logo-heading

ในวันที่ วอลเล่ย์บอลไทย ต้องเปลี่ยนถ่ายผลัดใบจากยุค 7 เซียน ประกอบด้วย ปลื้มจิตร ถินขาว, นุศรา ต้อมคำ, อรอุมา สิทธิรักษ์,  อำพร หญ้าผา, มลิกา กันทอง, วิลาวัณย์ อภิญาพงศ์ และ วรรณา บัวแก้ว โดยมี โค้ชอ๊อด เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ทำหน้าที่เป็นเฮดโค้ช ซึ่งสร้างตำนานคว้าแชมป์เอเชีย 2 สมัย และ เป็นแชมป์ เอเชี่ยนส์ เกม ได้ 1 ครั้ง

ฉะนั้นการจะขึ้นมาแทนยุค 7 เซียน ไม่ใช่เรื่องง่าย มันแอบเป็นกังวลว่า นักตบรุ่นใหม่ จะสามารถก้าวขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ได้ดีมากขนาดไหน แน่นอนว่าถ้าผลงานมันผิดแปลกไป คุณจะต้องหนีไม่พ้นกับ คำวิจารณ์ ..

จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ วอลเล่ย์บอลหญิง ชุดปัจจุบัน เติบโตขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ก็คงเป็นเพราะโปรแกรมการแข่งขันเมื่อปี 2014 เพราะ เอเชี่ยนส์ เกม ดันมีโปรแกรมทับซ้อนกับ ชิงแชมป์โลก โดยทางสมาคมตัดสินใจ ส่ง 7 เซียน ไปแข่งขัน มหกรรมกีฬาที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ส่วน ชิงแชมป์โลก กลับเลือกส่งนักกีฬาดาวรุ่งไปแข่งขัน มีเพียง วรรณา บัวแก้ว ไปประคองน้องๆเท่านั้น

ถึงแม้ว่า จะตกรอบกลับมา ด้วยการเก็บชัยชนะแค่ 1 นัด จาก 5 เกมที่ลงแข่งขัน แต่รายการนั้นแหละครับ มันเป็นการสร้างนากฐานปั้นนักกีฬาขึ้นมาติดทีมชาติไทย ยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจเป็น ชัชชุอร โมกศรี, พิมพิชญา ก๊กรัมย์ หรือ หัตถยา บำรุงสุข เป็นต้น

และ ตอนนี้ แฟนบอลวอลเล่ย์บอล ชาวไทย คงหายสงสัย และ คลายความกังวลไปได้แล้วว่า นักตบสาวไทย ยุคปัจจุบัน จะไปได้ไกลมากขนาดไหน เพราะพวกเขากำลังสร้างตำนานในแนวทางของตัวเอง พวกเธอยังคงสานต่อความยิ่งใหญ่ ที่รุ่นพี่เคยทำไว้ และ เผลอๆอาจจะดีขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ ยังทะเยอทะยานไปได้ไกลยิ่งกว่านี้ โดยมี โค้ชด่วน ดนัย ศรีวัชรเมธากุล ทำหน้าที่เป็นเฮดโค้ช ขับเคลื่อนพาทีมสร้างความสำเร็จ

ซึ่งผลงานอันโดดเด่นของ วอลเล่ย์บอลหญิง ชุดปัจจุบัน ได้ทำผลงานสร้างตำนานเอาไว้ดังนี้

- สร้างประวัติศาสตร์ในการแข่งขัน เนชั่นส์ ลีก

เชื่อว่า แฟนๆ วอลเล่ย์บอล ที่อาจไม่ค่อยได้ติดตามการแข่งขันมากนัก จะต้องตกหลุมรักพวกเธอ เข้าอย่างจัง ในการแข่งขัน เนชั่นส์ ลีก 2022 เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา อย่างแน่นอน เพราะ นักตบสาวไทย ได้สร้างตำนานเอาไว้มากมาย โดยเฉพาะความน่ารักของพวกเธอ

เริ่มตั้งแต่ พรพรรณ เกิดปราชญ์ มือเซตเบอร์ 1 ของทีมชาติไทย สร้างเอกลักษณ์ด้วยการติดกิ๊ฟหลากสี จนกลายเป็นที่จดจำไปทั่ว ถึงขนาด พี่จั๊ด ธีมะ อดีตผู้ประกาศข่าวช่อง วัน ต้องแต่งตัวเลียนแบบตอนอ่านข่าวมาแล้ว ส่วนผลงานไม่ต้องพูดถึง กัปตันพู่ ครบเครื่องมาก มีโชว์คลาสเล่นบอลเร็วจังหวะ 2 หลายครั้ง ไหนจะมีรีแอคชั่นออกท่าออกทาง เรียกรอยยิ้มได้ตลอด โดยเฉพาะท่าแอบยิงปืนใส่คู่แข่ง เพื่อแสดงออกว่า ไทย ไม่เกรงกลัวใคร

บุ๋มบิ๋ม ชัชชุอร โมกศรี เธอผู้สร้างตำนานทุกนัดจริงๆ ทั้งรอยยิ้มอันชวนหลงไหล และ ก็มีนิสัยที่ดูน่ารักขี้เล่นเหลือเกิน ทั้งการเปิดตัวด้วยท่าเต้น มีช็อตรีแอคชั่นฮาๆเรียกรอยยิ้มอยู่ตลอด เธอนับเป็นกำลังสำคัญในการทำคะแนนร่วมกับ อัจฉราพร คงยศ

ที่เหลือก็จะมี สิริมา มานะกิจ / ปิยะนุช แป้นน้อย / สุพัตรา ไพโรจน์ / หัตถยา บำรุงสุข / จรัสพร บรรดาศักดิ์ / แก้วกัลยา กมุลทะลา / ฑิชาญา บุญเลิศ / สุทัตตา เชื้อวู้หลิม / ศศิภาพร จันทวิสูตร / พิมพิชยา ก๊กรัมย์ และ ธนัชชา สุขสด ซึ่งน่าเสียดายที่ ทัดดาว นึกแจ้ง ตำแหน่งบอลเร็ว ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่เกมแรกๆ

นอกจาก นักตบสาวไทย จะสร้างเอกลักษณ์อันน่าจดจำแล้ว พวกเธอยังสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการผ่านเข้าไปสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ในการแข่งขัน เนชั่นส์ ลีก 2022 ได้เป็นครั้งแรก หลังจบอันดับ 8 มี 15 คะแนน โดยชนะไป 5 นัด และ แพ้ 7 นัด 

ต่อให้จะต้องจอดป้ายแค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยการแพ้ ตุรกี 1-3 เซตก็ตาม แต่มันคือประวัติศาสตร์ที่พวกเธอได้สร้างขึ้น โดยก่อนเข้ามาสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ พวกเธอ สามารถเอาชนะ บัลแกเรีย, เซอร์เบีย, แคนาดา, เกาหลีใต้ และ ที่ต้องถูกจารึกไว้ก็คือ การเอาชนะทีมชาติจีน ได้อีกครั้ง

- โปรแกรมเติมความมั่นใจ ก่อนไปลุยชิงแชมป์โลก

ในรายการ AVC CUP 2022 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ มีอยู่แมตช์ที่นึง ที่ไทยพบกับ ฟิลิปปินส์ ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย มีช็อตที่ โค้ชด่วน ถึงกับออกอาการหัวเสีย พร้อมตำหนิเหล่าตัวจริงว่า "ถ้าไม่จริงจังก็ออกมา" พร้อมตะโกนให้ตัวสำรองวอร์มให้ดี เนื่องด้วย สาวไทย โชว์ฟอร์มเก่งไม่ออก เสียเซ็ตให้กับคู่แข่ง และ เซต 3 ก็โดนทำแต้มนำไปด้วย ยังดีที่กลับมาได้

ถึงแม้ว่าสุดท้ายรายการนั้น ไทย จะจบได้แค่อันดับ 3 หลังไปแพ้ให้กับ ทีมชาติจีน 2-3 เซต แต่มันก็เป็นการเรียกสติ และ ผลงานที่ดีๆที่เคยทำให้เห็นกลับมาอยู่ในที่ที่ถูกที่ควรอีกครั้ง

นอกจากนี้ ก่อนจะถึงวันลุยศึก ชิงแชมป์โลก ทีมนักตบสาวไทย ก็สามารถคว้าแชมป์ วัน อาเซียน กรังด์ปรีซ์ 2022 มาครองได้สำเร็จตามคาด หลังย้ำแค้นเอาชนะ  เวียดนาม 3 เซตรวด เป็นการเรียกความมั่นใจกลับมา และ ทำให้แฟนๆได้เห็นว่าพวกเธอ พร้อมแล้วที่จะลุยศึกใหญ่ครั้งนี้

- เปิดตัวนัดแรก สะเทือนเวที ชิงแชมป์โลก

ว่ากันตามตรง การแข่งขัน วอลเล่ย์บอล ชิงแชมป์โลก ทีมชาติไทย เป็นเพียงแค่ไม้ประดับเท่านั้น โดยตลอด 5 ครั้งที่ผ่านมา ในปี 1998, 2002, 2010, 2014 และ 2018 จบอันดับดีที่สุด คืออันดับ 13 เท่านั้น อย่างไรก็ตาม การผ่านเข้าไปแข่งขัน ทัวร์นาเมนต์นี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย และ ยังต้องไปพบกับอีก 23 ชาติมหาอำนาจ

