Top 10 : "ข่าวเด่นโลกฟุตบอล" ประจำปี 2022

ปี 2022 กำลังจะผ่านพ้นไปเพื่อรอต้อนรับการมาของปี 2023 ถ้าจะพูดถึงเรื่องราวเด่นๆ ที่เป็นประเด็นใหญ่ๆ ในโลกของฟุตบอลตลอดช่วงปีที่ผ่านมาก็ต้องบอกเลยว่ามีเยอะแยะมากมายจริงๆ 

แต่จะมีเรื่องอะไรบ้างที่ได้รับความนิยมฮอตฮิตติด ท็อป เทน 10 อันดับ วันนี้ทางเรา "ขอบสนาม" จะพาทุกท่านไปย้อนดูพร้อมๆ กันเลยครับ

กรีนวู้ด ติดคุก

ถึงจะเป็นข่าวในแง่ลบแต่ก็ถือเป็นหนึ่งในเรื่องเด่นประจำปี 2022 นี้เลยสำหรับเรื่องราวของ เมสัน กรีนวู้ด กับคดีทำร้ายร่างกายแฟนสาว แฮร์เรียต ร็อบสัน โดยที่เธอนั้นเป็นคนที่ออกมาแฉเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยตัวเองว่าโดนทำร้ายร่างกายและโดนบังคับขืนใจให้ร่วมหลับนอนด้วยทั้งที่ไม่ได้เต็มใจจนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต

สิ่งที่ตามมานอกจากเสียงวิจารณ์สนั่นทั่วทั้งโลกแล้วนั่นยังทำให้สโมสรต้นสังกัดอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สั่งแบนไม่ได้ เมสัน กรีนวู้ด มีส่วนร่วมกับทีมอีกต่อไปจนกระทั่งโดนดำเนินคดีทางกฏหมาย มิหนำซ้ำยังโดนข้อหาเพิ่มอีกในเคสขู่ทำร้ายร่างกายอีกด้วย

จนถึงตอนนี้เรื่องราวของ เมสัน กรีนวู้ด ก็ยังไม่จบและก็แทบจะไม่มีโอกาสรอดพ้นจากคดีนี้ได้เลยเพราะคดีทำร้ายร่างกายผู้หญิงและข่มขืนถือเป็นเรื่องใหญ่ระดับโลก ถึงรอดมาได้ก็แทบจะไม่มีอนาคตหลงเหลืออยู่แล้วในวงการฟุตบอลเพราะนี่คือสิ่งที่ไม่มีใครรับได้ซึ่งนับเป็นว่าเรื่องที่น่าเสียดายมากๆ เพราะตัวของ กรีนวู้ด เองก็กำลังโชว์ฟอร์มได้ดีแท้ๆ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

อีริคเซ่น คืนสนาม

ย้อนเวลากลับไปในศึก ยูโร 2020 หนึ่งในเหตุการณ์ที่ทุกคนจำได้ดีก็คือ คริสเตียน อีริคเซ่น ซึ่งเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นแบบเฉียบพลันในเกมที่ เดนมาร์ก เจอกับ ฟินแลนด์ จนสร้างความวิตกกังวลให้แก่ผู้คนทั้งโลก ถึงแม้จะยื้อชีวิตเอาไว้ได้แต่ความเป็นไปได้ที่จะกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้งมันมีอยู่น้อยมากจริงๆ

อีริคเซ่น ต้องยกเลิกสัญญากับ อินเตอร์ มิลาน ด้วยความจำเป็นเพราะเหตุผลทางการแพทย์และกฏระเบียบของที่ อิตาลี แต่ด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้กับความฝันในการค้าแข้งต่อไปในโลกของฟุตบอลนั่นทำให้ตัวของ อีริคเซ่น ค่อยๆ ซ้อมเพื่อเรียกสภาพความฟิตและกลับมาโลดแล่นบนสังเวียนอีกครั้ง

