logo-heading

เกิดอะไรขึ้นกับ ฟาน ไดค์ .. ฟอร์มดรอปลงไป หรือ เพราะผลงานไม่เข้าตา ทำไมเซ็นเตอร์แบ็กรายนี้ ถึงโดนจัดหนักจากเหล่ากูรูลูกหนัง เป็นว่าเล่น

ขอบสนาม จะพาไปลงรายละเอียดเรื่องนี้กันครับ

สรรพคุณของ ฟาน ไดค์ ผมคงไม่ต้องลงลึกอะไรมากมาย ทุกคนคงรู้ดีแล้วว่า เขาเข้ามาเปลี่ยนแปลงทำให้แนวรับ ลิเวอร์พูล ไม่ได้เป็นกองหลัง เวิลด์ แก๊ส อีกต่อไป

ค่าตัว 75 ล้านปอนด์ ที่เคยถูกตั้งคำถาม ว่าแพงไปหรือเปล่า กับกองหลังที่ยังไม่มีดีกรีอะไรชัดเจนเลยด้วยซ้ำ กลับถูกลบเลือนออกไปอย่างรวดเร็ว 

ฟาน ไดค์ ช่วยให้ หงส์แดง ไม่เสียประตูจากลูกเตะมุม ทำให้ทีมปิดตำนานด้วยคำพูดที่ว่า "เสียเตะมุม เหมือนเสียจุดโทษ"

ฟาน ไดค์ ช่วยขึ้นมาทำประตูสำคัญๆ พร้อมพาทีมเก็บชัยชนะได้หลายนัด

ครั้งหนึ่ง ถึงกับการมีบันทึกสถิติไว้ว่า ไม่เคยมีคู่แข่งคนไหนเลี้ยงผ่าน ฟาน ไดค์ ได้เลย มากถึง 50 เกม ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หรือ มีช่วงระยะเวลา 3 ปี มีคู่แข่งเลี้ยงผ่านไปแค่ 8 คน เท่านั้น

ซึ่งมันเป็นการบ่งบอกเลยว่า ฟาน ไดค์ นั้นยอดเยี่ยมเพียงใด เพราะกองหลังต้องเผชิญหน้ากับแนวรุกอยู่ตลอด

ดังนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆว่าที่ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครอง เป็นเพราะ ฟาน ไดค์ คือคนสำคัญ และ ทีมจะขาดเขาไปไม่ได้เลย ขาดวันไหน พังยับทันที

แต่กระนั้น ไม่มีใครอยู่ค้างฟ้า วันหนึ่งคุณยิ่งใหญ่ได้ ก็อาจลงมาสู้สามัญได้เช่นกัน

เพราะ ปัจจุบัน ฟาน ไดค์ คนที่แฟนบอลเคยเชิดชู วันนี้เริ่มมีเสียงวิจารณ์ว่า เขายังดีพอที่จะเป็นคนสำคัญของ ลิเวอร์พูล ได้อีกหรือเปล่า ?

วันที่ หงส์แดง แพ้เละเทะคาบ้านต่อ เรอัล มาดริด 2-5 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก

เจมี่ คาร์ราเกอร์ ถึงกับเอ่ยปากว่า ถ้าตอนนี้ตนเองยังเล่นอยู่ คงแย่งตำแหน่ง ฟาน ไดค์ ได้สบายๆ เป็นการจิกกัดเอาคืน ฟาน ไดค์ ที่เคยเย้ยหยันว่า คาร์ราเกอร์ ไม่ดีพอลงเล่นในตำแหน่งแบ็กโฟร์ให้กับ หงส์แดง ชุดนี้ด้วยซ้ำ

หรือ ล่าสุด รุท กุลลิต ตำนานแข้งเนเธอร์แลนด์ วิจารณ์ว่า ฟาน ไดค์ คือหายนะทำให้ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เพราะเขาเอาแต่ถอย ไม่กล้าเข้าปะทะ เนื่องจากกลัวอาการบาดเจ็บเล่นงาน

โดยก่อนหน้านี้ ฟาน ไดค์ เคยบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าเข่าฉีกขาด เมื่อปี 2020 จากการถูก จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวาร เอฟเวอร์ตัน เข้าสกัดรุนแรง ต้องพักไปนานถึง 1 ปี 

จริงๆต่อให้ ฟาน ไดค์ จะกลับมาเป็นกำลังสำคัญของ ลิเวอร์พูล เช่นเดิม การมีเขาลงสนามทำให้แฟนบอลรู้สึกอุ่นใจ

แต่ถัาใครสังเกตจะเห็นเลยว่า ฟาน ไดค์ ก็มีข้อผิดพลาดให้เห็นๆ หลายๆครั้งเขาไม่สามารถช่วย ลิเวอร์พูล สกัดจังหวะอันตรายอีกแล้ว

ฟาน ไดค์ เปลี่ยนสไตล์ที่ไม่ใช่ตัวชนกับกองหน้า จังหวะที่ควรเข้าแท็คเกิ้ล เขาเลือกจะถอยเพื่อคุมโซน หรือ รอดักทางวิ่งมากกว่า จนหลายครั้ง ก็มีส่วนทำให้ หงส์แดง เสียประตู

อย่างในเกม แดงเดือด ช่วงต้นซีซั่น  ที่ ลิเวอร์พูล แพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีช็อตที่ เจมส์ มิลเนอร์ รองกัปตันทีม เข้าไปโวยใส่ ฟาน ไดค์ ที่มัวแต่ยืนนิ่งๆเอามือไขว้หลัง ปล่อยให้ จาดอน ซานโช่ เลือกยิงง่ายๆ อารมณ์ประมาณว่า "ทำไม ฟาน ไดค์ ขาดความกระตือรือร้น !!"

จริงๆ ไม่ได้เป็นการหาแพะรับบาปในวันที่ ลิเวอร์พูล ฟอร์มย่ำแย่หรอกครับ เพราะนักเตะ หงส์แดง ก็ร่วงลงเหวกันทั้งนั้น ยิ่งพอพี่ใหญ่อย่าง ฟาน ไดค์ ไม่อยู่กับร่อง กับรอย ก็ทำให้น้องๆในทีม เป๋ไปทั้งกระบวน ซึ่งเมื่อก่อน ฟาน ไดค์ จะเป็นคนยกระดับให้แผงแบ็กโฟร์แข็งแกร่งขึ้นมา

ถ้ามองจากนักเตะเซ็นเตอร์แบ็กตอนนี้ ยังไง ฟาน ไดค์ ก็ดีกว่าทั้ง โจ โกเมซ, โจเอล มาติป, และ อิบราฮิม่า โกนาเต้ แต่เพราะมาตรฐานที่ พี่เบิ้ม เคยทำไว้แบบสูงส่ง พอมันตกลงมา ก็เห็นได้อย่างชัดเจน

โดยส่วนตัวยังเชื่อว่า ฟาน ไดค์ คือคนสำคัญของ ลิเวอร์พูล อยู่เหมือนเดิม และ ไม่ควรปล่อยออกจากทีมไป บางทีเมื่อเขาเห็นจุดบอดของตัวเอง ก็อาจจะหาวิธี เพื่อยกระดับตัวเองขึ้นมา หรือ ไม่ก็ ต้องหาเซ็นเตอร์แบ็กคนใหม่ เข้ามาเพิ่มเติม ที่สามารถแบ่งเบาภาระได้ ไม่ใช่เอาปัญหามาให้มากกว่าเดิม

ซีซั่นนี้ เป็นซีซั่นฝันร้ายสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสโมสร ลิเวอร์พูล แต่อุปสรรคจะฝ่าฟันไปได้ หากร่วมแรงร่วมใจ

ฮาย ฮาวดี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline