5 แข้งดาวเด่นจาก "ฟุตบอลโลก" รอบแบ่งกลุ่ม 2 นัดแรก

ซึ่งจากผลงานในช่วง 2 เกมแรกต้องบอกว่ามีหลากหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเป็นที่น่าจดจำสำหรับฟุตบอลโลกที่ประเทศกาตาร์มากพอสมควร 

และหนึ่งในเรื่องที่น่าสนใจคือผลงานของนักเตะที่หลายคนโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นจากการออกสตาร์ท 2 นัดแรก ว่าแล้ว ขอบสนาม จะพาไปยลโฉมเหล่า 5 แข้งที่ผลงานแจ่ม และกำลังถูกพูดถึงอยู่ในตอนนี้ จะมีใครกันบ้างไปติดตามกันได้เลย

เอเนอร์ วาเลนเซีย (เอกวาดอร์)

ประเดิมคนแรกด้วยนักเตะที่เบิกตุงแรกในศึกฟุตบอลครั้งนี้ ซึ่งจากเกมออกสตาร์ทนับมาจนถึงนัดที่ 2 ต้องบอกว่าผลงานของ วาเลนเซีย เซอร์ไพรส์พอสมควรภายหลังซัดไปแล้ว 3 ประตู ขึ้นนำเป็นดาวซัลโวร่วมอยู่ ณ ตอนนี้

หัวหอกวัย 33 ปี คือดาวซัลโวสูงสุตลอดกาลของ เอกวาดอร์ ในตอนนี้ที่จำนวน 38 ประตู ซึ่งเขาคือคนสำคัญที่ทำให้สถานการณ์ของชาติบ้านเกิดกำลังสวยงามในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ และมีโอกาสไม่น้อยในการกรุยทางผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ภายหลังกวาดไปแล้ว 4 คะแนน จาก 2 เกม

นอกจากนั้นสถิติที่น่าสนใจคือประตูของ เอกวาดอร์ ในศึกฟุตบอลโลก 6 ประตูล่าสุดเกิดจากหัวหอกรายนี้ทั้งหมด แบ่งเป็นเมื่อปี 2014 ที่ วาเลนเซีย ซัดไป 3 ตุง และในทัวร์นาเมน์ครั้งนี้อีก 3 ประตู

กลายเป็นว่าเขาคือหนึ่งในดาวเด่นของศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ ทั้งเรื่องของการทำประตู และพาทีมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จากนี้คอยติดตามกันว่า วาเลนเซีย กับ เอกวาดอร์ จะไปได้ไกลขนาดไหนกับฟุตบอลโลก 2022

คีเลียน เอ็มบัปเป้ (ฝรั่งเศส)

ดาวเด่นจากทัพ "ตราไก่" ยังคงโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม สมกับการเป็นตัวเต็งลำดับต้นๆ ที่จะซิวรางวัลดาวซัลโว และนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนท์ในครั้งนี้

เอ็มบัปเป้ ออกสตาร์ทฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ด้วยการซัดประตูใส่ ออสเตรเลีย ก่อนเหมาคนเดียว 2 ตุงในเกมล่าสุดกับ เดนมาร์ก ขึ้นนำเป็นดาวซัลโวร่วมกับ เอเนอร์ วาเลนเซีย ที่จำนวน 3 ประตู

ย้อนกลับไปเมื่อศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ฝรั่งเศสคว้าแชมป์โลกมาครอง เอ็มบัปเป้ จัดการซัดไป 4 ประตูตลอดการแข่งขัน ส่วนในอีก 4 ปีต่อมาผ่านไปเพียง 2 เกม เจ้าตัวกำลังทำลายสถิติของตัวเองต่อ 1 ทัวร์นาเมนท์ ด้วยเวลาเพียงไม่นาน

ซึ่งด้วยความร้อนแรงทั้งในเรื่องผลงานส่วนตัว และฟอร์มของทัพ "ตราไก่" น่าสนใจเหลือเกินว่าพวกเขาจะสามารถก้าวขึ้นไปป้องกันแชมป์โลกได้หรือไม่ ถ้าทำได้จะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1962 ที่แชมป์เก่าป้องกันแชมป์เอาไว้ได้

โคดี้ กักโป (เนเธอร์แลนด์)

ศึกฟุตบอลโลกครั้งแรกในฐานะนักเตะอาชีพของเด็กหนุ่มวัย 23 ปี ซึ่งเจ้าตัวสามารถรังสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่มีอาการลนลาน หรือตื่นตระหนกออกมาให้ได้เห็นเลย

เปิดประเดิมสนามเกมแรกก็พุ่งโขกอย่างสวยงามพาทัพ "อัสวินสีส้ม" เอาชนะ เซเนกัล ไปได้ เช่นเดียวกับนัดล่าสุดที่เสมอกับ เอกวาดอร์ ที่แสดงความเฉียบขาดออกมาให้เห็นด้วยการซัดจากนอกกรอบเขตโทษส่งบอลพุ่งกระทบตาข่ายอย่างสวยงาม

สรุปแล้ว 2 นัดผ่านไป กักโป กระหน่ำไป 2 ตุง พร้อมผลงานส่วนตัวที่น่าพอใจ อีกทั้งยังพา เนเธอร์แลนด์  อยู่ในเส้นทางการผ่านเข้ารอบต่อไปในการลุ้นนัดสุดท้าบในเกมดวล กาตาร์ เจ้าภาพ

ซึ่งก่อนทัวร์นาเมนท์จะเริ่ม กักโป เองก็ได้รับความสนใจในระดับหนึ่งจากฟอร์มกับ พีเอสวี ทว่าพอได้มาพิสูจน์ตัวเองในเวทีระดับโลกแล้วเชื่อเหลือเกินว่าเนื้อตัวของเขาคงหอมฉุย หลายสโมสรใหญ่จับตามองหวังสอยไปร่วมทีมอย่างแน่นอน

โช กยู-ซอง (เกาหลีใต้)

หัวหอกทีมชาติเกาหลีใต้ที่ยึคครองพื้นที่สื่อบ้านเราได้แทบจะทุกสำนักจากผลงานในสนามเกมล่าสุดที่เหมาคนเดียว 2 ประตู รวมไปถึงหน้าตาอันหล่อเหลาที่ชวนหลงใหล

โช กยู-ซอง ในวัย 24 ปี ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ ชุนบุค ฮุนได ในศึกเคลีก เกาหลีใต้ ซึ่งเจ้าตัวเพิ่งมีโอกาสลงสนามรับใช้ชาติบ้านเกิดนัดแรกเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2021 ที่ผ่านมานี่เอง ก่อนจะได้สิทธิ์เป็น 1 ใน 26 คน ลุยศึกครั้งใหญ่อย่างฟุตบอลโลก

ผลงานกับต้นสังกัดซีซั่นล่าสุดเจ้าตัวลงเล่นเกมลีกไป 26 นัด กระหน่ำไป 14 ประตู กับ 5 แอสซิสต์ ฉะนั้นคงไม่แปลกที่จะมีชื่อติดทีมมาด้วย และก็เป็นเขาที่เปิดซิงตุงแรกของทัพ "โสมขาว" ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ภายหลังเหมาคนเดียว 2 ประตู ในเกมที่พ่าย กาน่า 2-3 

นอกจากนั้นเรื่องราวนอกสนามของเขาจากหน้าตาที่หล่อแบบสุดขั้วทำให้ยอดติดตามในอินสตราแกรมของเจ้าตัวล่าสุดขยับขึ้นไปถึง 1.3 ล้านเลยทีเดียว ทั้งที่ก่อนลงดวลกับ กาน่า มีผู้ติดตามอยู่ราวๆ 8.5 แสนคน เท่านั้น

ซึ่งนอกจากความหล่อแล้วผลงานของเขาก็ถือว่าเข้าตาเลยทีเดียว กลายเป็นดาวเด่นที่ควบตำแหน่งทั้งฟอร์มแจ่ม และครองใจแฟนบอลได้แบบอยู่หมัด

บรูโน่ แฟร์นานเดส (โปรตุเกส)

แนวรุกจากทีมชาติโปรตุเกสในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ พร้อมทำผลงานได้อย่างเฉิดฉาย จากการลงสนามตัวจริง 2 เกม ทำไปแล้ว 2 ประตู กับ 2 แอสซิสต์

ซึ่งก่อนเริ่มทัวร์นาเมนท์ชื่อของ บรูโน่ อาจไม่ได้รับการะพูดถึงมากเท่าไหร่นัก เพราะถ้านึกถึงทัพ "ฝอยทอง" ยังไงก็ต้องเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อีกทั้งมีประเด็นดราม่มากมายแบบนี้ ทำให้แสงสปอร์ตไลท์อาจส่องเข้าไปไม่ถึงตัวของดาวเตะจาก แมนฯ ยูไนเต็ด รายนี้เท่าไหร่นัก

ทว่าพอถึงเวลาลงสนามเขากลายเป็นหัวใจของเกมรุกอย่างแท้จริง มีส่วนร่วมกับประตูของทีมมากถึง 4 จาก 5 ประตูเลยทีเดียว ที่ทำได้จาก 2 เกมแรก กลายเป็นดาวเตะคนสำคัญที่ไม่อาจขาดได้อีกแล้ว

การที่ โปรตุเกส ตีตั๋วผ่านเข้ารอบไปแล้วทำให้ บรูโน่ มีโอกาสลบฝันร้ายของตัวเองจากเมื่อ 4 ปีก่อนที่เขาไม่ได้ลงเล่นในรอบน็อคเอาท์ศึกเวิลด์ คัพ เนื่องจากเป็นเพียงแค่ตัวสำรองเกมพ่าย อุรุกวัย ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

ซึ่งกับครั้งนี้ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไรผิดพลาด หรือเจ้าตัวได้บาดเจ็บดาวเตะรายนี้คงได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับตัวเองในศึกฟุตบอลโลกต่อไป

- Paolinho -