เขาได้กลับมาคืนสนามอย่างเป็นทางการแบบจริงๆ จังๆ อีกครั้งกับสโมสร เบรนท์ฟอร์ด ในระยะสั้น และก็ทำผลงานได้ดี เล่นได้โดดเด่น และมีส่วนกับชัยชนะที่มากมาย จนตอนนี้เขาคือหนึ่งในกำลังสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แถมยังได้กลับมาช่วย ทีมชาติเดนมาร์ก และได้ลุย ฟุตบอลโลก 2022 ด้วย

อาการหรือภาวะที่ อีริคเซ่น ต้องเจอนั้นเคยทำให้นักฟุตบอลหลายคนต้องเสียชีวิตลง หรือไม่ก็ต้องล้มเลิกความฝันและตัดสินใจแขวนสตั๊ดไปเลยก็มี แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเขาถือเป็นปาฏิหาริย์และแน่นอนว่ามันก็ถือเป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้กับทุกๆ คนอีกด้วย

เสี่ยหมี ลาออกจาก เชลซี

อีกหนึ่งข่าวช็อคของโลกฟุตบอลแห่งปี 2022 เกิดขึ้นที่สโมสร "สิงโตน้ำเงินคราม" เมื่อ โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ได้ประกาศขอยุติบทบาทเจ้าของทีม เชลซี และต้องขายทีม ท่ามกลางความเกี่ยวพันระหว่างตัวเขากับ วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำของ รัสเซีย ที่สั่งกองทัพบุกโจมตีกับประเทศยูเครน

ก่อนที่ต่อมาจะเป็น ท็อดด์ โบห์ลี ประธานและซีอีโอของ Eldridge และ Clearlake Capital Group, L.P ได้เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร เชลซี อย่างเป็นทางการ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ของทีมดูดีขึ้นเท่าไหร่ เพราะบุคลากรเก่งๆ ที่มีความสามารถมีอันต้องไปจากทีมไม่ว่าจะเป็น ปีเตอร์เช็ก, มาริน่า กรานอฟสกาย่า รวมไปถึง โธมัส ทูเคิ่ล

สำหรับตัวของ "เสี่ยหมี" โรมัน อบราโมวิช นั้นได้เข้ามาเทคโอเวร์สโมสร เชลซี เมื่อช่วงปี 2003 และก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยยกระดับให้ทีมกลายเป็นหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุดของยุโรป รวยที่สุดเป็นเบอร์ต้นๆ ของวงการ และกอบโกยความสำเร็จมาแล้วทุกถ้วยไม่ว่าจะเป็น พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ, คอมมูนิตี้ ชิลด์, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ยูโรปา ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ รวมไปถึงสโมสรโลก เบ็ดเสร็จรวมๆ แล้วก็ 18 โทรฟี่ด้วยกัน

เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ยูซีแอล สมัยที่ 14

เรอัล มาดริด คือสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดบนหน้าประวัติศาสตร์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ 13 สมัยจากการเข้าชิงทั้งหมด 16 ครั้ง แน่นอนว่าในทุกๆ ปีพวกเขาคือทีมที่มองว่าเป็นตัวเต็งที่สุด และในฤดูกาล 2021-22 พวกเขาก็ตีตั๋วมาถึงรอบชิงชนะเลิศได้ตามเป้าโดยพบกับ ลิเวอร์พูล อีกครั้งซึ่งถือเป็นการรีแมตช์นัดชิงเมื่อ 4 ปีก่อน

ประตูชัยในนาที 59 ส่งผลให้ เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 1-0 และได้ครองแชมป์สมัยที่ 14 สมใจพร้อมกับสร้างสถิติที่ยอดเยี่ยมมากมาย ทาง คาริม เบนเซม่า คว้าตำแหน่งดาวซัลโวของที่ 15 ประตู รวมไปถึงตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ เช่นเดียวกับ วินิซิอุส ก็ได้รางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม และทั้งสองก็มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีร่วมกับ ลูก้า โมดริช และ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ด้วย

