ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์แฟนบอลพอจะเดาทิศทางออกแล้วว่านี่คงเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายในอาชีพนักฟุตบอลของชายผู้นี้ และเป็นโอกาสสุดท้ายในการไล่ล่าความสำเร็จชิ้นสำคัญที่เขาเองถวิลหามาตลอด และยังไม่เคยแม้เข้าไปเฉียดใกล้ได้เลย
ไม่แปลกที่พอทุกอย่างมันต้องจบลงเพียงเท่านี้ น้ำตาของความเสียใจ ภาษากายที่แสดงออกมามันจะชัดเจนเหมือนความฝัน ความหวัง ทุกอย่างมันล่มสลายหายไปแล้ว
ทุกความสำเร็จที่เขาเคยคว้ามาไม่ว่าจะไปค้าแข้งอยู่ที่ไหน โทรฟี่แชมป์คือสิ่งที่อยู่คู่กับเขามาตลอด คว้ามาแล้วทุกแชมป์ที่มีโอกาสลงสนาม ไม่เว้นกับทีมชาติโปรตุเกสทั้งความสำเร็จอย่างแชมป์ยูโร หรือ เนชั่นส์ ลีก แต่ทว่ากับโทรฟี่ทองคำใบนั้นน่าจะเป็นเพียงเส้นขนานที่ไม่อาจมาบรรจบกันได้เลย
ย้อนกลับไป โรนัลโด้ กับศึกฟุตบอลครั้งแรกของเขาเริ่มต้นขึ้นด้วยวัย 21 ปี ซึ่งนั้นกลายเป็นฟุตบอลโลกที่เขาไปได้ไกลที่สุดในเส้นทางรายการนี้คือการคว้าอันดับ 4 มาครอง
ซึ่งหลังจากนั้นทัพ "ฝอยทอง" ไม่เคยไปได้ไกลกว่ารอบ 8 ทีมสุดท้ายอีกเลย นับเฉพาะช่วงที่ โรนัลโด้ อยู่ในทีม …
ปี 2010 ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายแพ้ สเปน 1-0, ปี 2014 เลี้ยวโค้งตกรอบแรกแบบเซอร์ไพรส์ด้วยการจบอันดับ 3 ของกลุ่ม ถัดมา 2018 จอดป้ายที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนที่ขบวนล่าสุดจะหยุดเส้นทางไว้ที่รอบ 8 ทีมสุดท้ายอีกครั้ง
แน่นอนว่าพวกเรื่องสถิติต่างๆ ที่เขาคว้ามาครองได้ทั้งเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงประตูในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 5 ครั้งติดต่อกัน หรือตัวเลขอื่นๆ มันย่อมไม่สำคัญเท่ากับโทรฟี่แชมป์ที่ โรนัลโด้ ปรารถนาอยากคว้ามาประดับบารมีมากที่สุด ก่อนที่จะหันหลังให้กับการค้าแข้ง ซึ่งมันคงเกิดขึ้นในไม่ช้านี้
22 นัด ในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย "พี่โด้" กระทุ้งไป 8 ประตู พร้อมความผิดหวังที่มากมายมหาศาล และไม่แปลกที่ครั้งนี้ความคาดหวังจะสูงกว่าครั้งไหนๆ เพราะด้วยทรัพยากรนักเตะ หรือคุณภาพมันครบถ้วนในทุกด้าน
แต่ก็อย่างว่านี่คือฟุตบอล เกมการแข่งขันที่ไม่มีอะไร 100% ต่อให้คุณจะได้รับการยกย่องว่าเก่งที่สุดในโลกลูกหนังก็ตาม
