อย่างที่เราทราบข่าวกันว่าซูเปอร์สตาร์จากโปรตุเกสกลายเป็นอดีตนักเตะของทัพ "ปีศาจแดง" อย่างสมบูรณ์แบบเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา เป็นการยกเลิกสัญญาที่เหลือราวๆ 6 เดือน จากการยินยอมต่อทั้ง 2 ฝ่าย ส่งให้ โรนัลโด้ กลายเป็นนักเตะที่ขึ้นว่าไร้สังกัดครั้งแรกนับตั้งแต่เทิร์นโปรเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
ส่วนสาเหตุก็มาจากการโยนระเบิดลูกใหญ่ ทิ้งบอมบ์กลาง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต่อบทสัมภาษณ์ที่เปิดใจกับ เพียร์ มอร์แกน คนข่าวคนสนิมทั้งเรื่องภายในสโมสร ออกมาวิจารณ์โค้ชทั้งคนเก่า และคนปัจจุบันอย่าง เอริค เทน ฮาก จนกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายทำให้ทั้งคู่ต้องแยกทางกันเดิน
ซึ่งจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นเสียงของแฟนบอลย่อมแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย บางกลุ่มมองถึงเรื่องของความเหมาะสมที่นักเตะที่ยังคงมีสัญญากับทีม และอยู่ภายใต้การคุมทีมของโค้ชไม่ควรออกมาพูดต่อหน้าสาธารณะในรูปแบบนี้
อีกด้านก็มองในมุมของนักเตะที่คงสุดจะทนกับสิ่งที่ต้องเผชิญ ทั้งบทบาทในทีม หรือเรื่องราวต่างๆ ที่มันเริ่มเกิดรอยร้าวตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาลากยาวจนทำให้ต้องออกมาอธิบายทุกอย่างให้แฟนบอลได้เข้าใจ
แน่นอนเรื่องนี้แฟนบอลสามารถมองกันต่างมุมมองกันได้ครับ ...
ย้อนกลับไปชื่อของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไม่ต่างอะไรกับหนึ่งไอคอนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมในฐานะดาวรุ่งคนหนึ่งของวงการที่ไม่มีโปรไฟล์อะไรเลย เป็นเพียงเด็กจาก ลิสบอน ที่ต้องงเสริมสร้างกระดูกอีกเยอะ
ทว่าด้วยสายตาที่แหลมคมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เขามอบเสื้อหมายเลข 7 ที่เต็มไปด้วยความกดดัน และผ่านการใช้งานของตำนานมาให้กับ โรนัลโด้ พร้อมความคาดหวังว่านี่แหละคือเพชรเม็ดใหม่ของวงการลูกหนัง
แน่นอนครับจากวันนั้นที่ โรนัลโด้ ยังเป็นเด็กใช้ 2 เท้าในการลากเลื้อย สับสยองโลก สู่นักเตะที่ก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จพาทัพ "ปีศาจแดง" คว้าแชมป์มาครองได้อย่างมากมาย จนกระทั่งถึงวันที่เขาเองต้องเดินออกไปตามความฝันของตัวเอง
การโยกย้ายสู่ เรอัล มาดริด เชื่อว่าแฟนบอล ยูไนเต็ด คงเข้าใจ และยินดีที่ได้เห็นนักเตะของพวกเขาได้ทำตามหัวใจของตนเอง ภายหลังมอบทุกอย่างให้กับสโมสรไว้หมดแล้ว
เชื่อว่าแฟนบอล "ปีศาจแดง" กลุ่มใหญ่ยังคงตามเชียร์ โรนัลโด้ แม้จะต่างสีเสื้อ แต่เปรียบไปก็คล้ายคนรักที่ยังคงมีมิตรไมตรีที่ดีต่อกัน ช่วยส่งกำลังใจทั้งเรื่องความสำเร็จในรูปแบบทีม หรือความสำเร็จส่วนตัวที่อยากเห็นชายหนุ่มผู้นี้ก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ในทุกๆ สาขาที่มีสิทธิ์ในการลงชิงชัย
ประตูที่เขากลับมาทำได้ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด พร้อมท่ายกมือเพื่อให้เกียรติอดีตต้นสังกัด พร้อมเสียงปรบมือจากแฟนบอลทั่วสนาม กลายเป็นช็อตที่ยังคงเป็นที่ถูกพูดถึง มันแสดงให้เห็นถึงความเคารพที่ยังคงมีให้กันอยู่เสมอ
วันเวลาผ่านไปจนกระทั่ง โรนัลโด้ กลับมายังสถานที่แห่งเดิมอีกครั้ง เหมือนแฟนบอลได้นั่งไทม์แมชชีนกลับไปถึงวันวานที่ได้หนึ่งในไอดอลของใครหลายคนกลับมาสวมเครื่องแบบตราปีศาจอีกครั้ง
จะด้วยผลงานในสนามที่ออกมาอย่างไร แฟนบอลส่วนใหญ่ยังคงตามปกป้องเขาเหมือนเช่นเคย ทว่าด้วยอายุที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น สังขารที่โรยราตามตัวเลขที่เพิ่มในทุกๆ ขวบปี ทำให้ฟอร์มของเขาดรอปลงไปอย่างชัดเจน และภาพดังกล่าวชัดขึ้นเมื่อเข้าสู่ฤดูกาล 2022-23 พร้อมการเปลี่ยนแปลงกุนซือ
และแน่นอนจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ โรนัลโด้ ออกมาให้สัมภาษณ์แบบนั้นย่อมสร้างอิมแพ็คต่อแฟนบอล ยูไนเต็ด มากเหลือเกิน และหลายคนคงผิดหวังที่เขาตัดสินใจออกมาให้สัมภาษณ์ในแบบนั้น
แฟนบอลในสนามจากที่เคยเปล่งเสียงร้องเพลงแห่งตำนานอย่าง "Viva Ronaldo" ทุกอย่างกลับเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคใหม่ และนักเตะรุ่นใหม่ที่กำลังก้าวขึ้นมา
จาก Viva Ronaldo สู่ Viva Garnacho เด็กวัยรุ่นชาวอาร์เจนติน่าที่ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในความหวัง และแสงสว่างที่แฟนบอลบอกว่านี่คือดาวดวงใหม่ที่จะเจริญรอยตาม พร้อมเฉิดฉายในอนาคตอันใกล้
ถามว่าแฟนบอล ยูไนเต็ด จะเกลียด โรนัลโด้ แบบไม่เผาผีเลยไหม ?
มันคงไม่ได้ขนาดนั้น แต่เพียงความรู้สึกจากคนที่เคยรักมาก ก็ไม่แปลกที่จะผิดหวังมากเช่นกัน
ในวันนี้กับสถานะที่แตกต่างออกไปจากเดิมหลายร้อยไมล์ โรนัลโด้ ยังคงเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของสโมสร แต่คงไม่ได้ถือครองหัวใจของแฟนบอลมากเท่ากับที่ผ่านมา
จากนี้คงเดินตามทางใครทางมัน "แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด" ที่ต้องก้าวต่อไปเพื่อเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้
ส่วน โรนัลโด้ ก็มีเส้นทางของตัวเองว่าจะเลือกทิศทางไหนในช่วงบั้นปลายอาชีพการค้าแข้ง
บทสรุปเรื่องนี้คงไม่อาจตอบแทนใจใครได้ทั้งหมดว่าจะยังคงรัก หรือเฉยๆ กับผู้ชายคนนี้
เพราะสุดท้ายเรื่องของหัวใจ และความศรัทธาไม่อาจไปบังคับกันได้
- Paolinho -