อิตาลี อดไป ฟุตบอลโลก

ทีมชาติอิตาลี ประกาศศักดาเอาไว้ในศึก ยูโร 2020 ด้วยการเป็นผู้เถลิงบัลลังก์แชมป์สมัยที่ 2 บนหน้าประวัติศาสตร์ โดยฝีไม้ลายมือของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ที่ยกระดับและยลโฉมทัพ "อัซซูรี่" ขึ้นมาใหม่ ไม่ได้มีจุดเด่นแค่เกมรับอย่างเดียว แต่ยังมีทีเด็ดในเรื่องเกมตรงกลาง เพรสซิ่ง ไล่บอลที่ดุดัน ตลอดจนศักยภาพเกมรุกที่จัดจ้านและยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ

แน่นอนว่าเป้าหมายของ อิตาลี คือการได้เถลิงบัลลังก์แชมป์โลกปี 2022 ที่ กาตาร์ พวกเขาทำผลงานได้ดีในรอบคัดเลือกแต่ก็ไปสะดุดเจ๊าบ่อยในช่วงท้ายทั้งเกมกับ บัลแกเรีย, สวิตเซอร์แลนด์ และ ไอร์แลนด์เหนือ และจากที่จะได้โควต้าแบบอัตโนมัติสุดท้ายก็ต้องไปเหนื่อยต่อกับเกมเพลย์ออฟ

แต่ถึงกระนั้นการเจอกับ นอร์ธ มาซิโดเนีย ทางฝั่ง อิตาลี ก็ถูกมองว่าเหนือกว่าทั้งเรื่องชื่อชั้นและศักยภาพทีม แต่ฟุตบอลนัดเดียวอะไรก็เกิดขึ้นได้ และสุดท้ายเรื่องราวไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นจริงๆ เมื่อพวกเขาโดนยิงประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บส่งผลให้ อิตาลี ชวดโอกาสตีตั๋วไปเล่น ฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายทั้งที่ได้ชื่อว่าเป็นแชมป์แห่งยุโรป

เอ็มบัปเป้ ต่อสัญญาค่าเหนื่อยแพงสุดในโลก

อย่างที่ทุกคนทราบดีว่าอนาคตของ คิเลียน เอ็มบัปเป้ นั้นถูกเชื่อมโยงกับโคตรสโมสรอย่าง เรอัล มาดริด มาตลอด และตัวของพี่แกเองก็เคยลั่นออกมาจากปากด้วยว่าการย้ายไปค้าแข้งที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว นั้นคือความฝันที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต

แต่ในท้ายที่สุดนั้นมหากาพย์นี้ก็ได้สิ้นสุดลงเมื่อ เอ็มบัปเป้ ได้ตกลงสะบัดหมึกบนสัญญาใหม่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ออกไปอีก 3 ปีหรือจนถึงปี 2025 พร้อมกับโพสต์วิดีโอที่เจ้าตัวยืนอยู่บนหลังคาของสนาม ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ และเขียนข้อความว่า "ประวัติศาสตร์ของเราถูกเขียนไว้ที่นี่ นี่คือ ปารีส"

มีการเปิดเผยว่าสัญญาใหม่ 3 ปีของ เอ็มบัปเป้ นั้นยังมีค่าโบนัสอีก 300 ล้านยูโร และค่าเหนื่อย 100 ล้านยูโรหลังจากหักภาษี แถมยังมีลิขสิทธิ์ภาพลักษณ์และโบนัสความสำเร็จต่างๆ ด้วย และนั่นก็ทำให้เขาแซงหน้า ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ขึ้นไปเป็นนักเตะที่ค่าจ้างแพงที่สุดในโลกในทันที 

เบนเซม่า คว้าบัลลงดอร์

ความใฝ่ฝันของนักฟุตบอลทุกคนนอกจากการคว้าแชมป์รายการใหญ่ๆ อย่างแชมป์ลีกและแชมป์ระดับทวีปอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แล้ว รางวัลเกียรติยศส่วนตัวอย่าง บัลลงดอร์ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งความต้องการของพวกเขาเหล่านี้เช่นกัน

