกลัวบารมี ซึ่งมีโอกาสได้ยิงด้วย แค่ไม่ผ่านมือ ดาบิด เด เคอา
ต่อให้ โซเซียดาด จะซื้อ คุโบะ มาจาก มาดริด ด้วยค่าตัว 6.5 ล้านยูโร แต่พวกเขาถือกรรมสิทธิ์แค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น หมายความว่า มาดริด มีโอกาสซื้อตัวกลับไป ถ้าหากว่า คุโบะ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในอนาคต เชื่อเหลือเกินว่าถ้า เจ้าหนูวัย 21 ปี ยังโชว์ฟอร์มได้แบบนี้อย่างต่อเนื่อง ได้วาดลวดลายบนเวทีใหญ่ๆ เขาอาจจะได้กลับไปสวมชุด ราชันชุดขาว อีกครั้ง ก็เป็นได้
- การพ่ายแพ้ครั้งแรกในรอบ 5 นัด
ของ แมนฯ ยูไนเต็ด
จากการออกสตาร์ทซีซั่น 2 นัดแรก ได้อย่างห่วยแตก ทั้งแพ้ ไบรท์ตัน 1-2 และ พ่าย เบรนท์ฟอร์ด 0-4 ร่วงไปรั้งบ๊วยของตาราง เหมือนเป็นการตบหน้าให้ลูกทีม เอริค เทน ฮาก ได้ตื่นมาจากภวังค์ จากทรงบอลที่ดูแล้วเหนื่อยหน่ายหัวใจ กลับเปี่ยมล้นไปด้วยพลัง เล่นกันด้วยแพสชั่น ทำตามแท็คติค ก่อนจะพลิกนรกกลับมาเก็บชัยชนะ 4 รวด โดยมีเหยื่ออย่าง ลิเวอร์พูล, เซาธ์แฮมป์ตัน, เลสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล เป็นที่รองรับ
แน่นอนว่าฟอร์มแบบนี้ การเจอกับ โซเซียดาด ย่อมไม่ครณามือ ปีศาจแดง อยู่แล้ว ยิ่งเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เหมือนได้พลังตีบวกเพิ่มเป็นทวีคูณ แต่กระนั้น ปีศาจแดง เจาะเท่าไหร่ก็ไม่เข้า พยายามทำทุกวิถีทาง ทั้งเจาะจากริมเส้น, ครอสบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ หรือ แม้แต่ยิงไกล ก็ไม่สามารถเข้าเป้าหมายได้เลย
สุดท้ายแล้ว กลายเป็นว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ประเดิมนัดแรกของ ยูโรปา ลีก ซีซั่นนี้ ไม่สวยเอาเสียเลย เพราะเริ่มต้นด้วยการพ่ายแพ้ซะอย่างงั้น เป็นการปราชัยครั้งแรกในรอบ 5 นัดหลังสุด แต่ถ้าถามว่าการแพ้ครั้งนี้เสียหายมากไหม ? ก็ไม่หรอกครับ เพราะเพื่อนร่วมกลุ่ม ยังไงเสีย ปีศาจแดง ก็เหนือกว่าเพื่อน ซึ่งอีก 2 ทีม ก็เป็นสโมสรเล็กๆอย่าง เชอร์ริฟฟ์ จาก มอลโดว่า กับ โอโมเนีย นิโคเซีย จาก ไซปรัส ดูแล้วโอกาสเข้ารอบยังมีภาษีดีเหมือนเดิม
ฮาย ฮาวดี้-
ฮาย ฮาวดี้
