Top 10 : "ดีลสุดคุ้มค่า" หลังผ่านเลกแรกของซีซั่น 2022-23

ณ ตอนนี้การโลดแล่นบนเวียนลูกหนังยุโรปก็ผ่านมาครึ่งทางแล้วในซีซั่น 2022-23 มีนักเตะหลายคนที่โชว์ฟอร์มได้ดีและเข้าตากรรมการสุดๆ แต่ถ้าจะพูดถึงนักเตะที่ได้ชื่อว่าเป็น "ดีลสุดคุ้มค่า" ในซีซั่นนี้ จะมีใครบ้างนั้นไปติดตามพร้อมๆ กับเราทาง "ขอบสนาม" ได้เลยครับ

ซาดิโอ มาเน่

ซาดิโอ มาเน่ ได้รับการคาดหวังว่าจะมาเป็นตัวตายตัวแทนของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ตัดสินใจเก็บข้าวของย้ายไปหาความท้าทายครั้งใหม่กับ บาร์เซโลน่า โดยย้ายมาจาก ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 32 ล้านยูโร ถึง ดาวเตะทีมชาติเซเนกัล จะไม่ใช่นักเตะที่เป็นสไตรเกอร์ยอดดาวยิง แต่การมาของเขาก็สร้างมิติใหม่ๆ ให้กับพลพรรค "เสือใต้" ได้ไม่น้อย ส่วนเรื่องการผลิตสกอร์อาจจะไม่ได้ระเบิดระเบ้อเมื่อเทียบกับ เลวานดอฟสกี้ แต่การมีส่วนร่วมถึง 15 ประตูจาก 23 เกมรวมทุกถ้วย (ยิง 11 แอสซิสต์ 4) ก็จัดว่าไม่เลวเลยจริงๆ 

คริสเตียน อีริคเซ่น

จากนักเตะที่ชีวิตเกือบหันหลังในกับโลกของฟุตบอลจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันเมื่อ 2 ปีก่อน มาวันนี้ คริสเตียน อีริคเซ่น ได้กลับมาเล่นฟุตบอลได้ตามปกติอีกครั้ง ถึงแม้อายุจะปาเข้าไป 30 ปีแล้วแต่เรื่องเทคนิค, พรสวรรค์และความอัจฉริยะในการเล่นฟุตบอลไม่ได้ลดลงไปตามอายุขัยเลยสักนิด 

เขาได้มอบสิ่งต่างๆ ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเฉพาะการทำให้พื้นที่แดนกลางมีความแข็งแกร่งและเป็นระบบมากขึ้น ตลอดจนการสร้างสรรค์โอกาสต่างๆ ให้กับเพื่อนร่วมทีม และ 31 เกมที่พี่แกได้ลงเล่นไปในซีซั่นนี้ ยิงได้ 2 ประตู และกดไป 9 แอสซิสต์ ก็จัดว่าเป็นดีลที่คุ้มค่ามากๆ เพราะ "ปีศาจแดง" ไม่ต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียวตอนดึงมาร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

อเล็กซิส ซานเชซ

หลายๆ คนอาจจะคิดว่านักเตะอย่าง อเล็กซิส ซานเชซ นั้นหมดสภาพไปนานแล้ว นับตั้งแต่ค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อินเตอร์ มิลาน แต่หารู้ไม่ว่าในฤดูกาลนี้ถึงแม้อายุจะปาเข้าไป 34 ปีแต่เจ้าตัวกลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้งกับ โอลิมปิก มาร์กเซย พร้อมกับได้ชื่อว่าเป็นความหวังเบอร์ 1 ของทีมในการผลิตสกอร์ และตอนนี้พี่แกก็คือดาวซัลโวสูงสุดของทีมที่ 11 ประตู แถมยังพา มาร์กเซย รั้งอันดับ 2 ในลีก เอิง ได้ลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว รวมไปถึงการล่าตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปีหน้าด้วย

