logo-heading

ซึ่งบทสรุปเรื่องของความสำเร็จทีมสามารถคว้าโทรฟี่แชมป์ ลีก คัพ มาเชยชม ได้ 1 รายการ บวกกับเข้าป้ายได้ตั๋วกลับไปลุยศึก แชมเปี้ยนส์ลีก อีกครั้ง ถือว่าเป็นฤดูกาลที่เกิดการเปลี่ยนแปลงมากพอสมควรในรั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด

วันนี้เราจะมาลองไล่เรียงตัดเกรดกันว่าในแต่ส่วนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลที่เพิ่งผ่านพ้นไป มีส่วนไหนที่สอบผ่าน และส่วนไหนที่จะต้องตามแก้ไขต่อไปบ้าง ไปรับชมกันได้เลย ...

ตัดเกรดซีซั่น 2022-23 “แมนยูฯ” สอบผ่านหรือไม่ ?

การซื้อนักเตะ

เปิดประเดิมหัวข้อแรกไปกับเรื่องของการเสริมทัพกันก่อน ซึ่งในช่วงที่ เทน ฮาก เข้ามามีการปรับเปลี่ยนซื้อนักเตะเข้ามาพอสมควร โดยเฉพาะช่วงซัมเมอร์ 2022 

ก่อนอื่นต้องบอกว่าก่อนว่าทัพ “ปีศาจแดง” ในช่วงหลังสอบตกมากเหลือเกินในการทุ่มทุนซื้อนักเตะเข้ามาร่วมทีม เพราะผลตอบแทนที่ได้กลับมาย่อมไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายออกไป ยกตัวอย่างให้พอเห็นภาพอย่างเช่น เจดอน ซานโช่ ที่ตอนนี้ยังไม่อาจเรียกความมั่นใจ หรือฟอร์มเก่งเหมือนครั้งสวมยูนิฟอร์มของ ดอร์ทมุนด์ ได้เลย ทั้งที่ทีมลงทุนไปมากถึง 73 ล้านปอนด์

หรือในเคสของ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ราคาอาจไม่แรง แต่ไม่คุ้มค่ากับสักเพนนีที่ลงทุนไป รวมไปถึง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ผ่านไปแล้ว 4 ซีซั่น มองยังไงก็เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำกับเงิน 80 ล้านปอนด์ ที่อุตส่าห์ควักไป

ซึ่งในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาอย่างในดีลของ อันโตนี หรือ ไทเรลล์ ลามาเซีย ยังไม่อาจตอบได้ว่าคุ้มไหมกับตัวเลขที่จ่ายไป คงต้องดูไปอีกสักระยะ แต่ถ้าโฟกัสไปที่ “เดอะ หมุน” เพียงรายเดียวต้องบอกว่าค่อนข้างน่าผิดหวัง ถ้าอ้างอิงกับตัวเงินก้อนโตที่จ่ายไปราวๆ 82 ล้านปอนด์ แต่เขายังคงมีเวลาพิสูจน์ความคุ้มค่าในฤดูกาลหน้า

ส่วนในรายที่คุ้มค่าต้องบอกว่าสามารถยกระดับทีมได้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็น ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่ตอนแรกโดนกระแสวิจารณ์ว่าด้วยรูปร่างไม่อาจเอาตัวรอดในพรีเมียร์ลีกได้แน่ แต่สุดท้ายกลายเป็นเอาผลงานฟาดปากเหล่านักวิจารณ์จนเงียบกริบ ไม่กล้าไปแตะอีกเลย

เช่นเดียวกับ กาเซมิโร่ อาจมาช้าหน่อย แต่ยกระดับแดนกลางของ ยูไนเต็ด ให้ดูดีขึ้นกว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาแบบชัดเจน ส่วนในเคสของ คริสเตียน อิริคเซ่น ย้ายมาแบบฟรีๆ ก็กลายเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของทีมทั้งเรื่องประสบการณ์ และคลาสลูกหนังที่มากกว่าคนเก่าที่มีอยู่

ส่วนในช่วงเดือนมกราคมที่ไปดึง มาร์เซล ซาบิตเซอร์ กับ เวาท์ เวกฮอร์สต์ มาแบบยืมตัว ถือว่าเป็นสถานการณ์บังคับทั้งเรื่องการเงิน และต้องการเพิ่มขนาดทีม ก็ถือว่าไม่ได้เลวร้ายในการได้ตัวมาเพิ่มความแข็งแกร่ง

