Inside : เมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังอยากไป ยูโร 2024

เรื่องราวของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มีประเด็นให้พูดถึงกันแทบทุกวี่ทุกวันจริง ถ้าไล่ตั้งแต่เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านๆ มาก็คงได้เห็นเรื่องอนาคต พวกข่าวย้ายทีม รวมไปถึงผลงานในสนามที่ไม่ได้เป็นไปตามที่แฟนๆ คาดหวัง

มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะความเป็นซูเปอร์สตาร์และการได้ชื่อว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกของ เจ้าของโค้ดเนม CR7 ทุกการกระทำและทุกสิ่งที่เกิดขึ้นจากเขาจะอยู่ในความสนใจของทุกๆ คนเสมอ รวมไปถึงเรื่องล่าสุดที่เจ้าตัวประกาศลั่นเอาไว้ว่ายังอยากเป็นส่วนหนึ่งของ ทีมชาติโปรตุเกส ในศึก ยูโร 2024 ซึ่งมันจะมีรีแอคชั่นตอบสนองในรูปแบบไหนบ้างไปติดตามได้ใน "ขอบสนาม อินไซด์" เลยครับ

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เพิ่งทำลายสถิติการเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลในระดับนานาชาติของ อาลี ดาอี ตำนานยอดดาวยิงของ อิหร่าน ที่จารึกไว้ที่ 109 ประตูเมื่อช่วงเดือนกันยายนปีที่แล้ว และตอนนี้สถิติของ CR7 ก็ถูกบวกเพิ่มไปเป็น 117 ประตูจากการลงเล่นให้ ทีมชาติโปรตุเกส 190 นัด

แน่นอนว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังคงถูกมองว่าเป็นกำลังสำคัญของทัพ "ฝอยทอง" ในการล่าแชมป์โลก ที่ประเทศกาตาร์ ช่วงปลายปีนี้ เพราะนี่คือผู้เล่นที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของ โปรตุเกส ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกลูกหนังยุคนี้ ยิงประตูให้ทีมได้มากที่สุดที่ 6 ประตูเมื่อ เวิลด์ คัพ 2022 รอบคัดเลือก และเป็นกัปตันผู้นำของชาติ

ในงานประกาศรางวัล คินาส เด อูโร่ ของ สหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกส คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้รับรางวัล ผู้เล่นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ ทีมชาติโปรตุเกส ก่อนที่จะเปิดใจและประกาศจุดยืนว่าพี่ท่านนั้นยังคงต้องการผจญภัยและเป็นส่วนหนึ่งของทัพ "ฝอยทอง" ไปจนถึงศึก ยูโร ปี 2024 ที่ เยอรมัน ซึ่งจะถือเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งที่ 11 ในชีวิตของเขา

ด้วยความมุ่งมั่นและความทะเยอทะยานที่จะไปให้ถึง ยูโร ในอีก 2 ปีข้างหน้าไม่ใช่เรื่องที่แปลกสำหรับ โรนัลโด้ เพราะเขาเคยปฏิญาณตนเอาไว้ว่าอยากจะค้าแข้งในระดับสูงให้ได้เกินกว่าอายุ 40 ปี แต่ในทางกลับมาก็เริ่มมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามว่าสภาพของ โรนัลโด้ ว่าจะยังไหวอยู่รึเปล่าเมื่อถึงตอนนั้น ?