โดยน้ำตาของ โรนัลโด้ มันพอที่จะบ่งบอกอะไรบางอย่างได้เช่นกัน ด้วยวัยที่แตะหลัก 37 ย่าง 38 นี่คงจะเป็นฟุตบอลโลกขบวนสุดท้ายของเขาแล้ว เพราะถ้าจะให้มองไกลไปถึงอีก 4 ปีข้างหน้า ทั้งเรื่องของอายุ สภาพร่างกาย และเด็กรุ่นใหม่ๆ ที่ก้าวขึ้น ยังไงเสียความสดใหม่ ก็ย่อมมากกว่าตัวเขาหลายเท่าตัว
ถ้าจะให้พอมองแบบใกล้ๆ บางทีศึกยูโร 2024 อาจเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับชาติครั้งสุดท้ายของเจ้าตัวที่พอจะเอื้อมมือคว้าไปถึง
ว่ากันตามร่างกายอีก 2 ปี ของ โรนัลโด้ น่าจะยังพอต่อกรกับฟุตบอลในระดับสูงได้อยู่บ้าง แม้จะโรยราตามวันเวลา อาจไม่ใช่ตัวหลัก ตัวเลือกแรกๆ ของทีม แต่อย่างน้อยก็คืออะไหล่ชั้นดีในการคอยเติมเต็มรุ่นน้องยามที่ทีมต้องการความเก๋า หรือประสบการณ์ในมุมต่างๆ
ซึ่งการเดินทางไปถึงจุดนั้นคงเป็นการอำลาครั้งสุดท้ายอย่างแท้จริง แน่นอนการคว้าแชมป์มาครองให้ได้อีกครั้งคงเป็นฉากปิดที่สวยงามที่สุดสำหรับเขาเช่นกัน
ส่วนอนาคตหลังจากนี้ทั้งเรื่องของสโมสรที่ตอนนี้ยังไม่อาจทราบได้ว่าจะไปลงเอยกับสโมสรไหน อยู่ลุยในยุโรปต่อไป หรือข้ามฟากมาหาประสบการณ์กับ อัล นาสเซอร์ ตามข่าวที่ออกมา ทุกอย่างที่เขาเลือกเดินย่อมตกอยู่ในแสงสปอร์ตไลท์ของสื่อ และแฟนบอลอยู่แล้ว
บทสรุปสุดท้ายของ โรนัลโด้ กับ ฟุตบอลโลก อาจไม่ค่อยแฮปปี้เอนดิ้งเท่าไหร่นัก กลายเป็นช็อตที่ช็อตฟีลแฟนบอลจำนวนไม่น้อย
ไม่ว่าคุณที่เป็นเบอร์ 1 หรือ 2 แม้กระทั่งส่วนไหนของการแข่งขัน ย่อมเจ็บปวดกับความพ่ายแพ้ตรงหน้ากันทั้งนั้น
ยิ่งเป็นขบวนสุดท้ายของความหวัง ความเจ็บปวดก็เหมือนทวีความรุนแรงมากขึ้นไปกว่าเดิม
กล่าวมาถึงตรงนี้ถ้าสามารถตัดอคติทุกอย่างออกไปได้ จะรับรู้ถึงความรู้สึกของเขาได้เป็นอย่างดี
แม้ไม่อาจอยู่ท่ามกลางความสำเร็จในครั้งนี้ แต่สิ่งที่เขาทำมาตลอดได้รับการยกย่องว่าเป็นที่สุดในหลายๆ ด้าน จนบางครั้งมันยากเหลือเกินที่จะหาใครสักคนมาทดแทนได้
สีสันที่ โรนัลโด้ ได้สร้างไว้กับฟุตบอลโลก 8 ประตูที่เคยจารึกไว้ หรือสถิติยิงประตูต่อเนื่องมา 5 ทัวร์นาเมนต์ จะถูกจดจำไว้ในความทรงจำเป็นอย่างดี
น้ำตาของความเสียใจ ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ววงการ
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ ฟุตบอลโลก ยังคงเป็นเรื่องราวที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงกันไปอีกนาน
ตำนานที่ไร้บัลลังก์... แต่สิ่งที่เขาทำมันมีคุณค่ามากพอให้ได้จดจำ
- Paolinho -