สรุปได้ว่าสองตลาดแรกของ เทน ฮาก กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ถือว่าสอบผ่านเลยทีเดียวในการแก้ปัญหาที่ถูกซุกไว้มาเนิ่นนาน แม้จะอุดรอยรั่วยังไม่หมด แต่ทิศทางมันดูดีมากกว่าเดิม ไม่ใช่การลงทุนแบบไร้ประโยคอย่างที่ผ่านๆ มา

ผลงานตลอดฤดูกาล

ก่อนฤดูกาลจะเริ่มเปิดฉากความคาดหวังของเหล่าบรรดาแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ย่อมแตกต่างกันออกไป แต่ที่แน่ๆ คือเป้าหมายของสโมสรคือการกลับไปติดพื้นที่ท็อปโฟร์อีกครั้ง พร้อมคว้าตั๋วไปลุยรายการ แชมเปี้ยนส์ลีก

แน่นอนว่าเป้าหมายนี้ทีมสามารถบรรลุจุดประสงค์ไปได้ พร้อมขยับขึ้นไปจบอันดับ 3 ของตาราง ทว่าในรายละเอียดระหว่างทางต้องบอกว่ามีอีกหลายจุดมากๆ ที่ เทน ฮาก ยังคงต้องเร่งแก้ไข เพื่อความสมดุล และเก็บผลการแข่งขันที่ดีมากกว่าเดิม

ส่วนในรายการบอลถ้วยจากสถานการณ์ตอนแรกพวกเขามีโอกาสทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ลีก คัพ, เอฟเอ คัพ และ ยูโรปา ลีก

ซึ่งจากจำนวนดังกล่าวทีมสามารถสอยมาครองได้หนึ่งรายการ และเป็นความสำเร็จครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 ในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ ส่วนในรายการอื่นๆ อย่าง ยูโรปา ลีก ก็พลาดท่าพ่ายให้กับ เซบีย่า ที่ต้องโทษตัวเองที่ไม่อาจกุมความได้เปรียบก่อนในเกมแรกที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก่อนโดนเจ้าพ่อถ้วยรองรายนี้ตบแบบไม่ยั้งในเกมเลก 2 จอดป้ายในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ในถ้วย เอฟเอ คัพ การผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ก่อนพ่าย แมนฯ ซิตี้ คือสถานการณ์ที่เชื่อว่าแฟนผีเข้าใจได้ เพราะด้วยคุณภาพ และศักยภาพขุมกำลัง เป็นรองในทุกเหลี่ยมมุม ก่อนสุดท้ายก็จบเพียงรองแชมป์

ซึ่งเมื่อมองภาพรวมในซีซั่นแรกของ เทน ฮาก ถือว่าทำได้ตามเป้าเหมือนกันมีโทรฟี่ความสำเร็จ และคว้าตั๋ว แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ 

แน่นอนมันตามเป้าที่แฟนบอลต้องการ และทำได้ตามเกณฑ์ที่ถูกขีดไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมพอสมควร

ตัดเกรดซีซั่น 2022-23 “แมนยูฯ” สอบผ่านหรือไม่ ?

สิ่งที่ดี - สิ่งที่ต้องแก้ไข

ประเด็นนี้ต้องแบ่งเป็นสองหัวข้อไปดูฝั่งเรื่องราวดีๆ ที่น่าชื่นชมกันก่อน คือเรื่องการเข้ามาของ เทน ฮาก สามารถแก้ไขปัญหามากมายที่ซุกอยู่ใต้พรมได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะยังไม่ใช่ทั้งหมด แต่ถือว่าเป็นการเดินหน้าที่เห็นถึงแสงสว่างในอนาคต

เทน ฮาก ได้สิทธิ์ในการควบคุมการซื้อนักเตะทั้งหมด ใครอยู่ในแผน หรือใครต้องตัดทิ้งโดยที่ไม่มีคำว่าซีเนียร์ รุ่นพี่ หรือวัยเก๋า ใครสร้างปัญหาพร้อมลงโทษ และถ้าแข็งข้อก็ต้องปล่อยออกไป

