สตาร์อาร์เจนติน่ายังได้รับเสียงโห่จากแฟนบอลทีมตัวเองบางส่วน ในสนาม ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ในช่วงระหว่างประกาศรายชื่อ 11 ตัวจริงก่อนเกมด้วย
ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งที่ 3 แล้ว จาก 2 ฤดูกาลนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในกรุงปารีส ที่ เลโอ ต้องเจออะไรแบบนี้ แน่นอนมันจึงเกิดเป็นคำถาม ว่าทำไมครั้งนี้ เมสซี่ ยังโดนโห่ ทั้งที่มีผลงานที่ดีขึ้นจากฤดูกาลก่อนมากมาย และแน่นอนว่าเรื่องนี้มันมีที่มา ดังนั้น ขอบสนาม ของเรา จะพาไปไขสาเหตุกันครับ …
ข้อแรก ความผิดหวัง ภาวะความไม่พอใจของแฟนๆ ปารีส ถูกปะทุขึ้น นับตั้งแต่พวกเขาตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ต่อ บาเยิร์น มิวนิค ทำให้พวกเขายังต้องรอคอยถ้วยบิ๊กเอียร์ครั้งแรกของสโมสรต่อไป
ต่อมาถ้าถามว่า ทำไมเป็น เมสซี่ นั่นก็เพราะนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมในปี 2021 เลโอ ถูกมองว่าเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายสู่การนำถ้วยใหญ่สุดสโมสรยุโรปมาสู่ทีม
และแฟนๆ พวกเขาหลายคนตอนนั้น ตั้งความหวังไว้กับ เมสซี่ ไว้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มาตอนนี้หลายคนในนั้น จึงรู้สึกว่า เมสซี่ ทำได้ต่ำกว่าความคาดหวัง
โดยเฉพาะทั้ง 2 นัดในรอบน็อคเอาท์กับ บาเยิร์น ฤดูกาลนี้ เมสซี่ เป็นแนวรุกคนเดียวที่ได้ลงตัวจริงทั้ง 2 นัด แต่ต้องยอมรับว่าเขาสร้างฟอร์มได้ไม่ถึงมาตรฐานอันสูงส่งของเขานักใน 2 นัดดังกล่าว
แต่สาเหตุที่ทำให้ เมสซี่ ตกเป็นแพะก็ไม่ได้มีแค่นั้น แม้เขาจะทำได้ถึง 18 ประตู กับ 17 แอสซิสต์ จาก 33 นัดรวมทุกรายการในซีซั่นนี้
แต่มีแฟน เปแอสเช จำนวนไม่น้อย เริ่มรู้สึกว่าการปล่อย เมสซี่ ออกไป อาจจะทำให้ทีมของพวกเขาสมดุลขึ้น และมีเพดานค่าจ้างที่มากขึ้น
พร้อมกับข้อกังขาที่ยากจะปฏิเสธว่า เลโอ ไม่ได้อยากจะย้ายมาร่วมทีม ปารีส ตั้งแต่แรก บวกกับอีกสิ่งสำคัญคือสถานการณ์ อนาคตของเขาที่ไม่แน่นอนกับสโมสร และกำลังจะหมดสัญญาหลังจบฤดูกาลนี้
และถ้าหากเราวิเคราะห์แบบอิงจากที่ผ่านมาในอดีตลงไปอีกหน่อย อีกข้อหนึ่งเราคิด คือเป็นเพราะ เมสซี่ เป็นเหยื่อของความสำเร็จที่ตัวเองทำได้เสมอ
ย้อนไปประมาณ 10 ปีที่แล้ว จำได้หรือไม่ว่า? เมสซี่ เคยถูกแฟนบอล อาร์เจนติน่า กล่าวหาว่าเล่นให้ทีมชาติไม่เต็มที่เหมือนสโมสร เพราะในตอนนั้น เมสซี่ ประสบความสำเร็จกับ บาร์เซโลน่า มากมาย แต่เขายังไม่สามารถเสกแชมป์ให้ อาร์เจนติน่า ได้เลย ในตอนนั้นนะ
แต่ปัจจุบัน เมื่อ เมสซี่ ประสบความสำเร็จกับทีมชาติอย่างสูงสุด ทั้งโชว์ฟอร์มเดอะ แบก พาชาติคว้าแชมป์ทวีป โคปา อเมริกา ก่อนย้ายมา ปารีส 2 เดือน และโดยเฉพาะล่าสุด กับการพา อาร์เจนติน่า เถลิงบัลลงก์แชมป์ฟุตบอลโลก เมื่อปีที่ผ่านมา
ในขณะที่กับ เปแอสเช 2 ฤดูกาล กับถ้วยที่ทีมตั้งความหมายไว้สูงสุดแบบเหนือทุกรายการอย่าง แชมเปี้ยนส์ ลีก กลับตกรอบตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้าย 2 ปีติดต่อ
ปัจจุบันนี้ จึงกลับกลายเป็นว่า เมสซี่ ถูกตำหนิ ว่าเล่นให้สโมสรไม่เต็มที่เท่ากับทีมชาติแทน แต่คำถามที่ตามมาสำหรับเรา ไม่ใช่ว่าทุ่มเทไม่ทุ่มเท เพราะมันเป็นเรื่องยากมากที่จะวัด แถมสไตล์การเดินเก็บแรง เพรสไม่เยอะ รอแบกเกมรุก ก็เป็นสิ่งที่ เมสซี่ เป็นมาตั้งแต่ก่อนย้ายมา ปารีส แล้วด้วยซ้ำ
คำถามถัดไปที่จะมีคำตอบให้สำหรับเรา คือ ทำไม เมสซี่ ไม่สามารถพา เปแอสเช ประสบความสำเร็จได้แบบ อาร์เจนติน่า เธียร์รี่ อองรี ยอดตำนานกองหน้าและกูรูคนดัง วิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจว่า:
“มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นผู้นำวงออร์เคสตร้า ด้วยวาทยกรถึง 3 คน (อองรี น่าจะหมายถึง เมสซี่, เนย์มาร์ และ เอ็มบัปเป้)”
“ในทีมชาติ อาร์เจนติน่า เมสซี่คือบอส คุณสามารถเห็นได้จากวิธีที่ผู้เล่น อาร์เจนติน่า มองไปที่เขา พวกเขายอมตายเพื่อ เมสซี่ ได้ แต่กับที่ เปแอสเช มันแตกต่างกัน”
รวมถึงเรื่องที่เราคิดว่าน่าสังเกตุอีกอย่าง คือดูเหมือนไม่ว่ากุนซือดัง หรือมีแววขนาดไหนมาคุม เปแอสเช ในยุคเจ้าของกาตาร์ ล้วนแล้วแต่เสียทรงซะส่วนใหญ่ และยังมีไม่ใครพาประสบความสำเร็จใน UCL ได้เลย
ไม่ว่าจะ คาร์โล อันเชล็อตติ, อูไน เอเมรี่, เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ หรือ โธมัส ทูเคิ่ล ที่เป็นคนแรกที่พาไปถึงนัดชิง หรือ คริสตอฟ กัลติเย่ร์ ที่มีดีกรีเคยคุม ลีลล์ ที่ขุมกำลังด้อยกว่า เปแอสเช หลายขุมคว้าแชมป์ลีกเอิงได้ เมื่อปี 2021 แต่พอมา ปารีส ทุกคนดูเสียทรงความเป็นตัวเองไปหมด เห็นได้ชัดการคุมทีมๆ นี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับโค้ชเลย แม้มีเงินหนา
และจึงเห็นได้ชัดเข้าไปอีก ว่าความไม่สำเร็จโดยเฉพาะในถ้วยบิ๊กเอียร์ของ ปารีส พวกเขาไม่สามารถโทษสตาร์คนใดคนหนึ่งได้เลย โดยเฉพาะเป็นชายที่ชื่อ ลิโอเนล เมสซี่
แต่เราขอบสนามเองก็อยากจะให้ทุกคนเข้าใจแฟน เปแอสเช บ้าง ว่าพวกเขาทุกคนก็ล้วนแล้วแต่ต้องการให้สโมสรรักของพวกเขาประสบความสำเร็จนั่นแหละ
แต่ยังไงๆ เน้นย้ำอีกรอบ ว่าปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องที่พวกเขาโห่ใส่ เมสซี่ ไม่สิ ไม่ว่าแฟนบอลทีมไหนโห่ใส่นักเตะทีมตัวเอง ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องอย่างแน่นอน โดยเฉพาะกับนักเตะที่ลงเล่นเต็ม 90 นาที แทบทุกนัดในฤดูกาลนี้ให้สโมสรอย่า เลโอ ครับ
ถึงอย่างนั้น เมื่อเรื่องมันมาเป็นขนาดนี้ ดูเหมือนอนาคตข้างหน้าของ เมสซี่ กับ เปแอสเช ยิ่งมีโอกาสสูงที่จะมาถึงจุดสิ้นสุด ว่าแล้วก็เสียดายนะครับว่าที่ ปารีส จะมาเมืองไทยช่วงปิดฤดูกาลนี้ เราอาจจะพลาดเห็น เมสซี่ ซะแล้ว