กาเบรียล เชซุส

การเก็บข้าวของย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกสำหรับ กาเบรียล เชซุส เพราะพี่แกได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าคู่ควรอย่างยิ่งต่อการได้โอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่องกับ อาร์เซน่อล โดย 14 นัดใน พรีเมียร์ลีก และยิงไป 5 ประตูและกดไปอีก 6 แอสซิสต์ นับเป็นส่วนสำคัญที่พาทัพ "เดอะ กันเนอร์ส" ครองตำแหน่งจ่าฝูงและมีโอกาสสูงที่จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก สมัยแรกในรอบ 19 ปีเลยทีเดียว ถึงแม้เวลาจะผ่านไปแค่ครึ่งซีซั่นแต่ถ้าดูจากผลงานที่สร้างมามันก็ทำให้ค่าตัว 45 ล้านปอนด์ที่สโมสรลงทุนไปนั้นไม่ได้ดูแพงเลยสักนิด

คิม มิน-แจ

การย้ายจาก เฟเนร์บาห์เช่ มาอยู่กับ นาโปลี ด้วยค่าตัว 18 ล้านยูโรนับเป็นประสบการณ์แรกของ คิม มิน-แจ แนวรับทีมชาติเกาหลีใต้ ที่ได้สัมผัสกับสังเวียน 5 ลีกดังยุโรป และก็สร้างผลงานเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมแถมไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวอะไรเลย เขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงยาวๆ 20 นัด ยิงได้ 2 ประตู และที่สำคัญเลยก็คือช่วยให้เกมรับของ นาโปลี มีความแข็งแกร่งสุดๆ เพราะตอนนี้เพิ่งจะเสียไปแค่ 15 ประตูจาก 21 นัดซึ่งเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในลีก

ณ สถานการณ์ตอนนี้ นาโปลี กำลังครองจ่าฝูง กัลโช่ เซเรีย อา ได้อย่างเหนียวแน่น และมีโอกาสสูงเลยที่จะคว้า สคูเด็ตโต้ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1990 ถ้าสุดท้ายมันเกิดขึ้นจริงหนึ่งในคนที่ต้องได้รับความดีความชอบเลยก็คือ คิม มิน-แจ คนนี้นี่แหละ

นิค โป๊ป

ถ้าจะถามถึงผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดบนสังเวียน พรีเมียร์ลีก ในซีซั่นนี้แน่นอนว่าคำตอบไม่ใช่ อลิสซอน เบ็คเกอร์, เอแดร์ซอน โมราเอส หรือ ดาบิด เด เคอา แต่กลับเป็น นิค โป๊ป นี่แหละ เรื่องของผลงานมันเด่นชัดให้เห็นกันอยู่แล้ว เพราะนี่คือผู้รักษาประตูที่เก็บคลีนชีทได้มากที่สุดตอนนี้ที่ 12 ครั้งจากการลงเฝ้าเสา 21 นัด เขาเซฟลูกยิงคู่แข่งได้ 51 จากการยิง 63 ครั้ง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 81 เปอร์เซนต์ และมีเปอร์เซนต์การเก็บคลีนชีทดีที่สุดที่ 56 เปอร์เซนต์

นับเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มได้ดี เสียประตูน้อยที่สุดในลีกที่ 12 ประตู และมีลุ้นตีตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นครั้งแรกในรอบหลาย 10 ปีด้วย ถ้าจะถามว่าใครคือดีลที่ดีและคุ้มค่าที่สุดในซีซั่นนี้แน่นอนว่าต้องมีชื่อของ นิค โป๊ป แน่ๆ เพราะเขาย้ายมาจาก เบิร์นลี่ย์ ด้วยค่าตัวแค่ 10 ล้านปอนด์เท่านั้น

กาเซมิโร่

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามผู้เล่นมิดฟิลด์ตัวรับมาตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาและก็มีข่าวพัวพันกับหลายๆ คน อาทิเช่น ดีแคลน ไรซ์ หรือ รูเบน เนเวส เป็นต้น แต่เชื่อว่าตอนนี้พวกเขาคงลืมเรื่องนั้นไปหมดแล้วจากการได้ตัว คาเซมิโร่ มาร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ถึงจะย้ายมาด้วยค่าตัว 60+10 ล้านปอนด์ แต่แฟนๆ "เร้ด เดวิลส์" คงไม่ได้รู้สึกว่ามันแพงอะไรเมื่อได้เห็นสิ่งที่ผู้ชายคนนี้วาดลวดลายบนสนาม

เขาคือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้แดนกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด ปึ้กขึ้น แข็งแกร่งและมีระบบระเบียบมากขึ้น มีความโดดเด่นทั้งเรื่องการทำลายเกมของคู่แข่งด้วยความเป็นผู้เล่นสายแทงค์ และที่สำคัญคือพี่แกยังมีส่วนร่วมกับประตูสำคัญๆ ของทีมอีกด้วย ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะถูกมองว่าขึ้นชั้นมิดฟิลด์ระดับโลกไปแล้ว

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

สไตรเกอร์เบอร์ 9 ที่ดีที่สุดในยุคนี้มันยังเป็นของผู้ชายที่ชื่อ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ไม่ว่าที่ผ่านมาพี่ท่านจะโชว์ฟอร์มได้ดีกับ บาเยิร์น มิวนิค ขนาดไหนโดยเฉพาะในเรื่องการระเบิดสกอร์ ตัดภาพกลับมาตอนนี้กับ บาร์เซโลน่า เรื่องของผลงานและมาตรฐานของเขาก็ไม่ได้ตกลงเลยสักนิดกับการซัดไปแล้ว 23 ประตูจาก 26 นัดโดยแบ่งเป็น 14 ประตูใน ลา ลีกา และกำลังนำเป็นดาวซัลโวของลีก

ด้วยอายุที่ปาเข้าไป 34 ปีแล้วกับการย้ายทีมมาด้วยค่าตัว 50 ล้านยูโรมันอาจจะดูแพงเกินไป แต่จริงๆ ไม่ใช่แบบนั้นเลย เพราะศักยภาพของเขาไม่ได้ลดลงแถมยังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ บาร์เซโลน่า ครองจ่าฝูง ลา ลีกา อยู่ ณ เวลานี้ 

ควิช่า ควารัตสเคเลีย

ในเหล่าบรรดาดีลที่พูดมาทั้งหมดนี่ดูเหมือนจะเป็นนักเตะที่สร้างความเซอร์ไพรส์ที่สุดแล้วสำหรับ ควิช่า ควารัตสเคเลีย เขาย้ายจาก ดินาโม บาตูมี่ มาอยู่กับ นาโปลี ด้วยค่าตัว 10 ล้านยูโรกับสถานะการเป็นนักเตะโนเนม ไม่มีใครรู้จัก แต่ไปๆ มาๆ พี่แกกลับกลายเป็นสมบัติอันล้ำค่าของทีมไปแล้วจากโปรไฟล์ที่สร้างเอาไว้ได้อย่างสุดยอด ซัดไป 8 ประตู กดไปอีก 11 แอสซิสต์จาก 17 เกมใน กัลโช่ เซเรีย อา และซัดไปอีก 2 ประตู ทำ 3 แอสซิสต์จาก 5 เกมใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

นับเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ นาโปลี มีโอกาสลุ้นแชมป์ลีกสมัยแรกในรอบ 33 ปี และเมื่อดูจากฟอร์มการเล่นและความอันตรายที่มีรอบด้านหลายๆ เสียงเห็นพ้องตรงกันว่าตอนนี้ค่าตัวของ ควิช่า ควารัตสเคเลีย น่าจะแตะหลัก 100 ล้านปอนด์ไปแล้ว 

เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์

ไม่มีอะไรต้องสาธยายมากนักเกี่ยวกับตัวของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ หัวหอกดาวรุ่งที่ได้รับการคาดหวังว่าจะก้าวขึ้นไปเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกยุคต่อไปแทนที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ เพราะสถิติการระเบิดสกอร์นั้นมันแกร่งเกินเด็กจริงๆ มันมีนักเตะเพียงไม่กี่คนในประวัติศาสตร์โลกลูกหนังที่ทำประตูได้มากกว่าจำนวนเกมที่ลงสนาม

และมันก็สมแล้วที่ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เป็นนักเตะที่หลายทีมดังหมายหัวตลอดช่วงที่ผ่านมา เพราะสิ่งที่ เจ้าเด็กยักษ์ สร้างไว้ตอนนี้มันขึ้นชื่อว่าเป็นปรากฏการณ์จริงๆ จากการซัดไปแล้ว 31 ประตูจาก 28 เกมทั้งๆ ที่ตอนนี้เพิ่งจะผ่านไปแค่ครึ่งซีซั่นเท่านั้น และมันก็ไม่มีกองหน้าคนไหนที่ฟอร์มโหดขนาดนี้และมีค่าตัวแค่เพียง 60 ล้านยูโรเท่านั้น

HaMu Dos Santos