อีกทั้งเรื่องของทีมสปิริตที่ดีขึ้นกว่าในช่วงที่ผ่านมามากๆ ย้อนไปยุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา หรือ ราล์ฟ รังนิค ข่าวปัญหาในแคมป์สโมสรมีให้แฟนบอลได้เสพกันตลอด แต่ภายใต้การคุมทีมของ เทน ฮาก นั่นเป็นภาพที่แตกต่างกันออกไป นักเตะเคารพกุนซือ และกุนซือก็มอบใจ และซื้อใจนักเตะภายในทีมได้

สุดท้ายของเรื่องราวดีๆ คือการยกระดับผู้เล่นบางรายให้กลายเป็นคนใหม่ ยกตัวอย่าง อารอน วาน-บิสซาก้า จากตอนแรกตกเป็นตัวสำรอง และอาจถูกปล่อยออกจากทีม กลายเป็นแบ็คขวาตัวหลัก พร้อมยกระดับตัวอย่างจนกลายเป็นตัวจริงในที่สุด หรือ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ถูกปรับมาเป็นดาวยิงเลือดเย็นซัดประตูได้อย่างต่อเนื่อง แถมมีแท็คติกที่ยืดหยุ่นมากกว่าเดิม 

คราวนี้มาในส่วนที่ต้องแก้ไขกันบ้างหลักๆ เลยคือเรื่องของความสม่ำเสมอที่ฤดูกาลนี้มีช่วงฟอร์มดร็อปหลายครั้ง ซึ่งเข้าใจว่านักเตะบาดเจ็บแทบจะต่อแถวกันเข้าโรงหมอ ทว่าคนที่ต้องรับผิดชอบ และแก้ไขสถานการณ์ให้ได้นั้นคือตัวของ เทน ฮาก

แน่นอนถ้าปัญหาตรงนี้ถูกแก้ไข ทีมจะสามารถเก็บคะแนนได้มากกว่านี้ มีหลายครั้งที่หลุดไปแบบง่ายๆ 

อีกอย่างคือปัญหาเกมเยือน แม้ภาพรวม แมนฯ ยูไนเต็ด จะเก็บคะแนนได้มากที่สุดเป็นอันดับ 5 แต่ทว่าก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปถึง 8 เกม พ่วงเสมออีก 3 นัด เรียกได้ว่าทำแต้มหล่นไปมากพอสมควร

ปิดท้ายหัวข้อนี้คือเรื่องที่ต้องทำนอกจากปัญหาข้างต้นคือการเสริมทัพให้ตรงจุด อย่างตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าทีมต้องหาเพชฌฆาตเข้ามาให้ได้ ซีซั่นที่ผ่านมาต้องยอมรับน่าผิดหวังเหลือเกิน รวมไปถึงกองกลางที่ต้องเข้ามายกระดับให้ได้ เพราะถ้าหวังพึ่งพา เฟร็ด หรือ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ต่อไป ก็ยากในการเดินไปข้างหน้า

ตัดเกรดซีซั่น 2022-23

ถ้าเอามาตรวัดจากฤดูกาลก่อนต้องยอมรับว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ดีขึ้น และเปลี่ยนแปลงไปแบบชัดเจน ทั้งเรื่องหารบริหารทีม ผลงานในสนาม และความสำเร็จ

จบอันดับ 3 ได้ตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีก และมีโทรฟี่แชมป์ติดมือถือว่า เทน ฮาก สอบผ่านแบบฉลุยในขวบปีแรก แม้จะมีข้อให้ได้ตามเช็ดตามล้างแก้ไขอีกพอสมควร

ฉะนั้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นถ้าเปลี่ยนเป็นคะแนนเต็ม 10 ใส่ให้ เทน ฮาก และลูกทีมสัก 7 คะแนน ถือว่าเหมาะสมพอสมควร

อะไรที่ดีก็คงต้องรักษามาตรฐาน และยกระดับต่อไป ส่วนปัญหาที่ยังคงอยู่ต้องมาตามดูกันว่า เทน ฮาก และเหล่าคนคู่คิดข้างกายจะแก้ไขให้ดีขึ้นกว่าเดิมขนาดไหน

และแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ท่าอื่นๆ มองว่า เทน ฮาก และทีมรักของคุณควรได้สักกี่คะแนนในฤดูกาลที่เพิ่งผ่านพ้นไป ?

- Paolinho -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline