ซึ่งเรื่องราวที่มันไม่น่าจะถูกนำมาเป็นประเด็นนี้มันเกิดขึ้นจากสื่อหลายๆ แขนงหยิบยกมาว่าส่วนสำคัญที่ทำให้พลพรรคทัพ "ตราไก่" ประสบความสำเร็จในช่วงหลังส่วนมาจากเหล่านักเตะต่างเชื้อชาติที่มารวมอยู่ด้วยกัน
ประเด็นนี้คงต้องย้อนกลับไปไกลหน่อยในอดีตฝรั่งเศสในยุคล่าอาณานิคม พวกเขาจัดการเข้ายึด 3 ประเทศในทวีปแอฟริกาประกอบไปด้วย ตูนีเซีย, แอลจีเรีย และ โมร็อกโก จากนั้นก็ค่อยๆ แพร่ขยายไปอีกในหลายๆ ประเทศในแถบนั้น ยกตัวอย่างเช่น เซเกัล, ไอวอรี่โคสต์ หรือ แคเมอรูน
วันเวลาไปผ่านเมื่อประเทศต่างๆ ได้ทำการประกาศเอกราช แต่ทว่าส่วนใหญ่ภาษาราชการยังคงเป็นฝรั่งเศส ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจนัก อีกทั้งในอดีตก็มีหลากหลายครอบครัวได้โยกย้ายไปหาที่ตั้งรากฐานใหม่ ซึ่งฝรั่งเศสที่มีความพร้อมในทุกด้านจึงเป็นดินแดนที่คู่ควรในการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ในหลายเส้นทาง
คนแอฟริกาจำนวนไม่น้อยยอมโยกย้ายถิ่นฐานมาปักหลักอยู่ที่ฝรั่งเศส สร้างที่อยู่อาศัย ครอบครัวมีการเติบโตแพร่ขยายไปมากขึ้นกว่าเดิมตามวันเวลาที่ผ่านไป ฉะนั้นไม่แปลกที่คนรุ่นใหม่ หรือยุคใหม่ๆ จะเกิดที่ฝรั่งเศส จะมีเชื้อสายของประเทศต่างๆ ที่เคยเป็นอาณานิคมต่อกัน
วกกลับมาในวงการฟุตบอลประเด็นนี้เคยถูกหยิบยกกันมาพูดถึงกันพอสมควร และนักเตะหลากหลายคนก็มีการรับใช้ชาติที่ไม่ได้เป็นต้นกำเนิดของบรรพบุรุษ
ซึ่งประเด็นนี้แท้จริงมันเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงกันมาตลอดในวงการลูกหนัง และนักเตะหลายคนถูกโจมตีเกี่ยวกับเชื้อชาติมาตลอด ที่เห็นเด่นชัดคงจะเป็น เมซุต โอซิล ที่เชื้อสายของเขาเป็น ตุรกี ทว่าเติบโตมากับการลงเล่นฟุตบอลเยอรมัน และบางครั้งก็โดนหยิบยกขึ้นมาเป็นข้อวิพากษ์บ่อยครั้ง
วลีที่เขาเคยลั่นไว้ว่า “ผมเป็นคนเยอรมันเมื่อชนะ แต่พอแพ้ก็เป็นผู้อพยพ” เป็นประโยคสั้นๆ ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนได้มากเลยทีเดียว
หรือจะเป็น เซอร์ดาน ชากิรี่ ที่มีเชื่อสายแอลเบเนีย แต่ลงเล่นให้กับ สวิตเซอร์แลนด์ พร้อมเคยทำท่าดีใจสื่อสัญลักษณ์มือไขว้กันเป็นนกอินทรีซึ่งอยู่บนธงแอลเบเนีย จนกลายเป็นประเด็นใหญ่ก่อนหน้านี้
ส่วนอีกเคสที่น่าสนใจคือตำนานนักเตะทัพ "ตราไก่" อย่าง ซีเนดีน ซีดาน ที่ครอบครัวเป็นคนแอลจีเรียแบบ 100% ก่อนอพยพมาตั้งรกรากที่ฝรั่งเศส และให้กำเนิด ซีดาน ที่เมืองมาร์กเซย ซึ่งด้วยการใช้ชีวิตตั้งแต่เกิดไม่แปลกที่มิดฟิลด์รายนี้จะผูกพัน และย่อมปันใจให้กับฝรั่งเศสแบบสุดขั้ว จนกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของประเทศ
จะเห็นได้ว่าเรื่องเชื้อชาติ กับนักฟุตบอลเกี่ยวโยงกันมาตลอด แต่ทว่าด้วยความที่เป็น ฝรั่งเศส ทำให้ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษ ทั้งที่ทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกครั้งนี้ทีมอย่าง โมร็อกโก ก็มีนักเตะหลากหลายสัญชาติมากอยู่เหมือนกัน
ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีก่อน ในห้วงเวลาที่ฝรั่งเศสเถลิงบัลลังก์คว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ ก็ไม่อาจหลีกหนีคำสบประมาทได้ว่าส่วนใหญ่นักเตะล้วนมาจากหลายเชื้อชาติกำเนิด หาใช่คนฝรั่งเศสแบบแท้ๆ
ในชุดดังกล่าวมีนักเตะแท้ๆ จากชาติกำเนิดฝรั่งเศสเพียง 2 คนเท่านั้นคือ เบนฌาแมง ปาวาร์ กับ ฟลอริยอง โตแว็ง ส่วนคนอื่นๆ ต่างมีเชื้อชาติที่แตกต่างกันออกไป แต่ทว่าก็มีความเป็นฝรั่งเศสแบบเต็มขั้น ไม่ว่าจะเป็น ซามูเอล อุมติตี้ ที่มีเชื้อสาย แคเมอรูน, ปอล ป็อกบา เชื้อสายกินี หรือ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ตำแหน่งดาวรุ่งยอดเยี่ยมก็เชื้อสาย แคเมอรูน กับ แอลจีเรีย
ซึ่งก็คือนักเตะชุดนี้แหละที่โดนวิจารณ์ว่าไม่มีความเป็นฝรั่งเศสแท้ๆ แต่สามารถรวมใจ ก่อนโชว์ความมหัศจรรย์ออกมาจนกระทั่งคว้าความสำเร็จเป็นรูปธรรมกลับมาให้แฟนบอลได้เฉยชม ซึ่งทั้งตัวนักเตะ และคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศก็ต่างซูฮกถึงความยอดเยี่ยมในครั้งนั้น
จนกระทั่งมาถึงฟุตบอลโลกขบวนล่าสุดเรื่องของเชื้อชาติก็ถูกหยิบจับมาพูดถึงกันอีกครั้งว่านักเตะชุดนี้มีคนฝรั่งเศสแท้ๆ แบบรากเหง้าเพียง 3 คนเท่านั้น คือ อาเดรียง ราบิโอต์, จอร์แดน แวร์ตูร์ และ เบนฌาแมง ปาวาร์
ส่วนคนอื่นๆ ก็แตกต่างกันในเรื่องเชื้อชาติอย่างที่กล่าวไป แต่ทุกคนก็ล้วนเติบโตมาจากประเทศฝรั่งเศส ลงเล่นตั้งแต่เยาวชนของสโมสรในแดนน้ำหอม ไม่ว่าจะเป็น คีเลียน เอ็มบัปเป้, ราฟาเอล วาราน, อุสมาน เดมเบเล่, ออเรเลียง ชูอาเมนนี หรือ โอลิวิเยร์ ชิรูด์
เจาะลึกลงไปกับดาวรุ่งที่กำลังก้าวขึ้นมาอย่าง คีเลียน เอ็มบัปเป้ เจ้าตัวมีเชื้อสายแคเมอรูนจากคุณพ่อ และ แอลจีเรีย จากคุณแม่ แต่การถือกำเนิดของเขาที่กรุงปารีส และเติบโตจากสภาพแวดล้อมทั้งหมดในประเทศแห่งนี้ มันก็มากพอที่จะช่วยหล่อหลอมให้เขากลายเป็นคนฝรั่งเศสอย่างสมบูรณ์แบบ
และกับที่ผ่านมาไม่มีใครสงสัยในฝีเท้าของเด็กคนนี้เลย แม้แต่ตัวของเชื้อชาติของเขา เพราะสุดท้ายผลงานทุกอย่างที่เขารังสรรค์ออกมา มันเป็นการยกหน้าถือตาเขาในฐานะนักเตะชาวฝรั่งเศสที่เป็นอนาคตของวงการลูกหนัง
ฉะนั้นแล้วมันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฝรั่งเศสจะมีนักเตะจากหลากหลายเชื้อชาติตามเหตุผลข้างต้นที่ได้อธิบายไป
ซึ่งไม่ว่านักเตะกลุ่มนี้จะผิวสี หรือผิวขาว ทุกคนล้วนต้องการลงสนามเพื่อพิสูจน์ตัวเอง และคว้าความสำเร็จมาให้ได้ เพราะมันไม่เพียงแค่เกียรติยศส่วนตัว แต่มันหมายถึงความสุขของคนทั้งประเทศที่ตามเชียร์อยู่
จากแตกต่างเชื้อชาติ ศาสนา และความเป็นอยู่ สู่การถูกหล่อหลอมให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน ทุกคนต่างล้วนภูมิใจที่ได้สวมเสื้อทีมชาติฝรั่งเศสลงสนามเพื่อไขว่คว้าความสำเร็จมาครอง
ทุกคนก้าวผ่านความแตกต่าง ก้าวข้ามแหล่งที่มาของตัว ฉะนั้นไม่แปลกหรอกว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะใส่สุดพลัง เพื่อให้ได้ความสำเร็จมาเชยชม และดมกลิ่นหอมของชัยชนะที่หอมหวาน
ส่วนเรื่องคำวิจารณ์ต่างๆ มันเล็กน้อยเกินกว่าที่จะไปใส่ใจ เพราะสุดท้ายความสำเร็จคือเครื่องมือชั้นยอดในการตอบกลับทุกคำถามที่ถูกสร้างขึ้น
- Paolinho -