และในพิธีประกาศรางวัล บัลลงดอร์ ประจำปี 2022 ทุกมติเป็นเอกฉันท์และก็ไม่ได้มีอะไรพลิกโผ เมื่อ คาริม เบนเซม่า ได้รับเสียงโหวตแบบชนะขาด ทำให้เป็นผู้คว้ารางวัล "ลูกบอลทองคำ" สมัยแรกในชีวิตจากผลงานอันยอดเยี่ยมที่ฝากไว้กับสโมสร เรอัล มาดริด ที่พาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ลา ลีกา บวกกับการซัลโวไปแบบกระจุยกระจายที่ 44 ประตูจากการลงเล่น 46 นัด และกดไปอีก 15 แอสซิสต์

ฮาแลนด์ มา แมนฯ ซิตี้

เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ได้รับการคาดหมายว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกยุคต่อไปหลังจากหมดช่วงเวลาของ ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จากผลงานอันยอดเยี่ยมโดยเฉพาะสถิติการระเบิดสกอร์ที่ถล่มทลายตลอดช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เหล่าบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่จะจะหมายหัวกันยกใหญ่ไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า รวมไปถึง บาเยิร์น มิวนิค เป็นต้น

แต่สุดท้ายการย้ายทีมของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ก็เกิดขึ้นเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และก็เป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ได้ตัวไปครองด้วยค่าฉีกสัญญา 63 ล้านปอนด์ นับว่าเป็นค่าตัวที่ถูกมากๆ ถ้าดูจากผลงานที่ผ่านๆ มาของเจ้าเด็กยักษ์คนนี้

และ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ก็ไม่ทำให้แฟนๆ และบุคลากรที่ "เรือใบสีฟ้า" ผิดหวังจากการซัลโวไปแบบกระจุยกระจายที่ 24 ประตูจากการลงเล่น 19 นัดในซีซั่นนี้ พร้อมกับสร้างสถิติต่างๆ เอาไว้มากมายจนทำให้หลายๆ ฝ่ายตั้งคำถามว่า "การปรับตัวสำหรับไอ้หมอนี่นั้นคืออะไร ?"

โรนัลโด้ โจมตี แมนฯ ยู

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ชื่อว่าเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกและก็โด่งดังป็อบปูลาร์สุดๆ เช่นกัน แน่นอนว่าทุกการกระทำของเขานั้นจะเป็นจุดสนใจอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นมุมที่ดีหรือไม่ก็ตาม ถ้าจะถามถึงประเด็นที่กลายเป็นที่พูดถึงทั่วทั้งโลกประจำปี 2022 ก็คงจะเป็นทอปปิคไหนไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่การให้สัมภาษณ์โจมตี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เรื่องราวตรงนี้มันเริ่มจากตอนที่ เจ้าของโค้ดเนม CR7 นั้นไม่ได้เดินทางมารายงานตัวและซ้อมกับทีมในช่วงปรีซีซั่น ท่ามกลางกระแสข่าวลือที่ว่าพี่แกนั้นต้องการเก็บข้าวของไปจาก โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จนโดนวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเป็นมืออาชีพ รวมไปถึงประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ในแง่ลบกับบอสคนใหม่นั่นก็คือ เอริค เทน ฮาก

ทุกๆ สิ่งที่คนเขาพูดถึงกัน คำตอบของทุกๆ สิ่งได้ปรากฏขึ้นผ่านคลิปวิดีโอที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไปให้สัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟกับพิธีกรชื่อดังอย่าง เพียร์ซ มอร์แกน ที่ได้แฉและกล่าวโจมตี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบไม่ไว้หน้าไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเจ้าของทีมที่ทำธุรกิจฟุตบอลเพื่อแค่จะเอาเงิน, การไม่ได้รับความเคารพจากกุนซืออย่าง เทน ฮาก, เหตุผลที่ไม่ได้มาทัวร์ปรีซีซั่น และอีกต่างๆ มากมาย

มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายในแง่ลบถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ว่าไม่มีความเป็นมืออาชีพ, ขาดความเคารพในตัวสโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ก่อนที่สุดท้ายทางสโมสรจะประกาศยกเลิกสัญญากับทาง เจ้าของโค้ดเนม CR7 ในที่สุด ทำให้ตอนนี้เขากลายเป็นนักเตะฟรีเอเยนต์ที่ยังไร้สังกัด แต่ในขณะเดียวกันก็มีข่าวเชื่อมโยงกับหลายๆ ทีม

