หลังเกม ซานโช่ ควงแขน พี่โด้ ซัดคนละเม็ดบุกเด็ด เชอร์ริฟฟ์

ชนิดที่ได้ 2 ประตู ตั้งแต่ครึ่งแรก เรียกว่าแฟนบอล เร้ด เดวิลส์ ดูบอลกันได้แบบสบายใจ

ซึ่งเกมนี้เป็นการเปิดซิงเรียกความมั่นใจให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้สักทีครับ เพราะเขามีชื่ออยู่บนสกอร์บอร์ดในเกมนี้ด้วย เอาเป็นว่ามีประเด็นอะไรที่น่าสนใจของคู่นี้กันบ้าง ไปติดตามกันเลยครับ

- ซานโช่ ยิงให้ เซาธ์เกต ดู

ก่อนหน้าเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะบุกไปเยือน เชอร์ริฟฟ์ แค่ไม่กี่ชั่วโมง ทีมชาติอังกฤษ ได้มีการประกาศรายชื่อ 28 ขุนพล ไว้รอเจอกับ ทีมชาติอิตาลี และ ทีมชาติเยอรมัน ช่วงปลายเดือนกันยายน นี้ ซึ่งมันมีประเด็นที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ตัดสินใจไม่เรียกตัว จาดอน ซานโช่ มาติดธง ทั้งๆที่กำลังโชว์ฟอร์มขึ้นหม้อกับ ปีศาจแดง

ซึ่งการไม่มีชื่อของ ซานโช่ เหมือนทำให้ตัวนักเตะมีแรงกระตุ้น มีความมุ่งมั่นมากกว่าเดิม เพราะจัดการซัดเปิดซิงให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0 ด้วยการแตะหลอกคู่แข่ง 1 จังหวะ ก่อนจะซัดด้วยซ้าย เล่นทางเข้าไปอย่างเฉียบคม ส่งผลให้ตอนนี้ ซานโช่ กดไปแล้ว 4 ประตู รวมทุกรายการ เรียกว่าฟอร์มกำลังดีวันดีคืนจริงๆ

เชื่อว่าประตูนี้ คงดังไกลไปถึง เซาธ์เกต แน่นอน ต่อให้ ฟีฟ่า เดย์ เดือนกันยายน นี้ จะไม่มีชื่อของ ซานโช่ แต่ถ้าเขายังรักษาฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยม เหมือนสมัยที่เขาฉายแววอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก็มามารอดูกันว่า ฟุตบอลโลก 2022 ณ ประเทศกาตาร์ จะมีชื่อของเขาติดทีมไปด้วยหรือไม่

- ประตูแรกของ โรนัลโด้ ในซีซั่นนี้ มาแล้ว

ตลอดเกือบๆ 20 ปีที่ผ่านมา จะได้เห็น ซีอาร์ 7 ยิงประตูคู่แข่งเป็นว่าเล่น ซีซั่นนึงต้องมีต่ำๆอย่างน้อย 20 ลูก แต่ด้วยความที่ช่วงซัมเมอร์นี้ โรนัลโด้ มีปัญหาเรื่องนอกสนามเยอะเหลือเกิน โดยเฉพาะข่าวคราวเรื่องการย้ายทีม ซึ่งอาจจะทำให้สมาธิของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก็ได้

ในช่วงหลัง เอริค เทน ฮาก เลือกจับ พี่โด้ นั่งสำรองในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เนื่องด้วยฟอร์มการเล่นที่ไม่เหมือนสมัยหนุ่มๆอีกแล้ว อะไรๆที่เราเคยเห็นในตัวเขาเมื่อครั้งอดีต ก็ไม่ค่อยได้เห็นในปัจจบัน จึงไม่แปลกเลยที่เขายังตีนบอดก่อนหน้านี้ แต่เกม ยูโรปา ลีก เป็นเวทีที่เหมาะเจาะเหลือเกิน ที่จะทำให้ โรนัลโด้ ควานหาประตูแรกของตัวเองในซีซั่นนี้ ได้เสียที

สุดท้าย เจ้าของฉายา "เครื่องจักรประตู" ได้นับ 1 ในซีซั่นนี้เรียบร้อยแล้ว หลังเป็นคนรับอาสาสังหารจุดโทษให้กับทีม ยิงขึ้นนำ 2-0 โดยเลือกซัดไปตรงกลางประตู ทำให้ โรนัลโด้ บันทึกสถิติไว้ว่า เขายิงในนามสโมสรไปแล้วทั้งหมด 699 ลูก รวมถึง นี่คือสกอร์แรกของตัวเอง บนเวที ยูโรปา ลีก อย่างเป็นทางการ

- เกมเยือนที่เคยเป็นจุดบอดหายไปแล้ว

พอปรัชญาของ เอริค เทน ฮาก ซึมซับเข้าไปในสายเลือดของนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด อะไรๆก็กำลังดูดีมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเมื่อฟอร์มการเล่นของแต่ละคนมันผลิดอกออกผล ฟอร์มการเล่นก็เปล่งประกายออกมา ถึงแม้เกม ยูโรปา ลีก เกมแรกจะพ่าย โซเซียดาด มาก่อน แต่พวกเขาก็มาแก้ตัวกับ เชอร์ริฟฟ์ ได้สำเร็จ

จากการเอาชนะ เชอร์ริฟฟ์ ทำให้สถิติเกมเยือนของ ปีศาจแดง ในซีซั่นนี้ ดูดีขึ้นผิดหูผิดตา ผิดกับสมัย ราล์ฟ รังนิค ยังกุมบังเหียน เพราะก่อนหน้านี้ไม่ชนะเกมเยือนมา 8 นัดติดต่อกัน ซึ่งก็มีเกมที่เคยแพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-4 และ นั่นคือจุดเปลี่ยนอย่างแท้จริง

เพราะหลังจาก เทน ฮาก ก็พาทีมบุกไปเอาชนะคู่แข่ง 3 นัดติดต่อกัน มีทั้งเฉือน เซาธ์แฮมป์ตัน 0-1 กับ ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 0-1 เช่นกัน ล่าสุดก็ไปตบ เชอร์ริฟฟ์ ได้อีก 2-0 เป็นการเก็บชัยชนะเกมเยือน 3 นัดติดต่อกัน และ ที่สำคัญเป็นการเก็บคลีนชีตได้ทั้งหมด

- เชอร์ริฟฟ์ ไม่ได้เล่นในรังเหย้าตัวเอง แต่สู้เต็มที่

เชื่อว่าแฟนบอลหลายๆคน คงจะเคยได้ยินชื่อสโมสร เชอร์ริฟฟ์ ติราสโพล มาพอสมควร เพราะพวกเขาเคยทำเซอร์ไพรส์บุกไปเอาชนะ เรอัล มาดริด 2-1 มาแล้ว ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อซีซั่นก่อน นับเป็นแมตช์ที่ล็อคถล่มครั้งหนึ่งในวงการฟุตบอลเลยก็ว่าได้ ส่วนการเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ครั้งนี้ ก็นับว่าเป็นกำไรชีวิต ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว

แต่น่าเสียดายที่การแข่งขันในเกมนี้ เชอร์ริฟฟ์ ไม่สามารถใช้สนามรังเหย้าของตัวเองลงแข่งขันได้ เพราะสนาม เชอร์ริฟฟ์ สเตเดี้ยม ซึ่งมีความจุประมาณ 13,000 ที่นั่ง เพราะมีอาณาเขตใกล้กับชายแดนประเทศยูเครน ด้วยความที่ประเด็นสงครามกับ รัสเซีย ยังมีความตึงเครียด ทำให้ ยูฟ่า สั่งให้ทัพ นายอำเภอ หาสังเวียนแห่งใหม่

ก่อนจะมาลงเอยที่สนาม ซิมบรู สเตเดี้ยม แบบที่ทุกคนได้เห็นกันไป ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองหลวงของประเทศมอลโดวา ห่างจากรังเหย้า เชอร์ริฟฟ์ สเตเดี้ยม ประมาณ 1 ชั่วโมง เรื่องแฟนบอลก็เข้ามาให้กำลังใจกันล้นหลาม เพราะครั้งหนึ่งได้เห็นทีมรักปะทะกับแข้ง ปีศาจแดง 

- แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เวลาพักผ่อน

การเก็บชัยชนะในแมตช์นี้ นับเป็นซีรี่ส์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด จริงๆ ก่อนจะพักเบรกทีมชาติ เพราะผลงานตื่นเต้นเร้าใจ นักเตะแต่ละคนกลับมาโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม และ สามารถยิงประตูได้ นักเตะใหม่ที่เข้ามา ก็สามารถปรับตัวให้กลมกลืนเข้ากับทีมได้แล้ว

แต่มันก็น่าเสียดายที่ฟอร์มกำลังดีๆ ต้องมาหยุดชะงักไปดื้อๆ ด้วยเพราะ ประเทศอังกฤษ กำลังเตรียมงานพระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ทำให้เกมศึก "สงครามกุหลาบ" ระหว่าง ปีศาจแดง กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด คู่อริตลอดกาล ต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เพียงพอ

หมายความว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะกลับมาแข่งขันอีกครั้ง ทำศึกดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ ด้วยการบุกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองจ่าฝูงของลีก ซึ่งนัดนี้ล่ะครับ มันจะเป็นการวัดเลยว่า ลูกทีม เอริค เทน ฮาก พร้อมขึ้นมาท้าชิงบัลลังค์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มากขนาดไหน แต่กระนั้นก็ต้องภาวนาลึกๆในใจด้วยว่า อย่าให้นักเตะตัวหลักมีอาการบาดเจ็บในช่วงกลับไปรับใช้ทีมชาติ

ฮาย ฮาวดี้