แน่นอนว่าเรื่องสภาพร่างกายยังคงดูฟิต แข็งแรง มันไม่ได้แพ้พวกแข้งวัยรุ่นเลยสักนิด แต่เรื่องศักยภาพคือสิ่งที่เริ่มสังเกตได้ในวัย 37 ย่าง 38 ปี มันค่อนข้างชัดเจนว่า โรนัลโด้ นั้นมีความช้าลง การเคลื่อนที่ไปกับบอล การแต่งหรือสร้างจังหวะต่างๆ ร่างกายมันไม่ได้ตอบสนองไปพร้อมกับจินตนาการในหัวเหมือนสมัยก่อนแล้ว

ส่วนเรื่องฟอร์มการผลิตสกอร์ในปีนี้ก็อยู่ในจุดที่น่าผิดหวังเพราะเพิ่งจะยิงไปแค่ลูกเดียวจาก 8 เกมที่ลงเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แถมยังมาจากลูกจุดโทษด้วย ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะโอกาสส่วนใหญ่ในยุคของ เอริค เทน ฮาก ที่มักให้เขาเป็นตัวสำรอง และเปลี่ยนบทบาทมาเป็นตัวเปลี่ยนเกมและสร้างความแตกต่าง

ล่าสุดกับ ทีมชาติโปรตุเกส ในการลงเล่นศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2 นัดสุดท้ายก็ยังไม่สามารถใส่ชื่อของตัวเองบนสกอร์บอร์ดได้ แถมยังชวดโควต้าไปเล่นรอบรองชนะเลิศในปีหน้าด้วย นั่นทำให้หลายๆ ฝ่ายเริ่มมองว่า เวลาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อาจใกล้หมดลงเต็มที มีการตั้งคำถามมากมายว่า เขาควรเลิกเล่นได้แล้ว รึเปล่า ?

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะอายุครบ 38 ปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า หลังจบศึก ฟุตบอลโลก 2022 ได้ราวๆ 2 เดือน คำถามก็คือในอีก 2 ปีข้างหน้าซึ่งเป็นตอนที่ CR7 จะอายุ 39 ย่าง 40 ปีศักยภาพของเขาจะลดลงไปกว่านี้อีกไหม นี่คือสิ่งที่หลายๆ ฝ่ายกำลังตั้งข้อสงสัย

นี่คือสิ่งที่เปลี่ยนไปที่หลายๆ สโมสรอาจจะมองเห็นในตัว โรนัลโด้ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เพราะอย่างที่ทราบว่าไม่มีทีมไหนต้องการเขาไปอยู่ด้วยเลยสักทีม ดังนั้นสิ่งที่เป็นการบ้านสำหรับ โรนัลโด้ เพื่อพิสูจน์ตัวเองและเป็นการตอกหน้าพวกเสียงวิจารณ์ในอีก 2 ปีข้างหน้านี้ก็คือการเรียกความมั่นใจ และเค้นฟอร์มการเล่นให้กลับมาโหดมาที่ผ่านๆ มาในฐานะเครื่องจักรสังหารอีกครั้ง

ปัจจัยสำคัญเลยก็คือเรื่องสภาพร่างกายก็เป็นสิ่งที่ต้องรักษาให้ดีขึ้นมากกว่าเดิมอีก 2-3 เท่าตัว โดยปกติก็เป็นเจ้าตัวก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการออกกำลังกายอยู่แล้ว เรียกได้ว่าแต่ละวันก็มีโปรแกรมที่ตั้งไว้และต้องทำเอาไว้อยู่แล้ว เช่นเดียวกับเรื่องอาหารการกินก็เป็นคนที่และใส่ใจมากๆ กับสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเช่นกัน

การมีผู้เล่นแบบ CR7 ก็ยังเป็นสิ่งที่ทุกสโมสรหรือทุกๆ ทีมควรมีนั่นก็คือภาวะความเป็นผู้เล่น เป็นคนคอยกระตุ้น คอยปลุกใจ และให้ความปรึกษาที่ดีแก่เพื่อนร่วมทีม โดยในศึก ยูโร 2024 การได้เห็นเขาโลดแล่นอยู่บนทัวร์นาเมนต์ยังเป็นสิ่งที่แฟนๆ อยากเห็น แต่จะให้ดีต้องเห็นเขาในสภาพที่พร้อม และสามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์และปรากฏการณ์ที่น่าจดจำให้กับแฟนๆ ได้ด้วย

HaMu Dos Santos