เมสซี่ คว้าแชมป์โลก

ย้อนเวลากลับไปช่วง 2-3 เดือนก่อนหน้านี้ ลิโอเนล เมสซี่ ได้ประกาศเอาไว้ชัดเจนแล้วว่า ฟุตบอลโลก 2022 หนนี้คือทัวร์นาเมนต์ เวิลด์ คัพ ครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขา ดังนั้นพี่ท่านก็หมายมั่นปั้นมือมากๆ ว่าต้องคว้าแชมป์มาครองได้จงได้ และทาง อาร์เจนติน่า เองก็ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในตัวเต็งด้วยเช่นกัน

ถึงแม้ "ฟ้า-ขาว" จะเปิดหัวได้ไม่สวยเท่าไหร่ด้วยการพลิกล็อคช็อคโลกพ่ายต่อ ซาอุดิอาระเบีย ไปแบบไม่มีใครคาด 1-2 ทำให้มีเสียงวิจารณ์และคำครหาออกมาไม่น้อยเหมือนกันว่าปีนี้ อาร์เจนติน่า อาจจะไปไม่ถึงฝั่งฝันอีก 1 ปี แต่หลังจากนั้น ลิโอเนล เมสซี่ คนนี้ก็เป็นคนที่ช่วยแบกทีมทะยานเก็บชัยชนะมาได้เรื่อยๆ  ทั้ง เม็กซิโก, โปแลนด์, ออสเตรเลีย, ฮอลแลนด์ และ โครเอเชีย

จนกระทั่งได้ตีตั๋วสู่รอบชิงชนะเลิศเจอกับ ฝรั่งเศส แชมป์เก่าซึ่งเป็นการรีแมตช์ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อ 4 ปีก่อนที่ ฝรั่งเศส เป็นฝ่ายเขี่ย อาร์เจนติน่า ตกรอบด้วยสกอร์ 4-3 เกมนี้มีความสำคัญสำหรับทั้งคู่เพราะต้องการแชมป์สมัยที่ 3 เหมือนกัน

ฝรั่งเศส มีลุ้นสร้างสถิติเป็นชาติแรกที่สามารถป้องกันแชมป์โลกได้ ต่อจาก อิตาลี เมื่อปี 1938 ส่วน อาร์เจนติน่า ก็ต้องการลบล้างฝันร้ายเมื่อ 8 ปีก่อนที่อกหักในรอบชิงชนะเลิศ พร้อมกับส่งท้ายสวยๆ ให้กับ ลิโอเนล เมสซี่ ในการคว้าแชมป์โลกครั้งแรกในชีวิต

เกมนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นเกมที่มันส์และดุเดือดทะลุเกินกว่า 10 ดาว เพราะ ฝรั่งเศส พลิกชะตากลับมาตามตีเสมอได้ 2-2 ในช่วงท้ายเกม พอไปแข่งกันต่อในช่วงต่อเวลา อาร์เจนติน่า เป็นฝ่ายขึ้นนำอีกครั้งแต่พวกเขาก็ยังตามตีเสมอได้อีก

สุดท้ายเมื่อต้องตัดสินกันที่การดวลจุดโทษทาง อาร์เจนติน่า ก็เป็นฝ่ายที่เอาชนะไปได้ 4-2 และนั่นก็เป็นการส่งมอบแชมป์โลกสมัยแรกในชีวิตให้กับ ลิโอเนล เมสซี่ ผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของ อาร์เจนติน่า ราวกับว่าเรื่องราวนี้มันได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว

เท่ากับว่าเส้นทางอาชีพค้าแข้งของ ลิโอเนล เมสซี่ นั้นจบแบบสมบูรณ์แบบทั้งคว้าแชมป์ในทุกรายการทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาล หรือ The G.O.A.T ผลงานและสถิติต่างๆ ที่เขาได้สร้างไว้ตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์คือเครื่องยืนยันชั้นดีเลยทีเดียว

HaMu Dos Santos