แต่กระนั้นแค่นัดแรกของสาวไทย ก็สร้างผลงานกระหึ่ม เวทีชิงแชมป์โลกทันที เพราะพวกเธอ ต้องโคจรมาพบกับคู่ปรับเก่าอย่าง ตุรกี ที่เคยเขี่ยตกรอบ เนชั่นส์ ลีก เมื่อช่วงกลางปี แน่นอนว่า ไทย เป็นรองทุกกระบวนท่า โดยการพบกัน 5 ครั้งก่อนหน้านี้ ไทย แพ้หมดทุกครั้ง และ เป็นการแพ้แบบ ไม่ 0 ต่อ 3 เซต ก็ 1 ต่อ 3 เซต

อย่างไรก็ตาม นักตบสาวไทย ไม่เคยเกรงกลัวต่ออุปสรรคหน้าไหน ไม่ว่าคู่แข่งจะเป็นใคร พวกเธอพร้อมเผชิญหน้าแบบไม่เคยหวั่นเกรง นอกจากฝีมืออันยอดเยี่ยมแล้ว ก็มีรอยยิ้ม และ ความสนุกสนาน ที่เป็นอีกหนึ่งอาวุธพิชิตใจแฟนวอลเล่ย์บอล

ตลอด 5 เซต เต็มไปด้วยความมันส์ ความสนุก และ ความตื่นเต้น จากทีมที่แพ้ทางมาตลอดหลายปี กลายเป็นว่า สาวไทย สร้างผลงานกระหึ่มโลก ด้วยการโค่นล้มเอาชนะ ตุรกี ไปแบบโคตรเดือด 3-2 เซต ชนิดที่แฟนๆต้องลุ้นกันแบบหยุดหายใจทุกคะแนน พูดหยาบๆก็คือลุ้นกันแบบเยี่ยวเหนี่ยว โดยเฉพาะเซ็ต 2 ที่สาวไทย พลิกกลับมาชนะ 31-29 ดังนั้นเผลอๆคำว่า "สุดยอด" ยังเป็นคำชมที่น้อยไปด้วยซ้ำ

ตลอดการแข่งขันที่เจอกับ ตุรกี ชอขื่นชมนักตบสาวไทยทุกคน โดยเฉพาะ ชัชชุอร โมกศรี ดาวตบหัวเสา แสดงพลัง ปืนใหญ่ ตบหาย ตบหาย ทำคะแนนให้กับ ไทย เป็นว่าเล่น ถ้าเธอเข้าฝักเมื่อไหร่ บอกเลยว่าหยุดยากมากๆ ไม่แปลกเลยที่ FIVB เลือกให้  “บุ๋มบิ๋ม” เป็น 1 ในผู้เล่นที่น่าจับตามอง บนเวที ชิงแชมป์โลก 2022

ส่วนอีกคน ที่ต้องบอกว่าเซอร์ไพรส์โคตรๆ ลงมาแล้วทำหน้าที่ได้ดีมาก นั่นก็คือน้องออมสิน ศศิภาพร จันทวิสูตร นี่ถือว่าเป็นตัวโจ๊กเกอร์ เป็นไพ่ตายของทีมชาติไทย จริงๆ ลงมาแล้วทำหน้าที่ตบหัวเสาได้อย่างเฉียบขาด สมกับฉายา "อรอุมา 2" พอถอยไปอยู่แดนหลัง ก็เล่นเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม จับตาดูให้ดีเลยครับ เพราะน้องออมสิน คือตัวตบหัวเสา ดีกรียอดเยี่ยมไทยลีก ปีล่าสุดด้วย

เชื่อว่า การที่ วอลเล่ย์บอลหญิงไทย เอาชนะ ตุรกี ทีมอันดับ 4 ของโลก ได้ขนาดนี้ ชาติอื่นๆคงต้องสเก๊า หรือ ทำการบ้านในการเจอกับเราให้มากกว่านี้ เพราะตัวจริง ตัวสำรอง แสดงศักยภาพกันได้อย่างยอดเยี่ยม มาดูกันว่า นัดต่อไป ไทย เจอกับ โปแลนด์ จะสนุก ตื่นเต้นขนาดไหน และ สามารถสร้างเซอร์ไพรส์ได้อีกหรือไม่ รอชมกันได้เลยในวันที่ 27 กันยายน เวลา 01.30 น.

และ ไม่ว่าผลการแข่งขันจะลงเอยอย่างไร แต่พวกเธอทำให้แฟนๆชาวไทย ภูมืใจเหลือเกิน 

ฮาย ฮาวดี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline